@ มี คนล้านนา ที่ไปอยู่ เมืองนอก post มาหาฉันใน Blogazine Web. ประชาไท ที่ฉันเขียนประจำอยู่ที่นั่น
“ ข้าเจ้า ฟังเพลง “ ของกิ๋นคนเมือง ” ของอ้าย จรัล แล้ว อยากกิ๋นอาหารปื้นเมือง บ้านเฮา และก่ออยากปิ๊กบ้านเฮาขนาดเจ๊า ”
สุภาพสตรี อยู่ไกลสุดขอบฟ้านู้น บอกมาทำนองนี้ เธอหมายถึง “ อ้ายจรัล มโนเพ็ชร ” ศิลปินพื้นบ้าน ล้านนาของหมู่เฮา
“ อ้ายเหย ผมฟังเพลงของอ้ายจรัล แล้วไค้เติงหาบ้านขนาด อ้ายจรัล นี้สุดยอดบ่าก๊วยเต้ด แต๊ๆ ศิลปินบัลลาด พื้นบ้าน ของเฮาแล้ว ”
อาจารย์ “ธเนศวร์ เจริญเมือง ตอนที่ไปเรียนปริญญาเอกที่อเมริกา ก็เขียนจดหมายมาบอกในความรู้สึกเช่นนี้ เขายกย่องอ้ายจรัลฯ ที่ทำเพลงพื้นบ้านให้คนทั่วประเทศฟัง ตลอดทั้งทางสากลก็ชอบฟังกันด้วย …
- - - ใช่แล้ว เขา คือ “ จรัล มโนเพ็ชร ” ศิลปินเพลง Ballad เพลงพื้นบ้านแห่งล้านนา ที่แต่งเพลง ร้องเพลงขับกล่อมหมู่เฮา ขับกล่อมโลก นิรันดร์มา ซึ่ง บัดนี้ อ้ายจรัลฯ ได้อำลาจากหมู่เฮาแฟนเพลง ครบ ๑๑ ปีแล้ว ฝากความหลัง ตำนาน ประวัติชีวิต และบทเพลง เสียงเพลงที่ไม่มีวันตาย ให้เราได้รำลึกถึงอยู่ตลอดเวลา …
. . . “ อ้ายจรัล มโนเพ็ชร ” ลืมตาดูโลก วันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๔ และ กลับคืนสู้อ้อมอกอันอบอุ่นของแม่พระธรรมชาติ เมื่อ เช้ามืด ๓ กันยายน ๒๕๔๔ อายุอ้ายได้ กึ่งศตวรรษ พอดีเลย
- - - บทเพลงของอ้ายจรัลฯ นั้น งดงาม ทั้งคุณค่าทางวรรณศิลป์ และเนื้อหาทางด้านวัฒนธรรม … ตำนาน … ภาษา … และแฝงปรัชญาข้อคิด ฯลฯ … ลีลาอารมณ์ ในบทเพลง มีทั้ง ปลอบโยน ปลุกปลอบใจ… ตลกโปกฮา ขำขัน… เสียดสี – เสียดขำ … เศร้าสร้อย อ่อนไหว อ่อนหวาน … ทั้ง เย็น นิ่ง ลุ่มลึก นวลนิ่ม ฯลฯ
@ “ ดอกบัวตอง นั้น บานอยู่บน ยอดดอย ดอกเอื้องสามปอย บ่เกย เบ่งบาน บน ลานพื้นดิน
ไม้ใหญ่ไพรสูง นกยูง มา อยู่กิน เสียง ซึงสะล้อ จ๊อยซอ เสียงพิณ
คู่กับ แดนดิน ของเวียงเจียงใหม่
สาวเจ้าควร ภูมิใจ บ่ลืมว่าเฮา ลูกแม่ระมิงค์ ฯลฯ @
… นี้คือเพลง ลีลาอันเย็น นิ่งลึก นวลนิ่ม และให้ข้อคิด
หรือ ถ้าได้ฟังเพลง “ มะเมี๊ยะ ” ก็ให้รู้สึกเศร้า สลด หดหู่ ฯลฯ
ฯลฯ … ฯลฯ … ฯลฯ ใ
@ “ ฯลฯ มะเมี๊ยะ ตรอมใจอาลัยขื่นขม ถวายบังคมลา สยายผมลงเช็ดบาทบาทา ขอลาไปก่อนชาตินี้ … เจ้าชายก่ตรอมใจ๋ตาย มะเมี๊ยเลยไปบวชชี ความรัก มักเป๋น ฉะนี้ แล เฮย ” @ … ความรักต่างชนชั้น ศักดินา กับไพร่ (มะเมี๊ยะ เป็น แม่ค้า อยู่เมืองมะละแหม่ง พม่า) ประเพณีผู้ใหญ่ฝ่ายศักดินาเขาไม่อนุญาตให้ เจ้าราชบุตรลูกชาย ไปแต่งงานกับชนชั้นที่พวกศักดินา อภิสิทธิ์ชน เรียกทำนองว่าเป็นชนชั้นต่ำ มิต่างจากคำว่า ไพร่ ! … โศกนาฏกรรมก็เป็นไปตาม ตำนาน บทเพลง Ballad… เพลงพื้นบ้านนั้น
- - - ในอีกด้านหนึ่ง เพลง “ สาว มอเตอร์ไซด์ ” ก็ให้เรารู้สึกขำขัน แบบน่ารัก ในการตัดพ้อต่อว่าของชายหนุ่มผู้ยากจน มีพาหนะ เพียง รถถีบ จึง จีบสาว สู้หนุ่มที่มีรถมอเตอร์ไซด์ ไม่ได้ ….
