Skip to main content

  

 (  ๑   )        การเมืองเรื่องของประชาชน

                 @   เ ช้า นี้   แดดฤดูหนาวแจ่มใสจริงๆ  อากาศเย็นสบาย ชวนให้นึกถึง คนที่เรา รัก   และ  คนที่รัก เรา  …  มานั่งดื่ม  ชา  กาแฟ  โอวัลติน  ไวน์   น้ำมังสะวิรัติ ฯลฯ  บนม้านั่งใต้ถุนบ้านไม้ยกสูง   ใต้ร่มไม้ ฯลฯ  เ เป็นบรรยากาศแสนโรม๊านซ์คาธอลิก งดงามนักเชียว

                                 - - -  วั น นี้  ขอพุด ถึง เรื่องการบ้านการเมือง สนทนาธรรม แลกเปลี่ยนกับผองพ่อแม่พี่น้อง หน่อย    เพราะ การเมือง เกี่ยวข้องกับเราทุกๆคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกๆเรื่อง ตั้งแต่ “ไม้ขีดไฟ  ยันเรือรบ”   เราไม่เล่นการเมือง การเมืองมันก็จะเล่นงานเราผู้เป็นอิสระชน ประชาชนตาดำๆอย่างเราๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสำคัญหลีก คือ ด้าน เศรษฐกิจ    ด้านการศึกษาวัฒนธรรม  อันรวมกันเป็นโครงสร้างสังคมส่วนรวม

                                   . . .  ก็ เรื่อง การชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตยของ  “ กลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม” (อ. พ. ส. ) นั่นแหละซึ่งนำโดย   “ เสธ. อ้าย… พลเอกบุญเลิศ  แก้วประสิทธิ์”  ประธาน  อ.พ.ส.   … ส่วนใครจะเป็นเป็นเงานำตามเบื้องหลัง ก็เป็นสิทธิ์ปัจเจกชน ของกลุ่มองค์กรต่างๆ ที่จะมี “ยุทธศาสตร์  -  ยุทธวิธี”  วางแผนนำการเคลื่อนไหวได้

                                    ในสังคมประชาธิปไตย การตรวจสอบ  การวิพากษ์วิจารณ์ อำนาจรัฐที่อ้างว่าอาสามาทำงานเพื่อประชาชน นั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ที่ต้องทำการตรวจสอบได้  จากฝ่ายค้าน   ประชาชน  นักศึกษา นักวิชาการ  นักคิด  นักเขียน  กวี  ศิลปิน  และสื่อสารมวลชน ทุกๆหมู่เหล่า ฯลฯ

                                  การชุมนุมใหญ่ครั้งที่สอง จะเริ่มพรุ่งนี้  ๒๔  พย. ๒๕๕๕ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า  ตามคำประกาศของ  เสธ. เสะ. อ้ายฯ ว่าจะอยู่ หรือ จะถอย เมื่อคำนวณจำนวนตัวเลขมวลชน!

                                    ถามว่า   ที่ประกาศทำนองว่า จะแช่แข็งนักการเมืองที่ฉ้อฉลคอร์รัปชั่น และระงับการเลือกตั้งห้าปี  หรือกี่ปี กี่ปี  ก็แล้วแต่ทึ่จะคิดกันเองนั้น … ประชาชน  เราเห็นด้วยไหม ?      สำหรับตัวของ ฉั น    ตัว ข้าพระพุทธเจ้าเองนั้น   ไม่เห็นด้วย  …  โอ๊ย  สะดุ้งโหยงตกใจหมด เด็กๆจุดประทัดใหญ่ ใกล้วันลอยกระทงเข้ามาแล้ว  ระวัง มือขาดเน้อ ลูกหลานเอ๋ย  และใครที่เลี้ยงหมา ก็ต้องระวังน้องหมาด้วย เกิดน้องหมาตกใจเสียงประทัดบาดแก้วหูเจ็บปวด ตกกะใจรีบเผ่นหนีออกนอกบ้าน หายแซ่บไปเลย  เคยมีตัวอย่าง มีข่าวทุกปีมาแล้ว  …

