ใต้ตีนเผด็จการ

ตัวอักษรร้องไห้
คนเขียนร้องไห้
รู้เห็นกับตาต่อใจ ไม่บอดด้าน
เผด็จการก็คือเผด็จการ
ยังมีใครมองเห็นฮีโร่อีกไหม?

มองออกไป มองออกไปจากตัวเอง
แล้วจะพบผู้คนมากมายก้มหัวแนบพื้นดิน
ตั้งใจมอง แต่ไม่ต้องใช้ความพยายามมาก
ก็จะพบหัวแนบดินเหล่านั้นบดขยี้กับน้ำทีรินไหลจากตา
อดทนจับจ้องสักนิด เพื่อยินเสียงสะอึกสะอื้น
ระงม
และกรุณาอย่าด่วนคิดถึงตีนที่เหยียบหัวเหล่านั้น (แม้เหยียบจริง)
เปล่า
ผู้คนทิ้งหัวหมกดินสะอื้นไห้โหยหาน้ำตา
ที่เหือดหายไปนานแล้ว

เรื่องเล่าเช้านั้น

เช้าวันหนึ่ง
ลืมตา
ฝาผนัง เพดาน ห้อง
เปลี่ยนไป
 
นอกหน้าต่าง 
ไม่เห็นแสงแดด 
เปิดประตู ถูกล็อก
ไม่ได้ยินเสียงอื่น
นอกจากเสียงในหัวตัวเอง
 
เช้าวันนั้น

อาการสะลึมสะลือ ความรัก และประชาธิไตย

โลกสะลึมสะลือ
ในบรรยากาศแห้งห่าม
ห้วงขณะตื่นฝัน
 
เรามีโลกต่างใบ
โอฬารสถานที่รโหฐาน
ซอกถนนกับคฤหาสน์
ไม่ต่างกัน
 
ชีวิตเลือกได้
ช่างเป็นถ้อยคำบั่นทอน

ง่ายๆ

 
ผมคิด
คุณคิดไหม?
คิดว่าเขาคิดไหม?
แต่ละวันเราใช้ชีวิตเพื่ออะไร?
ตัวเอง ครอบครัว งาน เงิน 
ความฝัน ความรัก ความสุข 
อะไรนั่นนี่
คุณมีสิทธิ ผมก็มีสิทธิ เขาก็มีสิทธิ

มิติถ้อยคำ

1. ดาด

ถ้อยคำมีปีก
นึกถึงนก
ทั้งที่ผู้มีปีกไม่ใช่แค่นก

นึกถึงนกจากถ้อยคำมีปีก
ก็คิดถึงอิสระเสรี
ทั้งที่อิสระเสรีไม่ใช่นก
นกไม่จำเป็นต้องอิสระเสรี

โลกกว้างใหญ่
ในอาณาเขตคับแคบ
คนมากหน้า
ในวงหน้าจำกัด

เราเพื่อนกัน

แด่ท่านผู้แสวงหาความเป็นธรรมและยุติธรรมทั้งหลาย
เราคือเพื่อนกัน
ในเลือดเนื้อและหัวใจ
ไม่มีใครแบ่งแยกเราได้หรอก
ยามแผ่นดินลุกไหม้อำนาจถ่อยเถื่อนแผดเผา
คนหนึ่งลุกขึ้นยืนเป็นคน
แสนล้านคน
ลุกขึ้นยืนหยัดความเป็นคน