Skip to main content
 
 
คำว่า “ไฟต์บังคับ” เป็นภาษาในวงการมวย  หมายความว่าเมื่อนักมวยคนหนึ่ง(มักจะเป็นแชมป์) ถูกกำหนดโดยองค์กรที่เกี่ยวข้องว่า ครั้งต่อไปนักมวยคนนี้จะต้องชกกับใคร จะเลี่ยงไปเลือกชกกับคนอื่นที่ตนคิดว่าได้เปรียบกว่าไม่ได้

การเกิดขึ้นของ “สภาการศึกษาทางเลือก” ก็ทำนองคล้าย ๆ กัน คือถูกสถานการณ์บังคับว่า สภาฯนี้จะต้องทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ หนุนช่วย รวมทั้งผลักดันนโยบายในระดับรัฐ ตลอดจนทำความเข้าใจกับสังคมว่า ผู้ที่ไม่พอใจกับระบบการศึกษาที่รัฐกำลังดำเนินการอยู่ หรือผู้ที่ลูกของตนไม่ยอมไปโรงเรียนนั้น พวกเหล่านี้มีทางออก และสามารถจัดการศึกษาตามความต้องการของตนเองได้

คำว่า
“การศึกษาทางเลือก” เป็นคำที่ถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แต่น่าเสียดายที่ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรยังไม่ได้ออกกฎหมายมารองรับแต่อย่างใด

สภาการศึกษาทางเลือกจึงเกิดขี้นชนิดที่เป็น
“ไฟต์บังคับ”  ดังที่กล่าวแล้ว
เมื่อ 31 สิงหาคม 53   ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุม “สภาการศึกษาทางเลือก ครั้งที่ 1”  ซึ่งจัดโดยเครือข่ายคนทำงานด้านการศึกษาทางเลือกทั่วประเทศ  มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่าหนึ่งร้อยคน ผมเองไม่ได้มีตำแหน่งใดสภาการศึกษาทางเลือก แต่เป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรเล็ก ๆ ในเครือข่ายที่ชื่อว่า “ศูนย์พลเมืองเด็กสงขลา” จึงขอถือโอกาสนี้นำเรื่องราวมาเล่าให้ท่านผู้อ่าน “ประชาไท” ดังนี้

ท่านผู้อ่านอาจจะเริ่มสงสัยว่า
“การศึกษาทางเลือก” คืออะไร  ผมขอเรียนว่า นอกจากจะเป็นคำถามที่ตอบยากในเนื้อที่อันจำกัดแล้ว ในที่ประชุมเองก็กำลังครุ่นคิด ถกเถียงแลกเปลี่ยนกันในเรื่องนิยามนี่แหละครับ

ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนหนึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่สังคมไทยรู้จักกันดี เช่น คุณพารณ อิสรเสนา ณ อยุธยา (วัยกว่า
80 ปี) แห่งโรงเรียนดรุณสิขาลัย  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา แห่งโรงเรียนสัตยาไสย  รศ. ประภาภัทร นิยม  ผู้อำนวยการโรงเรียนรุ่งอรุณ  คุณครูรัชนี ธงไชย ผู้ก่อตั้งโรงเรียนหมู่บ้านเด็กเมื่อ 30 ปีมาแล้ว เป็นต้น

ดร.อาจอง กล่าวว่า
“ระบบการศึกษาไทยล้มเหลวมาตลอด เพราะเน้นการสร้างคนเก่ง เน้นการแข่งขันเพื่อเอาชนะ มีการกวดวิชากันมาก แต่คนเก่งก็สร้างปัญหาเพื่อเอาชนะคนอื่นให้ได้ ปัญหาของประเทศนี้มาจากคนเก่ง ความจริงเด็กทุกคนมีศักยภาพ ถ้าเราพัฒนาเขาถูกต้อง  แต่ถ้าเราให้เขาศึกษาตามที่เราชอบ เขาก็จะไม่รู้จักตนเอง”

รศ.ประภาภัทร กล่าวว่า
“เพราะกระทรวงศึกษาธิการเป็นอย่างนี้ จึงได้ผลักให้พวกเราต้องมาอยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ เราต้องมาจัดการศึกษาทางเลือกของพวกเราเอง”          

หากพิจารณาในภาพรวม จากรายงานสภาวะการศึกษาไทยปี
2551/2552     ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง บทบาทการศึกษากับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม  โดย รศ.วิทยากร เชียงกูล  ได้สรุปไว้อย่างชัดเจนว่า  
 