                                         เอ๊า  ขอสูมาโตย  ว่าต่อ… ที่ว่าไม่เห็นด้วยนั้นเพราะไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาที่นำเสนอ  เพราะเห็นว่า ใน   ระบอบประชาธิปไตย  ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศสมมุติ นาม สยามไทยแลนด์ นี้  … เราต้องเคารพ การเลือกตั้งของประชาชนทั่วประเทศ(แม้นักธุรกิจการเมือง   กินเมือง  โกงเมือง   นักเลือกตั้งจะได้เป็น สส. มาด้วยอะไรก็แล้วแต่  … การซื้อเสียง    ขายเสียง  ( บางทีเราต้องคิดทบทวนกันใหม่ ในเรื่องที่เราว่าประชาชนที่ขายเสียง นั้นโง่ ถูกนักเลือกตั้งหลอก เราจึงโทษประชาชนด้วย  แต่หากเรารู้จักวิเคราะห์ แยกแยะ  ว่าทำไมประชาชนต้องรับเงินจากการซื้อเสียง  ฉันมามีความคิดใหม่ว่า ประชาชนไม่ได้โง่ที่ขายเสียง แต่เพราะด้วยระบบโครงสร้างของสังคมในส่วนที่ห่วยแตก ทำให้ประชาชนชาวบ้านก็ไม่รู้จะไปพึ่งพิงใคร เพราะเป็นคนจน คนด้อยโอกาส (แม้คนมีโอกาสเช่น   คนชั้นกลางหลายคนก็ยังขายเสียง นับประสาอะไรกับประชาชนชาวบ้าน   พี่น้องชาวบ้านคิดแล้วว่าไม่มีพรรคการเมืองใด นักการเมืองคนใดที่ช่วยชีวิตความเป็นอยู่ให้เขาอยู่สุขสบายอย่างแท้จริงได้  … ประเภท  “ มีงเอาเงินมาให้กู  กูก็เอาซีวะ “ แบบนี้แหละ   แต่ถ้าเราจะโทษตำหนิ ติเตือน   เราต้องโทษ นักเลือกตั้ง นักธุรกิจกินเมือง โกงเมือง ดังนั้น ฉันจึงหยุดดูถูกเขา แต่เมื่อก่อนฉันไม่เข้าใจลึกซึ้ง ฉันดูถูกหมิ่นหยามเขา ฉันต้องขอโทษเขา ประชาชนผู้ด้อยโอกาสที่ไม่รู้จะไปหวังพึ่งใครได้  … เอามาให้ กูก็เอา…  เป็นแบบนี้แหละ  พะ  ย่ะ  เจ๊า )          ฯลฯ  เราก็ต้องเคารพเสียงของประชาชนไว้ก่อน ค่อยว่ากันทีหลัง  หาวิธีการแก้ทีหลัง ฯลฯ  … และเราก็อย่าไปทำเป็น  ไร้เดียงสา ว่า  ระบบเผด็จการ ท็อปบูททมิฬทหาร และเผด็จการทุกชนิดทุกสายพันธุ์ ทุกไฟลัมน์ ทุกสะปีร์ซี่ร์ ฯลฯ    จะไม่โกงกิน คอร์รับชั่น  ฯลฯ   ฉันว่ามันร้ายพอๆกันและยิ่งร้ายกว่า เพราะประชาชนเราตรวจสอบ ความไม่โปร่งใสของพวกมันไม่ได้    แต่อย่างน้อยในระบอบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้งจากประชาชน  ประชาชน องค์กรอิสระ(ที่เป็นอิสระจริงๆ)  สื่อสารมวลชน   ชนทุกชั้น ทุกสาขาอาชีพก็สามารถ ตรวจสอบ รัฐบาลสมมุตินั้นๆได้      แต่หากเป็นระบอบเผด็จการทหาร และเผด็จการทุกสายพันธุ์    เราตรวจสอบมันมิได้   ไม่ว่าจะเป็นระบอบเผด็จการทหาร หรือเผด็จการแฝงเร้นศักดินาอมาตยาประชาธิปไตย…  ยิ่งเผด็จการทหาร  เพราะพวกเขา  “ติดอาวุธตั้งแต่หัวถึงตีน” ประชาชน  มี ปาก   (เหมียน) มี ตูด  พูดมากไม่ได้   อะ   ค่ะ … มีตัวอย่างที่ผ่านมาเช่นเผด็จการทหารไดโนเสาร์ จอมพล  บ้ากามผ้าขะม้าแดง … สฤษดิ์  ธนะรัชตะ  … จอมพล ป. (แปลก)  พิบูลย์สงคราม  (ที่บางช่วงก็เป็นประชาธิปไตย เพราะต้องการคานอำนาจของพวกเผด็จการจารีตนิยมแฝงเร้นศักดินาอมาตยาฯ)   หรือ เผด็จการ จอมพลประภาส – ถนอม  กิตติขจร  และ ฯลฯ

