Skip to main content

 

@ * " หะหาย กระต่ายเต้น ชมจันทร์
มันบ่เจียมตัวมัน ต่ำต้อย
นกยูงหากกระสันต์ ถึงเมฆ
มันบ่เจียมตัวน้อย ต่ำต้อย เดียรฉาน ฯ"

** "
หะหาย กระต่ายเต้น ชมแข
สูงส่งสุดตาแล สู่ฟ้า
ฤดู ฤดีแด สัตว์สู่ กันนา
อย่าว่าเราเจ้าข้า อยู่พื้น เดียวกัน ฯ
(
โคลงอิสรา)

***
หะหาย มารโฉดชั่ว กังฉิน
ตีนมิเคยติดดิน น่าขำขัน
อุปมาว่าเหิรฟ้าโบกโบยบิน เหนือผู้คนเฮย
โธ่ ทาสแท้คือคนอัน ก ด ขี่ ป ระ ชา ช น ฯ

****
อ ภิ สิ ท ธิ ช น ชั่วช้า ต่ำทราม
ขี่คอคนทุกโมงยาม นานเนิ่นแล้ว
บัดนี้ชนทุกเขตคาม เริ่มรู้กลเล่ห์ นาเฮย
พรั่งพร้อมพลังแกร่งกล้า โค่นล้ม "มารครองเมือง"
(
กาพย์อิสระ)

- - - "
ปี ใ ห ม่ - ปี แ ห่ ง ชั ย "
แสงเรืองไร ปลุกค น ตื่ น
เ ร็ ว ร่ ว ม พ ลิ ก ฟื้ น
สัง ค ม ใ ห ม่ ใ ห้ ง ด งา ม! ! ! @

ต้นฤดูหนาว, ธันวาคม, ๒๕๕๒, ล้านนาอิสระ, เจียงใหม่.

*
ในเครื่องหมายคำพูด คือบทโคลงของนางสนมเมียน้อยของพระนารายณ์มหาราชสมมุติที่มิสมมุติที่หมิ่นหยามประชาชน หมิ่นหยามปู่ "ศรีปราชญ์"
**
บทโคลงของ "ศรีปราชญ์" ที่ตอบโต้เมียหลายคน(เมียน้อย) ของพระนารายณ์ มัน มันส์ จิง จิง พะ ยะ คับ
***
บทเพลงของน้า "หว่อง คาราวาน" (มงคล อุทก)
****
อันนี้ของข้าน้อยผู้ไม่ประสีประสากับกลอน กาพย์ ฉันท์ โคลง ร่ายเอง ฯลฯ

สวัสดีปีใหม่สมมุติคับ

 

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
 *--*--*{ กาพย์”ลุกขึ้นสู้” }
แสงดาว ศรัทธามั่น
{  กลอนเปล่าอิสรา  }@  ลมหนาวเหนือ พัดโชยมา…ยามต้องไล้ผิวกายร้อนที่รุ่มก็คลายกลิ่นอายเหมันตฤดู …ไม่รู้ลืม @
แสงดาว ศรัทธามั่น
 
แสงดาว ศรัทธามั่น
 ***** --*-- ***** --*-- *****@   “  ฮา  ติง จัง…จังคนมีอำนาจล้นฟ้า  แต่รังแก คนยากไจ้ อำนาจ แบบ ต๋ามใจ๋ เขา “น้องสาว  ผู้ดีงาม ใจงาม ของฉัน  แล ของโลกชีวิต อีกคนหนึ่ง