“การจัดการศึกษาของไทยเท่าที่ผ่านมายังไม่มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากพอที่จะไปแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศใเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนได้”

ข้อมูลเหล่านี้คงมีเหตุผลพอที่จะทำให้คนจำนวนหนึ่งต้องลุกขึ้นมาจัดการศึกษากันเอง และบางส่วนได้ทำมาอย่างยาวนานแล้วด้วย

ข้อมูลล่าสุดที่ผมได้รับ พบว่า คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ของเด็ก ม
.6 ทั่วประเทศ เมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 18%  ทำนองเดียวกัน ภาควิชาที่ผมทำงานอยู่ได้จัดทดสอบความรู้คณิตศาสตร์เบื้องต้นให้กับนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง(ที่สอบเข้ามาได้แล้ว) ก็สอบเป็นการวัดความรู้เบื้องต้นจริง ๆ แค่บวก ลบเศษส่วน การกระจายวงเล็บและแทนค่าฟังก์ชัน ผลการทดสอบพบว่า มีนักศึกษาผ่านระดับ 50% เพียงแค่ร้อยละ 19 จากทั้งหมดประมาณ 600 คน

เท่าที่ผมทราบจำนวนครอบครัวที่ไม่ยอมส่งลูกไปโรงเรียนและเปิดสอนด้วยตนเอง ที่บ้าน (
homeschooling)  นั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ   ในสหรัฐอเมริกาเองก็มีจำนวนถึงกว่า 2  ล้านคนหรือกว่า 2.7% ของเด็กทั้งหมด

สิ่งที่ผมประทับใจมากและนำมาเล่าในที่นี้ก็คือ เหตุการณ์ระหว่างพักการประชุม
  ผู้จัดได้นำวิดีโอซึ่งเป็นหนังสารคดีสั้น ๆ ออกมาฉาย คือเรื่อง  Children Full of Life  ซึ่งผมขอแปลว่า  “โรงเรียนชีวิตของเด็กญี่ปุ่น”  ท่านผู้อ่านสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เนตได้ที่ (http://www.arsomsilp.ac.th/?p=3298) ซึ่งเป็นความกรุณาของสถาบันอาศรมศิลป์  โดยมูลนิธิโรงเรียนรุ่งอรุณ  พร้อมด้วยคำบรรยายสั้น ๆ พอเข้าใจด้วยอักษรไทย

ผมตัดสินใจนำเรื่องนี้มาเขียนก็เพราะต้องการขยายผลครับ
  สิ่งดี ๆ เราต้องช่วยกันขยายครับ

เหตุเกิดกับชั้นเรียนชั้น ป
4/1 โรงเรียนแห่งหนึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว  ถ่ายทำเมื่อปี 2546  ผู้ถ่ายได้นำกล้องไปติดไว้ในชั้นเรียนตลอดทั้งปี  ดังนั้นท่าทางการแสดงออกของเด็ก 10 ขวบจึงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติมาก  ไม่ใช่การแสดง แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง  สารคดีชิ้นนี้ผลิตโดย NHK และได้รับรางวัล Global Television Grand Prize

ครูประจำชั้นได้ตั้งเป้าหมายพื้นฐานไว้ว่า ในชั้นเรียนผู้เรียนต้องมีความสุขและเราจะร่วมกันดูแลคนอื่นได้อย่างไร
วิธีการของครูประจำชั้น (ครูโตชิโร คานาโมริ) ก็คือ ให้เด็กทุกคนเขียนบันทึกทุกวัน แล้วนำมาอ่านดัง ๆ หน้าชั้นเรียนให้เพื่อนฟัง กติกาก็คือต้องเขียนเรื่องจริงที่เป็นความรู้สึกจริง ๆ มาจากภายในของตนเอง

ด้วยกระบวนการเช่นนี้เด็ก ๆ ได้เริ่มต้นเพื่อทำให้เห็นจริงถึงความสำคัญของการเอาใจใส่ผู้อื่น
  ครูคานาโมริบอกว่า “ความรู้สึกที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก”

ผมจดคำพูดนี้มาได้ตั้งแต่การชมครั้งแรก
  ผมพูดในเวทีการศึกษาทางเลือกว่า ประโยคที่ว่านี้ไม่สามารถสอนกันได้ด้วยตำราเล่มใดในโลก นอกจากการเผชิญกับประสบการณ์จริง