               - - -   แล้วถ้าประชาชน ถามว่า   …แล้ว   ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง (ต้องเน้น “ที่แท้จริง! ” )  จะเกิดขึ้นเป็นจริงได้อย่างไร ?  ตอบ … มีทั้ง   ยาก      และ  ง่าย   ที่   ยาก     ก็เพราะ  พลังประชาชนประชาธิปไตย(ที่แท้จริง!)   ยังไม่ พร้อม สุกงอมเต็มที่   … ลูก ผลไม้ประชาธิปไตย ยังไม่สุกงอมหล่นมาให้ประชาชนได้ลิ้มชิมรสลำอร่อยได้   นอกจาก  มหาประชาชน จัก ช่วยกัน  ส อ ย !

                         และ ที่ว่า   ง่าย    นั้น    ก็คือ   พลังประชาชนประชาธิปไตย พร้อมสุกงอมเต็มที่  …  ลูก ผลไม้ประชาธิปไตย ย่อมหล่นลงมาให้  ปวงมหาประชาชนได้ชิมลิ้มรส สุดแสนอร่อย ลำ จ๊าดนัก ได้เต็มที่!    ซึ่งในเรื่องนี้ ประชาชนเราก็  ต้องมี “ ยุทธศาสตร์ – ยุทธวิธี” ในการเคลื่อนไหวจัดตั้ง  ที่จะให้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ   เพราะมันไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติด้วยพวกอวิชชา พวก เผด็จการอธรรม มัน ฝืนธรรมชาติ!   มันเป็นการเมืองที่ ด้านหนึ่ง  มีเงื่อนงำ  เจ้าเล่ห์เพทุบาย  และในอีกด้านหนึ่ง มันก็ดูสลับซับซ้อน โดยมี ปัจจัย องค์ประกอบโครงสร้างระบบสังคมมาเกี่ยวข้องสัมพันธ์อย่างแยกไม่ออกจากกันได้ เช่น   ระบบโครงสร้างทางเศรษฐกิจ   ระบบการศึกษาวัฒนธรรม  ระบบการเมือง ที่ทำให้ดู ยัง  ยาก  ต่อการเปลี่ยนแปลง  เพราะประชาชนเรา  ดวงตา  ยัง ไม่   สว่างไสว กันเต็มที่ ( เรื่องนี้คงต้องพูดคุยแลกเปลี่ยน สนทนาธรรม กันอีกวาระหนึ่ง   ตราบ ดาวโลกดวงนี้ ยังไม่ อันตรธาน สูญสลายหายไปซะก่อน   อะ    ฮับ   …  พูดหยั่งงี้โปรดกรุณาอย่าได้ ใจอ่อน เน้อ ปี้น้อง เอ๊ยยยยย ! )

                         และ   ที่   “ คนดี”   เรียกร้องหา “คนดี”    ให้มาปกครองประเทศนั้น  เราอยากทราบว่า ที่ว่า เป็น “คนดี” นั้น เขาเป็น “คนดี” แท้จริงหรือ?    ดี  ใน ทรรศนะ ของใคร?  ในเมื่อระบบโครงสร้างสังคม ณ ปรัตยุบันนี้ มัน “โคตรห่วยแตก” (ต้องพูดแบบนี้ เพราะมัน   โคตร   โคตร  จริงๆ)   เหมือนกับบางประเทศสมมุติที่ โคตรห่วยแตก  ( เหมียน) กัน

                            - - - ยุค  นายยกพระราชทาน “นายสัญญา  ธรรมศักดิ์” องคมนตรี หลังเหตุการณ์ลุกขึ้นสู้โค่นล้มระบบเผด็จการทหาร  “จอมพลถนอม  - ประภาส – ณรงค์  กิตติขจร”  ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน ฯลฯ  เมื่อ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖   ในระบบราชการ ทหารตำรวจ  ไม่มีการโกงกิน ทุจริต คอร์รัปชั่นโดยโครงสร้าง ในอภิมหาโครงการ ต่างๆ จริงหรือ ?   …  หรือ ยุค  “คนดี  … พลเอกเปรม ติณสูลานนท์”  องคมนตรี  เป็นนายก ก็ไร้การคอร์รัปชั่นการโกงกินกระนั้นจริงหรือ ? … หรือในยุค  “คนดี … พลเอก สรยุทธ  จุลลานนท์” เป็นนายกรัฐมนตรี หลังเผด็จการทหารคมช. โค่นล้มระบบเผด็จการรัฐสภา  อ้าย “ทักษิณ  ชินวัตร”   (ในส่วนที่ เนื้อหา และการกระทำที่เป็นเผด็จการ)     ไม่มี การโกงกิน คอร์รัปชั่น แท้จริงหรือ?  กรณี “เขายายเที่ยง หล่ะ  เห็นกัน จะ จะ แล้ว ว่า  “คนดี”  ของ “คนดี”  ในส่วนของพรรคพวกอมาตยาฯ นั้น เป็นอย่างไร ?! 

