1.Rate R ( สีสวยแห่ง รุ้งสาย )
หากเรา * “มองดูความเป็นจริงสิ”
ในเนื้อหา เราจะเห็นเนื้อหาที่แท้จริงของสีสมมุติ
หากเรา * “มองดูความเป็นจริงสิ”
ในเนื้อหา เราจะเห็นเนื้อหาที่แท้จริงของสีสมมุติ
ขาว
แดง
เหลือง
เขียว
ชอล์ค (สีน้ำตาล)
น้ำเงิน
ชมพู
ดำ
แดง
เหลือง
เขียว
ชอล์ค (สีน้ำตาล)
น้ำเงิน
ชมพู
ดำ
ล้วนมีความงามหลากสีสถิตอยู่บนโต๊ะสนุกเก้อร์สักหลาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเขียวอันนวลนุ่ม
อันมีพี่น้อง มาร์กกี้สาวสวยคอยบริการบรรจงเอาชอล์คฝนปลายไม้คิวให้เนียนนุ่ม
ยืนกับพื้นให้ถูกจังหวะก้มตัวลง เอาไม้คิวจรดปลายคาง
สาวไม้คิวด้วยลีลาสง่างามพร้อมนิ่งในสมาธิบรรจงแทงลูกบิลเลียดสีขาว
ด้วยฝีมืออันคมเฉียบขาดแห่งลีลาการแทงสนุ๊กเก้อร์
- - ตบ เช็ด เบิ้ล ชิ่ง สกรู ฯลฯ
ส่งลูกบิลเลียดหลากสีลงสู่หลุมทั้งหกจนหมดโต๊ะหลากสีแห่งลูกบิลเลียด งดงามดั่งสีแห่งสายรุ้งทอแสง
อันเปล่งประกายบนทุ่งฟ้ายามพระพิรุณโปรยสาย
โอ้ เจ็ดสีแห่งรุ้งสายคือรักอันงดงามยามยลชม
… ภราดา ภราดร … มิตรสหาย
สีสมมุติงดงามล้วนเป็นหนึ่งเดียว !
2. Rate X ( หลอมรวมพลังแห่งสี )
ณ ช่วงเพลาหนึ่ง สีสมมุติมิกลมเกลียว ต่างสาปแช่ง โกรธเกลียด ก่นด่า ห้ำหั่น เข่นฆ่ากัน ฯลฯ
หลั่งเลือด บนผืนพสุธา
พี่น้องผองเพื่อนพี่น้องสีสมมุติทั้งหลายเอ๋ย
ผองเธอก็เศร้าโศกโศกาจาบัลย์เฉกกัน
เพื่อนเอ๋ย … มิตรสหายเอ๋ย…
** "สุดที่รักเอย"
แต่ละสีสมมุติแห่งเธอก็มีคุณูปการอันยิ่งใหญ่ต่อสังคม
สีสมมุติงดงามล้วนเป็นหนึ่งเดียว !
2. Rate X ( หลอมรวมพลังแห่งสี )
ณ ช่วงเพลาหนึ่ง สีสมมุติมิกลมเกลียว ต่างสาปแช่ง โกรธเกลียด ก่นด่า ห้ำหั่น เข่นฆ่ากัน ฯลฯ
หลั่งเลือด บนผืนพสุธา
พี่น้องผองเพื่อนพี่น้องสีสมมุติทั้งหลายเอ๋ย
ผองเธอก็เศร้าโศกโศกาจาบัลย์เฉกกัน
เพื่อนเอ๋ย … มิตรสหายเอ๋ย…
** "สุดที่รักเอย"
แต่ละสีสมมุติแห่งเธอก็มีคุณูปการอันยิ่งใหญ่ต่อสังคม
- - สีสมมุติหนึ่ง ก็เปิดโปงเผด็จการพลเรือนทุนนิยมสามานย์สุดโต่งอ้ายทักษิณฯ ที่ฉ้อฉลทำลายรากเหง้าวิถีชีวิตของชุมชน ประชาชนและโลกธรรมชาติชีวิต ข้าพระพุทธเจ้าขึ้นเวทีเสื้อเหลืองตอนแรกก็ต้องการโค่นล้มระบบทักษิโนมิคส์ มิได้ต้องการให้เผด็จการทหาร คมช.มาทำการรัฐประหารดอก ข้าพระพุทธเจ้ารู้ว่าในแกนนำบางส่วนและกวี ศิลปิน นักเขียนบางส่วนก็ต้องการแบบนั้นที่ต้องการโค่นล้มเผด็จการพลเรือนทักษิณฯ และแกนนำบางส่วนก็ต้องจำเป็นต้องชูเผด็จการศักดินาอมาตยาฯ เพราะในหมู่ผู้ชุมนุมก็มีพวก loyalists มากด้วย จึงต้องรู้จัก “ แสวงจุดร่วม – สงวนจุดต่าง” … ประดากวี นักเขียน ศิลปิน คนเพลง ฯลฯ บางส่วนก็ขึ้นเวทีด้วยจุดนี้ เราอย่าเหมารวม ว่าเป็นพวก loyalists (แต่ตอนนี้ข้าพระพุทธเจ้าเห็นว่าต้องเลิกชูได้แล้ว)