@ “ อ้ายคนจนจ่ำต้องทน ปั่นรถถีบ จะไปจีบ อี่น้องคนงาม
พอไปถึง อ้ายก่ฟั่งเอิ้นถาม … อี่น้องคนงามกิ๋น ข้าวแลง แล้วกา
น้องได้ยินก่ปิดประตู๋ ดังปั้ง อ้ายเลยฟั่ง จูงรถถีบ ออกมา
อ้ายคนจนมับบ่มีวาสนา จะ เหมือน ฮอนด้า หรือ ยามาฮ่า เปิ้นได้จะได
กำเดียวก่มี รถยามาฮ่า ร้อยซาวห้า ก๋ายหน้าอ้ายไป
น้องได้ยิน ก่ ฟั่ง ลุกต๋ามไฟ แล้วเอิ้นออกไป … (อ้ายมอเตอร์ไซด์ ไปไหนมาเจ้า )
อ้ายได้ยิน เป๋นดี ผิดใจ๋ แต๊ว่า จะขายนา ซื้อคาวา ซักคัน
พอไปถึงอ้ายจะเบิ้น น้ำมัน ๆ ฮื้อน้องแก้นควัน ต๋ายจ้างมัน สาวมอเตอร์ไซด์ ” @
… ฟังแล้ว อมยิ้มเลย ฟังเพลงประกอบดูภาพวีดีโอ ก็ยิ่งม่วน สนุก
- - - อีกเพลง ถือว่าเป็นเพลงเอกสุดยอดอีกเพลงหนึ่งของอ้าย จรัลฯเลย …
@ “ อุ๊ยคำ อุ๊ยคำ อุ๊ยคำ …. อุ๊ยคำคนแก่ ท่าทางใจ๋ดี
ลูกผัวบ่มี อยูตั๋วคนเดียว มะแลงแดดอ่อน อุ๊ยคำก๋ำ เคียว
เกี่ยว ผักบุ้ง ใส่บุง กลางหนอง ต๋า ก่ ฝ้าก่ฟาง หลังก่ง้ม ก่ ก่อง
อยู่กลางหนอง จนมืด จน ค่ำ แล้วแกก็แบ่ง ผักบุ้งเป๋นก๋ำ ส่งขาประจ๋ำ เลี้ยงตัวสืบมา ฯลฯ
ฯลฯ … อุ๊ยคำ …อุ๊ยคำ … อุ๊ยคำ…
อุ๊ยคำคนแก่ ท่าทางใจ๋ดี ลูกผัวบ่มี เป๋นดีเอ็นดูล้ำ
แลงนี้แดดอ่อน บ่หันอุ๊ยคำ เกยมาประจ๋ำ อุ๊ยคำ ไปไหน
หมู่ผักบุ้ง ยอดซม เซาซบ บ่ ไหว เป๋นจะไดไปแล้วอุ๊ยคำ
ฟ้ามือมัวหม่น เมฆฝนครื้มดำ
เสียงพระอ่านธรรม ขออุ๊ยคำ ไปดี
อุ๊ยคำ … อุ๊ยคำ … อุ๊ยคำ … @
. . . ถ้าจะกล่าวโดยมิใช่ ยกย่องกันจนเกินไปนัก ว่า … “อ้ายจรัล มโนเพ็ชร” คือเพชรเม็ดงามอีกเม็ดหนึ่งแห่ง ล้านนา … เป็น “ แก้วก๊อล้านนา ” แท้จริง
เพลงของอ้ายจรัลฯ มีเสน่ห์ ไพเราะ งดงาม สามารถสื่อสารให้คนทั่วประเทศ ได้ “ In ” ได้เข้าถึง ประทับใจ ยามอ้ายฯ พริ้มพลิ้ว กีร์ต้า สะล้อ ซอซึง ฯลฯ แม้ใครจะมิใช่เป็นชาวล้านนา แต่ก็ชอบฟัง และเข้าใจในลีลาเนื้อหา อารมณ์ ความรู้สึกนั้นๆ … เด็กๆ คนหนุ่มคนสาว เมื่อ เริ่ม หัดเล่นกีร์ต้า ใหม่ๆ เขาก็ เอาริทึ่ม เพลงของอ้ายจรัลฯ นี่แหละ มาหัดร้อง หัดเล่น จนไปโลด
… ถามว่า ต่อไป จะมี คนเพลงล้านนาแบบ “อ้ายจรัล มโนเพ็ชร ” ไหม ที่ทำได้ “ ถึง ” และมาสืบทอดต่อ ฉันคิด ว่า คง มี อยู่ แม้ อาจจะเขียมอยู่บ้าง และคงต้องใช้เวลานาน ในการบ่มเพาะ บ่มฟัก ฯลฯ