                     . . . ก็ ในเมื่อระบบโครงสร้างสังคมมัน โคตรแสนห่วยแตก ( ต้องเรียกกันแบบนี้อีก ส่วน ใครจะว่าไม่ห่วยแตก ก็  “ ไม่เป็นไร ลืมเสียเถิด” )   …

                         “คนดี”  ที่ว่ากัน (  “ดี”  จริง หรือ   ?   หรือ “ดี”  ในความคิดเห็นของฝ่ายใด ? ฝ่ายผลประโยชน์?  ฝ่ายชนชั้นนำใด?     ฝ่ายที่ต้องการรักษาสถานะภาพอันได้เปรียบ …หรือฝ่าย ไพร่ราบคนยากไร้    ผู้เสียเปรียบในสังคม  ? หรือ   ฝ่ายที่ ผวาหวาดหวั่นกลัวการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีงาม เมื่อถูกผู้รักธรรม    เปิดโปง เบื้องหลัง “คนดี” นั้น อย่างล่อนจ้อน ! หรือ ?   ( ประชาชนเราต้องมีคำถามแบบนี้ บ่อยๆ และถามมากๆด้วย เพราะ  “มนุษย์ไม่ได้กินแกลบ” ( ชื่อ เรื่องสั้นของกวี  นักคิด   นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ผู้รักธรรม ผู้ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ ไม่ขายตัว ไม่ขายจิตวิญญาณ เพื่อผลประโยชน์ เหมือนคนบางคนที่นับถือวัตถุ เงินตรา เป็นดุจ พระเจ้าองค์ศักดิ์สิทธิ์ใหม่ !  เขาคือ “คนดี” ที่แท้จริง ที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม เพื่อประชาชนผู้ทุกข์จนยาก  ต่อสู้กับเผด็จการฟัสซิสม์ทหาร จอมพลผ้าขะม้าแดง “สฤษดิ์  ธนะรัชตะ” จนต้องหนีภัยไปตายที่ต่างประเทศ เช่นเดียวกับรัฐบุรุษอาวุโส ( สมญานามนี้  รัชการที่ ๘ พระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดลทรงแต่งตั้งให้ นาย ปรีดี  พนมยงค์ อดีตนายยกรัฐมนตรี และหัวขบวนของคณะราษฏร์ ที่ทำการ ปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์  มาเป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อ พศ. ๒๔๗๕ ! )  ซึ่งต้อง ลี้ภัย การกลั่นแกล้งทางการเมืองและถูกใส่ร้ายป้ายสีอย่างน่าละอายต่อบาปที่พวกใจบาปได้กระทำต่อท่านปรีดีฯ ผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ ประเทศไทยสมมุติของพวกเรา! สุดท้ายท่านไปตายที่ประเทศฝรั่งเศส  .... และภริยาคู่ทุกข์คู่ยาก (  “ The  Old   Couple ” )  ของท่านคือ “ท่านผู้หญิง พูนศุข  พนมยงค์” ( รัชกาลที่ ๘  ก็ทรงแต่งตั้งคำนำหน้านาม “ท่านผู้หญิง” นี้ให้ )  ก่อนตาย ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ท่านได้เขียนพินัยกรรมหลายอย่างให้ลูกหลานได้รับรู้และปฏิบัติตาม มีตอนหนี่งท่านได้เขียนเน้นย้ำว่า … “ไม่ขอรับเกียรติยศ ใด ใด ทั้งสิ้น !  ” ในการฌาปณกิจศพท่าน …หมายความว่าอย่างไร  ? ก็หมายความว่า ท่านไม่ต้องการให้ใครมามอบเกียรติยศให้ท่าน เพราะท่านมีเกียติในตัวเองอยู่แล้ว… โอ  ช่างเด็ดขาดนัก สุภาพสตรีเหล็กท่านนี้  ท่านต้องรู้สึกเจ็บปวดในการถูกกระทำกลั่นแกล้ง จากพวกจารีตศักดินาอมาตย์ฯ ที่ทำกับท่านและท่านปรีดี พนมยงค์!

