วันนี้ ขอพูดเรื่องเบาๆ อาจจะมีเรื่องของการเมืองท้องถิ่นบ้าง ตอดนิด ตอดหน่อยบ้าง ก็ขอ สูมาตวย เน้อเจ้า
หากเราเป็นนักเดินทางไกลในสยามประเทศนี้แหละ ( ไม่ใช่ประเทศไทย ต้องเรียกว่า สยาม เพราะแผ่นดินนี้มีพี่น้องทุกชนชาติทุกเผ่าพันธุ์ มิใช่เพียงแค่คนในกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ชนชั้นปกครอง อภิสิทธิ์ชนรุกรานเขาไปทั่ว พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ และพี่น้องภาคกลางไม่เกี่ยวเพราะเราคือพี่น้องกัน และที่เราด่าจักรพรรดินิยมอเมริกา, อังกฤษ ฯลฯ เราด่าชนชั้นปกครอง รัฐบาลที่เผด็จการเท่านั้น ประชาชนไม่เกี่ยว เพราะเราคือพี่น้องกัน) … ขออนุญาตพูดคำที่ดัดจริตเรียกว่า คำไม่สุภาพ หน่อย …. “ไอ้ห่าหอก พวกชนชั้นปกครอง อวิชชาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ อายุตั้งเมืองของพวกเอ็งมีแค่สองร้อยกว่าปี …. ภาคใต้ ล้านนา อิสาน ฯลฯ มีอายุนับพันกว่าปี มากกว่าโคตรพ่อโคตรแม่มึงซะอีก ”
เอ๊า ตัดฉากมาพูดถึง กรมทางหลวง , แขวงการทาง ที่อยู่ในอาณัติของพวกเผด็จการศูนย์กลางอำนาจรัฐที่กรุงเทพฯ ซักกะหน่อย … กระทรวงคมนาคม และกรมทางหลวง ตลอดจนแขวงการทาง … ที่จะทำอะไรก็ได้ในการข่มขืนชุมชน โดยคิดว่าเป็นเจ้าของประเทศอัน เป็นส่วนหนึ่งของเผด็จการทุกสายพันธุ์ที่เสือกมาปกครองประชาชน คิดจะทำอะไรก็ได้เพราะได้ผลประโยชน์เต็มที่กะพวกผู้รับเหมาก่อสร้าง ฯลฯ … จะตัดถนน สร้างถนน สอง สาม สี่ ห้า หก เลน ฯลฯ ก็จะทำ เวนคืนค่าที่ดินให้ประชาชนชาวบ้าน อ้างว่าทำเพื่อความเจริญของประเทศชาติ … แต่ไอ้หอกหักเอ๊ย ให้เงินค่าเวนคืนชาวบ้านกระจิ๊ดเดียว แล้วชาวบ้านจะเอาเศษเงินที่เป็นเงินเดือนภาษีให้พวกมึงแดก …เอาไปซื้อที่แพงแสนแพงได้อย่างไรฝ่ะ เอาหัวแม่ตีนมึงตรองดู เซ่ … ไอ้หน้าไม่ฉลาด … ถ้ามึงเป็นพี่น้องชาวบ้านที่อาศัยอยู่ ณ ที่นั่น แล้วมาถูกไล่ที่ ถูกเวนคืน มึงจะยอมไหม? มึงจะรู้สึกอย่างไร? ไอ้พวกเผด็จการกรมทางหลวง และไอ้พวกแขวงการทางเอ๋ย… มึงรู้แล้วใช่ไหมว่าพี่น้องชาวบ้านเขาไม่รู้สิทธิ์ในการต่อต้านคัดค้าน เขาก็ต้องยอมเพราะเขาคิดว่าราชการเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ นี่แหละคือศักดินาอภิสิทธิ์ชนชัดๆ … แต่ถ้าเขารู้เรื่องสิทธิชุมชนของเขาแล้ว เขาจะไม่ยอมแน่นอน… ดังเช่นกรณีพี่น้องชุมชนมุสลิมบ้านครัว ที่พวกราชการหรือพวกทางหลวงจะผ่าตัดสร้างทางด่วนผ่านบ้านเขา เขาไม่ยอมเด็ดขาด พี่น้องชาวบ้านและผู้รักความเป็นธรรมทั่วประเทศช่วยให้กำลังใจทั้ง กวี นักคิด นักเขียน ศิลปิน นักศึกษา นักวิชาการ ฯลฯ ก็ไปร่วมช่วยให้กำลังใจ ฉันเองก็ไปด้วย