- - - งาน พระราชทานเพลิงศพ “ อ้ายจรัล มโนเพ็ชร ” ที่สุสานลำพูน ผู้คนมาส่งล้นหลาม พอขบวนศพ เคลื่อนแห่ออกจากวัดหลวงลำพูน… ร้านค้า ตึกรามบ้านช่อง สองข้างถนน ต่างพากันเปิดเพลงของอ้ายจรัลฯ ไว้อาลัยอ้าย ผู้คนอันล้นหลามสองฟากฝั่งถนน พากันออกมายืนส่งสังขารของอ้ายสู่ โลกหล้า สรวงสวรรค์ ฉัน ร่วมเดิน ขบวนแห่อันยิ่งใหญ่อลังการ ฉัน กดชัดเต้อร์ ยิงภาพ ถี่ยิบ … ทำเอาขนคิงฉันลุก (ขนลุก) น้ำตาซึมด้วยความปลื้มปิติ ที่ผู้คนอันล้นหลาม รัก อาลัย “ อ้าย จรัล มโนเพ็ชร ” ศิลปิน ล้านนาผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ … ผู้คนจากต่างจังหวัดพากันมา คารวะ ส่งศพอ้ายฯ แม้จะไม่เคยเห็นหน้าตัวจริงของอ้ายจรัลฯ
“ คุณ
“ บ่อเกยคับ บ่ฮู้ จัก ลุงซอบฟังเพลงของเปิ้น ลุงเสียดายเปิ้น ขนาด ” … คุณลุง ตอบ ด้วยใบหน้า ครุ่นคิด
“ ควา ม เ ป็ น จ ริ ง
ของ
กระแสชีวิต นั้น
ความ ตา ย ไม่มี
… ชีวิต
เป็นเพียง มา ยา
ของลวง ว่างเปล่า ”
“ จรัล มโนเพ็ชร ”
ศิลปิน ล้านนา
สุเทวฤษี . ม่อน . อุจฉุจ บรรพต , นพบุรี ศรีนครพิงค์ เชียงใหม่ .
. . . นี้คือ ปรัชญา ชีวิต จริงๆ ที่อ้าย จรัลฯ เขียน ถึง “ความตาย ” และ “ชีวิต” … บทกวีรจนานี้ เอามาจาก หนังสือ “ แก้วก๊อล้านนา ” ที่ พิมพ์แจกในงานส่งศพอ้ายจรัลฯ ณ ป่าช้า ลำพูน )
- - - คืนนี้ คืนพระจันทร์เพ็ญดวง เป็นวันพระ และ เป็นวันคืนพิเศษ ที่นานๆครั้ง พระจันทร์ เปล่งรัศมี เต็มดวงงามเต็มที่ …
. . . ใน วันที่ทั่วประเทศ รู้ข่าว การจากไปของ “ อ้าย จรัล มโนเพ็ชร ” ลาจากพวกเราไป สถานีวิทยุ และโทรทัศน์ แจ้งข่าวให้ทราบ … และ เปิดเพลงรำลึก อำลา อาลัย อ้ายจรัลฯ ทั่วประเทศ ทุกคนคงตกใจกับข่าวร้ายที่มาเยือนโสตประสาท ณ ครานั้น… @
- - - “ สวัสดี คับ คืนนี้ เราขอร้องเพลง ของอ้ายจรัล มโนเพ็ชร กันหน่อย อีกไม่กี่วันข้างหน้า วันที่ สาม กันยายน ก็จะครบรอบสิบเอ็ดปี ที่อ้ายจรัล จากพวกเราไป ” … “ อ้ายพัฒน์ ” นักดนตรีแห่งวง “สุดสะแนน ” ทักทายแขกที่เข้ามาแอ่ว มาเยือนยาม
@ “ อย่ากลับคืนคำ เมื่อ เธอ ย้ำสัญญา
อย่า เปลี่ยนวาจา เมื่อเวลา แปรเปลี่ยนไป
ให้ เธอ หมายมั่นคง แล้ว อย่าหลงไปเชื่อใคร
เดินทางไปอย่าหวั่นไหม ใคร กางกั้น
. . . มี ดวงตะวัน ส่องเป็นแสงสีทอง
กระจ่างครรลอง ให้เธอ ใฝ่ปอง และ สร้างสรรค์
เมื่อ ดอกไม้แย้มบาน ให้คนหาญสู้ไม่หวั่น