เด็กคนหนึ่งพูดถึงความตายของย่าของตน
  ส่งผลให้เด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งต้องสูญเสียพ่อของเธอ แต่เธอไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เธอเก็บความทุกข์มาครึ่งชีวิตเพราะเกรงว่าเพื่อนจะรู้ว่าตนไม่มีพ่อเหมือนเพื่อน ๆ คนอื่น  แต่หลังจากนั้นเธอก็กล้าพูดถึงพ่อของเธออย่างภูมิใจและมีความสุข  กระบวนการเปลี่ยนแปลงตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมากๆ

มีอยู่ตอนหนึ่ง
  เด็ก ๆ ตื่นเต้นมากที่จะได้ล่องแพที่พวกเขาร่วมกันทำมันขึ้นมาเอง  หลายคนสมัครใจมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติเพื่อมาทำกิจกรรมทำแพ

แต่มีเรื่องที่คิดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อเด็กคนหนึ่งถูกครูทำโทษไม่ให้ล่องแพเพราะชอบคุยในชั้นเรียน ครูเตือนแล้วก็ไม่ฟัง ปรากฎว่าเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของครู

“มันเป็นเรื่องอันตรายมากที่ จะลุกขึ้นมาท้าทายกับอำนาจ” 
แต่เพื่อน ๆ ก็มีความกล้าที่จะแสดงเหตุผลกับครู
“รุนแรงเกินไป ก็แค่คุยในห้องเรียนเท่านั้น”  “มันไม่ใช่แพของครู”  “การคุยในชั้นเรียนกับการทำแพมันเป็นคนละเรื่องคนละเหตุการณ์” และอื่น ๆ อีกเยอะที่เป็นเหตุผลของเด็ก ๆ  พวกเขาจะไม่ยอมล่องแพ หากว่าเพื่อนคนนี้ต้องยืนรอริมฝั่ง ในที่สุดครูประจำชั้นก็เห็นด้วยกับเหตุผลของเด็ก และอนุญาตให้เพื่อนคนนั้นล่องแพได้

สารคดีชุดนี้มี
5 ตอน แต่ละตอนยาวไม่ถึง 10 นาที แม้บางตอนผมได้ชมมา 3 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังอยากดูอีก เพราะยังเก็บรายละเอียดที่สำคัญได้ไม่หมด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจับมาได้ก็คือ ในชั้นเรียนเด็ก ๆ นั่งกันตามสบาย บางคนวางเท้าบนเก้าอี้ ครูก็ไม่ว่าอะไร

อย่าลืมนะครับ ติดตามชมสารคดีรางวัลระดับโลกกันแล้วจะเกิดแง่คิดทางปัญญาที่ลึกซึ้งของชีวิตสำหรับคนทุกคนทุกวัย ไม่ใช่เฉพาะกับเด็กเท่านั้น
 
 

 