- - อีกสีสมมุติหนึ่ง ก็เปิดโปงเผด็จการศักดินาอมาตยาฯ (อย่าไปเรียกว่าประชาธิปไตย) และเผด็จการท็อปบูททหาร ตลอดจนเผด็จการพลเรือนพรรคอนุรักษ์นิยมประชาธิปัตย์ อันมีน้องอภิสิทธิ และอ้ายเทพเทือกฯ เป็นรัฐบาลเผด็จการในขณะนี้ ที่ขี่คอ นั่งอยู่บนหลังไหล่ประชาชนชาวไพร่ราบตีนติดดิน (รวมทั้งชนชั้นกลางด้วย) มานานแสนนาน พี่น้องสีสมมุตินี้ได้เปิดโปงให้ประชาชนชาวบ้านได้เห็นธาตุแท้ของพวกเขา ให้ประชาชนได้เข้าใจ (ขอบอก ตอนนี้ข้าพระพุทธเจ้าได้ร่วมขึ้นเวทีอภิปรายและอ่านบทกวีบนเวทีของเสื้อแดงสีต้องการโค่นล้มระบบเผด็จการพลเรือนสามานย์สุดโต่งแห่งระบบอภิสิทธิ์ –เทพเทือก, ศอฉ. และเผด็จการศักดินาอมาตยาฯ (พี่น้องเสื้อเหลืองสมมุติโปรดอย่าโกรธและตัดสินข้าพระพุทธเจ้าเหมือนพี่น้องกวีชาวเว็บสีแดงสมมุติบางชีวิตที่ตัดสินข้าพระพุทธเจ้ามาแล้ว! เมื่อข้าพระพุทธเจ้าขึ้นเวทีคนเสื้อเหลืองสมมุติที่ลานพระพุทธรูปทรงม้า)
“ฉันจะขี่คอ นั่งอยู่บนหลังไหล่เธอประชาชนไพร่ราบ แต่ฉันจะพยายามทำน้ำหนักตัวให้เบาที่สุดเพื่อเธอจะมิได้แบกรับน้ำหนักฉันมากเกินไป"
โอ นี่คือความมหากรุณาที่เผด็จการทุกสายพันธุ์ กรุณาปราณีต่อมหาประชาชนใช่ไหม? (ชิมิ)
เอ๊ะ งั้นก็แสดงว่าพวกเขาจะไม่ยินยอมลงมาจากคอ หลัง บ่าไหล่ของไพร่ราบมหาประชาชน …ชิมิ ช่ายไหม? เออเพราะมันก็เหมือนทำการประชาสงเคราะห์ให้ประชาชนแบมือขอความเมตตากรุณาจากพวกเผด็จการทุกสายพันธุ์นั่นเอง! ที่ฉ้อฉลทำลายธรรมชาติชีวิต รากเหง้าของชุมชนประชาชนนั่นเอง อันมิเคย และไม่มีทางที่จะแก้ไขต้นตอสาเหตุแห่งปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนได้ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาแห่งความอยุติธรรม และปัญหาระบบโครงสร้างสังคมอันห่วยแตกนี้ได้ซักกะที!
ระบบโครงสร้างสังคมของประเทศสมมุติทั้งโลกประกอบด้วย …
* ระบบเศรษฐกิจ
* ระบบการเมือง
* ระบบการศึกษาวัฒนธรรม (ในส่วนที่ไม่ได้เรื่อง … บางเรื่องที่ใช้ได้ก็อนุรักษ์กันต่อไป)
หากเรามองเห็นเข้าใจปัญหาระบบโครงสร้างสังคมในส่วนที่โคตรห่วยแตกนี้ มหาประชาชนประชาชนก็จักรวมพลังแก้ไขปัญหานี้ได้ อย่างแน่นอน!