… เอาเถอะ ตอนนี้ พี่น้องชาวบ้านเริ่มเรียนรู้เรื่องสิทธิชุมชนแล้ว เอ็งจะทำอะไรง่ายๆ ไม่ได้ด๊อก
ค รา นี้ ฉันขอพูดถึงเรื่องเกาะกลางถนน ที่แบ่งเป็นเลนๆ ให้รถสัญจรไปมา ฉันนั่งรถไปต่างจังหวัดหลายที่หลายแห่งทั่วทุกภาค หลายแห่งเขาปลูกต้นไม้ยืนต้นหลากหลายชนิด ใบไม้สีเขียวดูแล้วเย็นชุ่มฉ่ำตา ต้นไม้ที่ปลูกก็ใช้ประโยชน์ได้ด้วย เช่น ต้นมะขาม มะม่วง มะขามป้อม มะขามเทศ ต้นกล้วย ฯลฯ พี่น้องชาวบ้านร้านถิ่นแถวนั้นก็เก็บเอามากินได้ นก หนู แมลงก็มากินได้ ดูแล้วช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก ณ ที่จังหวัดนั้น ย่อมแสดงว่า ทางหลวง และแขวงการทางที่นั่น เขามีกึ๋น เข้าใจ รับรู้ ว่าควรจะปลูกอะไร แต่ในส่วนทั้งหมดไม่เป็นเช่นนั้น เอาอะไรมาปลูกก็ไม่รู้ เป็นต้นไม้ พันธุ์ไม้จากต่างประเทศ เช่น เอาต้นปาล์มบ้าง ต้นสนบ้าง ฯลฯ มาปลูก มันมีประโยชน์อันใดเล่า? โอเค คุณจะปลูกไม้ดอก ไม้ประดับก็ได้ ที่เป็นของเอเชีย ปลูกให้คละเคล้ากันไป ทั้งไม้ดอก และ ขอโทษ… ทั้งไม้แดกก็ได้ ฯลฯ ป๊าดโท๊ะ มันมีเสน่ห์จะตายไป พี่น้องผองเพื่อนเอ๋ย … พี่น้องชาวบ้านก็ได้ประโยชน์ในการเก็บกินด้วย เอ๊า ถ้าพี่น้องเพื่อนฝูงที่ขับรถทางไกลไปเจอะเจอ ต้นมะขาม ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง มะยม มะขามป้อม มะขามเทศ หรือพืชผักต่างๆ พอเห็นก็สามารถจอดรถ ลงไปปีน ไปเก็บได้ โอ้แสนจะมีเสน่ห์จะตายไป เจ้า …
- - - ถนน สอง สาม สี่ เลนในเมืองก็เฉกกัน ก็พึงปลูกด้วย … อีกเรื่องหนึ่ง คือ ต้นไม้ใหญ่โบราณที่อยู่มานาน กรมทางหลวงและแขวงการทางมักจะตัดโค่นทิ้ง เพื่อขยายถนน ปัดโธ่ กว่าพี่ต้นไม้จะเติบใหญ่ พี่เค้ามีอายุนับร้อยนับพันปีมาแล้ว พวกมนุษย์ราชการที่ไร้ซึ่งชีวิตจิตวิญญาณ ให้คนงานเอาเลื่อยยนต์ตัดชั่วประด๋าวประเดี๋ยว ก็พินาศแล้ว… โอ้อกเอ๋ย… มนุษย์อวิชชา
… ในประเทศอื่นๆ เขาเห็นคุณค่าของต้นไม้ เขาไม่ตัด เขาให้คนขับรถ ขับหลีกต้นไม้ คือคารวะต้นไม้ ซึ่งเป็นแม่พระธรรมชาติ ของมนุษย์ ฉันเคยนั่งรถเดินทางไกลไปต่างจังหวัดแถวๆ ภาคกลางจังหวัดเล็กๆ นี่แหละ ผ่านถนนที่มีต้นไม้อยู่กลางถนน เขาไม่ตัดเลย รถยนต์ก็ขับอ้อมหลีกทางให้ต้นไม้ งดงามนัก แสดงว่ากรมทางหลวง และแขวงการทางที่นั่นเขามีกึ๋นมีจิตวิญญาณรักคารวะแม่พระธรรมชาติ ฉันต้องขอคารวะ และชมเชย