บล็อกของ ประสาท มีแต้ม

ประสาท มีแต้ม
เราเคยสงสัยและตั้งคำถามเสมอมาว่า ทำไมราคาน้ำมันสำเร็จรูป (รวมทั้งราคายางพารา) ในภูมิภาคเอเซียจึงถูกกำหนดจากประเทศสิงคโปร์
ประสาท มีแต้ม
ตลอดช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันที่ปั๊มในบ้านเราได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้ราคาน้ำมันดิบจะสูงถึง 85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยที่ราคาเมื่อต้นเดือนมิถุนายนได้ขยับจาก 62 ถึง 68 ภายในเวลาเจ็ดวันเท่านั้น
ประสาท มีแต้ม
1. คำนำ บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ คือ หนึ่ง ให้เห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าของคนไทยโดยเฉลี่ยซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรายได้ และหากแผนผลิตไฟฟ้าดังกล่าวมีปัญหาแล้วจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างไร สอง เพื่อเล่าถึงการจัดทำแผนผลิตไฟฟ้าที่ผูกขาดโดย "กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ" จำนวนน้อยตลอดมาและจะชี้ให้เห็นถึงบางสิ่งที่ผมคิดว่า "น่าจะไม่ถูกต้อง" สาม หากท่านผู้อ่านได้เห็นปัญหาในข้อสองแล้ว จะได้เห็นความจำเป็นของ "การเมืองภาคประชาชน" ในการตรวจสอบโครงการของรัฐมากขึ้น
ประสาท มีแต้ม
1. คำนำ เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ตัดสินใจว่าจะอ่านบทความนี้ต่อไปหรือไม่ ผมขอนำประเด็นสำคัญมาเสนอก่อน  ประเด็นคือการวางแผนผลิตก๊าซที่ผิดพลาดทำให้คนไทยทุกคนต้องควักเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น จากรายงานประจำปี 2551 ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พบว่า ในปี 2551 บริษัท ปตท. ต้องจ่ายค่า "ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย" ก๊าซจากโครงการไทย-มาเลเซีย (ซึ่งเป็นโครงการสร้างความขัดแย้งมาตั้งแต่รัฐบาลชวน หลีกภัย และทักษิณ ชินวัตร จนถึงปัจจุบัน) เป็นจำนวน 13,716 ล้านบาท
ประสาท มีแต้ม
ในขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เริ่มต้นจากถนนวอลล์สตรีทในสหรัฐอเมริกากำลังลุกลามไปอย่างรวดเร็วราวกับลาวาภูเขาไฟไปสู่ทุกถนนของโลก ในภาคใต้ของประเทศไทยโดยหน่วยงานของรัฐและการนิคมอุตสาหกรรมก็กำลังดำเนินการให้มีแผนพัฒนาภาคใต้ด้วยโครงการต่าง ๆ มากมาย ทั้งโดยเปิดเผยและแอบแฝง ตัวอย่างของโครงการเหล่านี้ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ในจังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ จังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี โครงการขุดเจาะน้ำมันของบริษัทเซฟรอน ที่นครศรีธรรมราช ตลอดจนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึง 3 โรง นอกจากนี้ยังมีนิคมอุตสาหกรรมที่จังหวัดตรัง และท่าเทียบเรือน้ำลึกในจังหวัดสงขลาและอีกหลายจังหวัด…
ประสาท มีแต้ม
  เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 กระทรวงพลังงานในฐานะผู้รับผิดชอบหรือจะเรียกว่าผู้จัดทำแผนผลิตไฟฟ้าเองได้จัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อปรับปรุง "แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า" ในช่วงปี 2551 ถึง 2564 ซึ่งเป็นแผนที่ได้จัดทำไว้ก่อนปี 2551 ในการรับฟังครั้งนี้ก็เพื่อจะได้ปรับปรุงเป็นครั้งที่ 2 สาเหตุที่ต้องปรับปรุงก็เพราะปัญหาเศรษฐกิจถดถอยทั้งในระดับโลกและในระดับประเทศไทยด้วยนักวิชาการอิสระด้านพลังงานที่ไม่ใช่ข้าราชการของกระทรวงพลังงานก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจหลายอย่าง ขณะเดียวกันกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าก็ได้ตั้งคำถามพร้อมแผ่นผ้าด้วยข้อความสั้น ๆ แต่เข้าใจง่ายว่า "…
ประสาท มีแต้ม
คำนำ เมื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหาขายไม่ได้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจของโลก นักการเมืองรวมทั้งว่าที่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ได้เสนอมาตรการลดหย่อนภาษีค่าโอนบ้าน โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป ผมขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวข้างต้น แต่ขอใช้หลักคิดเดียวกันนี้เพื่อตั้งคำถามว่า ทำไมรัฐบาลจึงไม่ใช้มาตรการทางภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการพืชน้ำมันซึ่งได้แก่ ไบโอดีเซล และแก๊สโซฮอล์ ซึ่งโยงใยเกี่ยวเนื่องกันตั้งแต่เจ้าของโรงงานจนถึงเกษตรกรผู้ปลูกพืชน้ำมัน ( ปาล์มน้ำมัน อ้อย ฯลฯ ) เหล่านี้บ้างเล่า?