…"สุดที่รักเอย" … มิตรสหาย พ่อแม่พี่น้องประชาชนเอย ตามความคิดเห็นของข้าพระพุทธเจ้า (เพียงคนเดียว)
… มหาประชาชนเราต้องช่วยกันปฏิวัติระบบโครงสร้างสังคมอันห่วยแตกนี้ให้ได้ อย่าใช้วาทกรรมว่าปฏิรูปเลยมันแก้ไขปัญหาแบบถึงรากถึงโคนบ่ได้ดอก องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสทำนองว่า … “เมื่อเหตุดับ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับ” นี่คือสัจธรรม! แต่ว่าประชาชนจะมี “ยุทธศาสตร์ - ยุทธวิธี” ในการเคลื่อนไหวอย่างไร? ก็ขึ้นอยู่กับมหาประชาชนจักช่วยกันคิดค้นในการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรมเป็นไท อย่างมีสติและเป็นเอกภาพ
… สลัดชนชั้นผู้กดขี่ขูดรีดประชาชนมานานแสนนาน ให้พวกเขาลงจากหลังบ่าไหล่ ไปนอนแอ้งแม้งจูบดินเล๊ย เพราะพวกเขาไม่มีวันที่จะลงแน่นอน
… สีแสง แห่งมหาประชาชนและผู้รักธรรมทุกชนชั้นทุกชั้นชน ที่มีอุดมการณ์ มีจุดยืน และมีหัวใจจิตวิญญาณขบถ (มิใช่แค่จินตนาการที่เป็นนามธรรม) ทั้งหลายเท่านั้น ที่จะลงไม้ลงมือทันที พร้อมๆกับมียุทธศาสตร์ยุทธวิธีในการเคลื่อนไหว และต้องทำความเข้าใจในสภาพสังคมเป็นจริงที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันให้ได้ ไม่ใช่เอาอัตตาตัวตนไปตัดสินเพียงฝ่ายเดียว และทำตัวเป็นผู้พิพากษาไปทั่วซะเอง ทำเอาแนวร่วม say goodbye ไปตามๆกัน มิเช่นนั้นเราจักไร้เดียงสาทางการเมืองทางการเคลื่อนไหวทางการต่อสู้ ที่กำลังแหลมคมในทุกขณะนี้
มารวมพลังกันเถิด ผู้รักธรรมรักความเป็นไท ที่มีจุดยืนเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้ดีงามทั้งหลาย (เอ๊ะ ข้าพระพุทธเจ้าเรียกร้องเกินไป หรือฝันหวามเกินไปไหมนี่?) ช่วยกันสลัดพวกเผด็จการทุกสายพันธุ์ให้มันหล่นลงไปจากหลังบ่าไหล่ของประชาชนเสียที
No Colour … สลายสีในสถานการณ์ดุเดือดแหลมคมทางการเมืองในขณะนี้
*** “พึงอย่ายึดมั่นถือมั่น” คงมั่นยิ่งกว่าภูผา มีทั้งจุดยืน จุดนอน จุดนั่ง ฯลฯ
**** “ฝ้นให้ไกล ไปให้ถึง” …
***** “เยาว์ที่รัก จงใฝ่ฝัน แต่อย่าเพ้อฝัน”
*** “พึงอย่ายึดมั่นถือมั่น” คงมั่นยิ่งกว่าภูผา มีทั้งจุดยืน จุดนอน จุดนั่ง ฯลฯ
**** “ฝ้นให้ไกล ไปให้ถึง” …
***** “เยาว์ที่รัก จงใฝ่ฝัน แต่อย่าเพ้อฝัน”
พึงก้าวล่วงจากสถาบันและตัวบุคคล แล้วมหาประชาชนจักมีพลังอันกว้างใหญ่ไพศาล ในการที่จะโค่นล้มระบบโครงสร้างสังคมอันสามานย์มานมนานนี้ได้ !!!
ปลายฝน – ต้นหนาว, ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
ล้านนาอิสระ , เชียงใหม่.
บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น
แสงดาว ศรัทธามั่น
{ กลอนเปล่าอิสรา }@ ลมหนาวเหนือ พัดโชยมา…ยามต้องไล้ผิวกายร้อนที่รุ่มก็คลายกลิ่นอายเหมันตฤดู …ไม่รู้ลืม @
แสงดาว ศรัทธามั่น
***** --*-- ***** --*-- *****@ “ ฮา ติง จัง…จังคนมีอำนาจล้นฟ้า แต่รังแก คนยากไจ้ อำนาจ แบบ ต๋ามใจ๋ เขา “น้องสาว ผู้ดีงาม ใจงาม ของฉัน แล ของโลกชีวิต อีกคนหนึ่ง