               - - -   ต้องขอโทษเพื่อนๆท่านผู้อ่าน ที่ข้าพระพุทธเจ้าเขียนบทความ ความเรียงนี้ยาวมาก เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องความไม่เป็นธรรม และประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาที่ ผู้รักธรรมถูกกระทำ   ทำให้เลือดในกายใจเดือดพล่าน ต้องเขียนออกมา  … หากท่านผู้อ่านผู้ใดเกิด เบื่อหน่าย  ก็โปรดกรุณา หยุดอ่าน  ไม่ต้องอ่าน และลบออกไปได้ ด้วยความเคารพ ในสิทธิอัตตวินิจฉัย เสรีภาพของปัจเจกชน จ้า …

                ต่อคับ 

                      - - -   กวี นักคิด นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ นักต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ฯลฯ ที่ แต่งเรื่องสั้น “มนุษย์ไม่ได้กินแกลบ” นี้  คือ  “ ศรีบูรพา” หรือ นามจริง “กุหลาบ  สายประดิษฐ์” ผู้แต่งนวนิยาย เรื่อง “แลไปข้างหน้า”  และ “จนกว่าเราจะพบกันอีก” อันลือชื่อลือเลื่องในสมัยเผด็จการทหาร นั่นเอง! ตลอดจน ท่านได้แต่งเขียนบทกวี หลังที่ท่านปิติยินดีกับการลุกขึ้นสู้ โค่นล้มเผด็จการทหาร เมื่อ ๑๔ ตุลาคม  ๒๕๑๖ … ท่านรจนา ดั่งนี้ …ฉัน ยังจำได้ไม่ลืมเลือน …

 

                   @       “  หยาดฝน ย้อย จากฟ้า มาสู่ดิน

                       ประมวลสินธุ์ เป็น มหาสาครใหญ่

                        แผ่ คลื่นซัด ปฐพี อึ้งมี่ไป

                        พลังไหล แรงรุด สุด ต้านทาน

 

                               อัน ประชา สามัคคี มี จัดตั้ง

                        รวมพลังแกร่งกล้า มหาศาล –

  • แสนอาวุธ  แสน ศัตรู หมู่อันธพาล

  มิอาจต้าน  พ ลั ง ม หา ป ระ ชา ช น ” @


 ซี่งต่อมาได้มีผู้เอาไปทำเป็นบทเพลงร้องปลุกใจ ใน “เสียงวิทยุประชาชนแห่งประเทสไทย” ของ “พรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทย !”

        - - -   แล้ว “คนดี” ที่พวกคุณต้องการ นั้น   ฉันก็เป็น งง งง   ว่า   เป็นเช่นไร?... ตัวอย่างรูปธรรม เช่น  เมื่อคนจน คนด้อยโอกาส  คนไพร่ราบ รากหญ้า ที่ถุกข่มเหงรังแก ถูกรุกรานจากอำนาจรัฐและกลุ่มผลประโยชน์ ประชาชนชาวบ้านที่ต่อสู้เพื่อดูแลรักษาธรรมชาติ รากเหง้า วิถีชีวิต แต่ถูกรุกรานจากอำนาจรัฐเผด็จการทุกสายพันธุ์  จากกลุ่มผลประโยชน์  ในการถูกไล่ที่  ถูกรุกรานจากโครงการใหญ่ๆเช่นการสร้างเขื่อน เช่นเขื่อนปากมูล ราศีไศล  ห้วยละห้า   และที่จะถูกรุกรานเช่นจะสร้างเขื่อนแก่งเสือ     เขื่อนแม่วงศ์ หรือการสร้างโรงไฟฟ้าที่ทำลายรากเหง้าวิถีชีวิต  ฯลฯ    ทำไม  “คนดี” อย่างพวกคุณ และ คนที่พวกคุณคิดว่า คนนั้น คนนี้ “ดี” ในสายตา และการตีคุณค่าของพวกคุณ “เหล่าคนดี” ทั้งหลายนั้น  ทำไม่ไม่ช่วย ห้ามปรามตำหนิติเตือนพวกกลุ่ม ทุนผลประโยชน์ และอำนาจรัฐผลประโยชน์ ที่รุกราน ข่มเหงรังแกชาวบ้านดังที่กล่าวแล้ว นั้น  ทำไม  ทำไม  ทำไม “คนดี” อย่างพวกคุณช่างไร้คุณธรรม  จิตสำนึกธรรมดาๆ  ( common  sense )  ที่แม้แต่เด็กๆเขายังรู้ยังมี  … ทำไม “คนดี” อย่างพวกคุณ จึงไม่ช่วยห้ามไม่ด่าว่า ไม่วิพากษ์วิจารณ์ อย่าง  “จัดหนัก เต็มสูบ” บ้าง เล่า ฉันก็เป็น   งง   ง๊งงง    งงงงง …