- - - ครานี้จะขอยกตัวอย่างที่บ้านฉัน ล้านนาอิสระ เจียงใหม่ นานแล้ว พวกกรมทางหลวง และ แขวงการทางฯ อวิชชาสุดโต่ง แมร่งตัดต้นไม้หมดเลย ในการขยายถนนน ต้นไม้ฉำฉา (จามจุรี) หน้าคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อายุยืนนับร้อยปี เป็นร่มเงาร่มรื่น มันก็ตัดเลย แม้พวกเราจะต้านก็ต้านไม่ไหว และอีกที่หนึ่ง ณ กาดต้นขะยอม (ตลาดต้นพะยอมเชิงดอยสุเทพ) มีต้นขะยอมมาก เขามีชีวิตอยู่นับร้อยๆ ปี เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เขาจีงเรียกตลาดนี้ว่าตลาดขะยอม เทศบาลนครเชียงใหม่บอกว่าจะขยายถนนที่กาดต้นขะยอม ตอนแรกจะตัดหมด แต่โดนต่อต้านจากกลุ่มรักเจียงใหม่ จึงเปลี่ยนเป็นขุดย้ายไปปลูกที่ สวนหลวง ร. ๙ สักสองสามวันฉันตามไปดู อนิจจา ต้นขะยอมร้องไห้น้ำตาไหล เขาคงเจ็บปวด ฉันเอื้อมมือโอบกอดและซับน้ำตาเขา ในขณะที่น้ำตาฉันซึมไหล อีกไม่นาน ไปอีกทีต้นขะยอมก็เสียชีวิตแล้ว เทศบาลอ้างว่าต้นขะยอมข้างกาดขะยอมเกะกะ ในการขยายถนนต้องตัดต้องย้าย เพื่อไม่ให้รถติด แต่มาจนตอนนี้รถก็ยังติดอยู่ เป็นแค่ข้ออ้าง … มีอีกที่หนึ่ง ถนนใกล้ตลาดช้างเผือก ก็จะตัดต้นไม้สักข้างถนน ครานี้ถูกต้านอย่างหนัก มิเช่นนั้นต้นไม้สักต้องโดนตัดไปเรียบร้อยแล้ว … เอ๊า อีกตัวอย่างหนึ่ง กรมทางหลวงจะขยายถนนหน้าวัดเจ็ดยอด จะพังโบราณสถานริมถนน แต่ก็ถูกต่อต้าน ที่สุดก็จำเป็นต้องหลีกไป
… ฉันขอปรึกษาหารือ ถามพี่น้องสาธารณชนว่า จะทำฉันใดที่จะ stop หยุดยั้งไอ้พวกที่คอรัปชั่น เชิงโครงสร้าง เชิงบูรณาการนี้ได้ ในแม็กกะโปรเจ็คต่างๆ ที่ทำมาหาแดกทั่วประเทศ !
แม่มมมม ถมแผ่นดินชุ่มน้ำ (wet land) ที่เก็บน้ำในหน้าฝน และเป็นที่หากินของพี่น้องชาวบ้านที่หาหอย ปู ปลา สัตว์น้ำ ฯลฯ น้ำท่วมทั่วประเทศทุกภาคก็เพราะการถมถนนกั้นทางไหลของน้ำ ถมแผ่นดินชุ่มน้ำ ตลอดจนพวกนายทุนทำบ้านจัดสรรอีกด้วย
โอ้ ไอ้พวกมนุษย์อวิชชา ใจหยาบบาปหนา ทำลายรากเหง้าวีถีชีวิตของชาวบ้านและของมันเอง ตวย
หนักแผ่นดิน จิง จิง เลย เราจะทำอย่างไรกะมันดีหนอ?
ปลายฤดูหนาว, เชิงดอยสุเทพ, ล้านนาอิสระ, เจียงใหม่, 19 กุมภาพันธ์ 2554
บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น
แสงดาว ศรัทธามั่น
{ กลอนเปล่าอิสรา }@ ลมหนาวเหนือ พัดโชยมา…ยามต้องไล้ผิวกายร้อนที่รุ่มก็คลายกลิ่นอายเหมันตฤดู …ไม่รู้ลืม @
แสงดาว ศรัทธามั่น
***** --*-- ***** --*-- *****@ “ ฮา ติง จัง…จังคนมีอำนาจล้นฟ้า แต่รังแก คนยากไจ้ อำนาจ แบบ ต๋ามใจ๋ เขา “น้องสาว ผู้ดีงาม ใจงาม ของฉัน แล ของโลกชีวิต อีกคนหนึ่ง