ประสาท มีแต้ม
1. คำนำ เมื่อราคาน้ำมันลดลงมาจากลิตรละราว 40 บาทจากเมื่อ 4-5 เดือนก่อนมาอยู่ที่ราว ๆ 20 บาท ทำให้คนไทยเราก็รู้สึกสบายใจ บางคนถึงกับกล่าวว่า “ตอนนี้จะไปไหนมาไหนก็ไม่ค่อยได้คิดมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” ในยุคที่การเมืองที่เต็มไปด้วยการฉ้อราษฎร์บังหลวง ผู้บริโภคจะพอใจอยู่กับตัวเลขที่อิงอยู่กับความรู้สึกเช่นนี้เพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ เราจะต้องลุกขึ้นมาช่วยกันตรวจสอบ ถามหาความความเป็นธรรม ความพอดีอยู่ตลอดเวลา เมื่อพูดถึงความรู้สึกที่สบายใจขึ้นของคนไทยในขณะนี้ ทำให้ผมนึกเรื่อง “นัสรูดิน” ชายชาวอาหรับโบราณที่คนรุ่นหลังยังตัดสินไม่ได้ว่า เขาเป็นคนเฉลียวฉลาดหรือคนโง่กันแน่…
ประสาท มีแต้ม
1. คำนำ ก่อนจะเริ่มต้นเนื้อหา เรามาดูรูปการ์ตูนสนุก ๆ แต่บาดใจและอาจจะบาดตากันก่อนครับ ความหมายในภาพนี้ ไม่มีอะไรมาก นอกจากบอกว่านี่ไงหลักฐานที่พิสูจน์ว่าโลกเราร้อนขึ้นจริง สำหรับภาพนี้บอกว่า ผลการศึกษาพบว่าอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้น นักวิชาการ (และนักการเมือง) กำลังระดมกันแก้ปัญหาอย่างขยันขันแข็ง ขอขอบคุณเจ้าของภาพทั้งสองด้วย คราวนี้มาเข้าเรื่องกันครับ ขณะที่โลกของเรากำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ 4 ด้านพร้อม ๆ กัน คือ (1) วิกฤติภาวะโลกร้อน (2) วิกฤติพลังงานที่ทั้งขาดแคลน ราคาแพง ผูกขาดและก่อวิกฤติด้านอื่น ๆ (3) วิกฤติการเงินที่เพิ่งจะเกิดขึ้นหยก ๆ…
ประสาท มีแต้ม
คำนำ “...เวลานี้สังคมไทยมีอาการป่วยอย่างร้ายที่สุด คือ ป่วยทางปัญญา ขอให้พิจารณาดูเถิด เวลานี้ปัญหาสุขภาวะที่น่ากลัวที่สุดคือ ความป่วยทางปัญญา...” พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต) มีนาคม 2551 ท่ามกลางกระแสการคิดค้นเรื่อง “การเมืองใหม่” ซึ่งขณะนี้สังคมบางส่วนเริ่มเห็นภาพราง ๆ บ้างแล้วว่ามันเป็นอย่างไร แต่ยังไม่มีความชัดเจนมากนักว่า สังคมไทยจะก้าวไปสู่สภาพนั้นได้อย่างไร และสมมุติว่าเราสามารถเข้าไปสู่สภาพนั้นได้จริง ๆ แล้ว เราจะรักษาและพัฒนาการเมืองใหม่ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีกได้อย่างไร ในที่นี้ ผมจะขออนุญาตนำเสนอหลักการพื้นฐานมาใช้ตอบคำถามดังกล่าว ผมเรียกหลักการนี้ว่า “กฎ 3…
ประสาท มีแต้ม
เมื่อต้นเดือนเมษายน 2551 หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ลงข่าวว่า "พลังงานเผยไทยผลิตน้ำมันดิบสูงกว่าบรูไน คุยทดแทนนำเข้าปีนี้มหาศาล" (ไทยรัฐ 2 เมษายน 2551)    สาเหตุที่ผู้ให้ข่าวซึ่งก็คือข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงานได้นำประเทศไทยไปเทียบกับประเทศบรูไน ก็น่าจะเป็นเพราะว่าคนไทยเราทราบกันดีว่าประเทศบรูไนเป็นประเทศส่งออกน้ำมันรายหนึ่งของภูมิภาคนี้ ดังนั้นเมื่อประเทศไทยเราผลิตน้ำมันดิบได้มากกว่าก็น่าจะทำให้คนไทยเราหลงดีใจได้บ้าง  นาน ๆ คนไทยเราจะได้มีข่าวที่ทำให้ดีใจสักครั้ง   หลังจากอ่านข่าวนี้แล้ว ผมก็ได้ค้นหาความรู้เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตก็พบว่า…
ประสาท มีแต้ม
1. คำนำ ขณะนี้มีผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังครุ่นคิดถึง "การเมืองใหม่" ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดนักว่ามันคืออะไรกันแน่ ทราบแต่ว่า "การเมืองเดิม" ซึ่งก็คือการเมืองแบบตัวแทน (representative democracy) กำลังมีปัญหาหลายอย่างและรุนแรงขึ้นทุกขณะบทความนี้จะนำเสนอความล้มเหลวของ "การเมืองแบบตัวแทน" อย่างสั้นๆ พร้อมกับนำเสนอ "การเมืองแบบไฮเพอร์ (hyperpolitics)" ให้พอเป็นประกายเบื้องต้น หากสังคมนี้สนใจก็มีช่องทางให้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมกันต่อไป2. สาเหตุความล้มเหลวของการเมืองแบบตัวแทนเราท่องกันจนขึ้นใจมาตั้งแต่วัยเด็กแล้วว่า สาเหตุสำคัญของการมี "การเมืองแบบตัวแทน" คือเป็นเพราะคนมันเยอะ…