คือ รางวัล แห่งความฝันอันยิ่งใหญ่ … ให้ เธอ
- - - บน ทางเดิน ที่มี ขวากหนาม
ถ้า เธอ คร้าม ถอยไป ฉัน คงเก้อ
ฉั น ยังพร้อมช่วย เ ธ อ เสมอ
เพียงตัว เ ธ อ ไม่หนีไปเสียก่อน
. . . จะ ปลอบดวงใจ ให้ เธอ หายร้าวราน
จะเป็นสะพาน ให้ เ ธ อ เดินไปแน่นอน
จะ เป็น สายน้ำเย็น ดับกระหาย ยาม โหยอ่อน
คอย อวยพร ให้ เ ธ อ สมหวังดังได้ … นิรันดร์ ” @
- - - เ มื่ อ อินโทรเพลง และนักร้องร้องเพลง … หลายโต๊ะ ร้องคลอ ตาม ทั้งคนหนุ่มสาว ผู้ใหญ่วัยกลางคน ฯลฯ… ฉั น กับเพื่อนๆ ทั้งชายหญิง โอนเอนใบหน้า และ ลำตัว แนบชิดกัน ร้องเพลงตาม ด้วยดวงใจสุข หฤหรรษ !
@ คำว่า เ ธ อ นี้ - นั้น คือใคร ? หมายถึงใคร ? …
- - - คือ ค น รั ก
- - - คือ คนที่ทดท้อ หมดสิ้นหวัง ในทุกลีลาอารมณ์ เศร้าสร้อย โศกสลด หดหู่ เสียใจ ฯลฯ
- - - คือ นักสู้ ผู้ เริงระบำรำร่ายฟ้อน เข้าร่วมบทเพลงสร้างสรรค์ ความเป็นธรรม หลอมชีวิต จิตวิญญาณ กับ มหาประชาชน เดินทางไกล ปีนไต่สายรุ้งเจ็ดสี อันงามเรืองรอง เรืองไร ที่ทอทอดทายท้า นักฝันผู้กล้า ให้ร่วมกันสร้างสรรค์ ศานติภาพ ความเป็นธรรมให้บังเกิดขึ้นบนแผ่นดิน !
- - - คือ ผองเพื่อนมนุษยชาติทุกๆชีวิต บนดวงดาวโลกสีฟ้า ดวงนี้ !
- - - คือ … ฯ ล ฯ … ฯ ล ฯ … ฯ ล ฯ … @
@ เพลงนิรันดร์ แด่ … “ จรัล มโนเพ็ชร ”
@ แม่พระธรรมชาติกำเนิด เธอ มามอบแด่แผ่นดิน
ยังคุณค่า ความรักอันงดงาม ต่อ โ ล ก ชี วิ ต
ให้ เธอ ได้ ร่ายร้องเริงรำ ขับขานบทเพลง กล่อม โลก เอกภพ จักรวาล
พร้องลำนำ เพลง รัก สุข โศกเศร้า รื่นเร้า รมณีย์ ฯลฯ
ผองเพื่อนมนุษยชาติ ฉ่ำชื่น ชีวี … นิรันดร์
… แล เมื่อ ถึงกาลเวลา แห่ง การ จากพราก
“ จรัล มโนเพ็ชร “ … น้องชาย
แม่พระธรรมชาติ ก็ให้ เธอ ได้กลับคืนสู่ อ้อมอกอันอบอุ่นของแผ่นดินแม่
- - - อย่าง สง่างาม . . . นิ รั น ด ร์ @
รัก + คารวาลัย
“ แสงดาว ศรัทธามั่น ”
ฤดูฝน , ๔ กันยายน ๒๕๔๔, ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่ .
( ตีพิมพ์ ในหนังสือ “ แก้วก๊อล้านนา ”… อ้างแล้ว .
- - - สวัสดียามพรรษาฤดู คับ “อ้ายจรัล มโนเพ็ชร ” หมู่เฮา กึ๊ดเติงหา อ้าย ขนาด เป๋นนิรันดร์ เน้อ อ้ายเหย .
. . . วันอาทิตย์ ๒ กันยายน ๒๕๕๕, แรม ๑ ค่ำ , ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่.