                พวกคุณ “คนดี  มีศีลธรรม  ไร้ คาวราคี  มีเมตตา ฯลฯ นั้น ฉันขอถามใน ณ ที่นี้ว่า ( ท่าน เปรม  ติณฯ  … ท่าน สรยุทธ์ จุลลฯ  ท่านประสงค์ สุ่นฯ  ท่านมหาจำลอง  ศรีฯ   ท่านโพธิรักษ์   … ท่านชวน หลีกฯ … ท่านบรรหาร ศิลป์ฯ … และพระเดช    พระคุณเจ้า  ทั้งหลาย   ที่อ้างว่าเป็นศิษย์ ตถาคต และ ฯลฯ)  ทำไมท่านถึงไม่ช่วย เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกร่วมแผ่นดินของท่านที่ถูกรังแก เล่า ?   (ดีไม่ดี ตัวท่านเองก็อาจรังแกเขาด้วยโดยระบบ!) 

 

       คุณ  และ  ประชาชน (ขอถาม ประชาชนด้วย)      ท่านต้องการ “คนดี” แบบไหน? แบบ … “จิตร  ภูมิศักดิ์”… แบบ “นายผี…อัศนี  พลจันทร”… แบบ “ เช  เกวารา” … แบบ  “ มด … วนิดา  ตันติวิทยาพิทักษ์” … แบบ “ พระไพศาล  วิสาโล”  …แบบ   “เสกสรรค์   ประเสริฐกุล”   … แบบ “นิธิ  เอียวศรีวงศ์”  แบบ “ เกษียร  เตชะพีระ” … แบบ “ พ่อหลวงจอนิ  โอโดเซา “ … แบบ “วัฒน์  วรรลยางกูร” … แบบ “ สนั่น  ชูสกุล”  และ แบบ  ฯลฯ  ซึ่งดูเหมือนไม่เคยอ้างว่า ตัวเองเป็น “คนดี”

 

                       หรือ ต้องการ คนแบบ …

 

 “ เปรม ติณฯ ”…   แบบ   “สรยุทธ  จุลลานนท์”… แบบ “ปลอด ประสพ  สุรัสวดี” … แบบ “เฉลิม  อยู่บำรุง” …  แบบ  “ ชวน  หลีกภัย” …แบบ “ สุดสาย  เทพหัสดิน ณ อยุทธยา” …  แบบ  “กิตติวุฒโฑ ภิกขุ” …  แบบ  “ อุทาร   สนิทวงศ์”  และ แบบ ฯลฯ  ซึ่งดูเหมือนชอบอ้างว่าตัวเองเป็น “คนดี”

                            พวกคุณ “คนดี”ทั้งหลาย และพี่น้องประชาชน  ต้องการ “คนดี” แบบไหน?

( ๒ )  เปิดประชาธิปไตยกลางถนนและในที่สาธารณะให้เต็มที่!

                อานาจรัฐที่อธรรม จิตเผด็จการ  ย่อมดูถูก หมิ่นหยามการรวมตัว ชุมนุมประท้วงเดินขบวนยาตราทัพของประชาชนตามท้องถนน และ ฯลฯ  ว่า ไร้อารยะธรรม เป็นแก้งค์กลางถนน  ข้างถนน     กีดขวางการจราจร ก่อความวุ่นวาย (รวมทั้ง “เหล่าคนดี” ทั้งหลาย และ พี่น้องประชาชนที่ “ไม่เป็นคน “ด้อยโอกาส” นั้นด้วย ที่มองเขา  “คนด้อยโอกาส”  ในด้านลบเพียงด้านเดียว!..... ก็ในเมื่อ  “ไม่มีพื้นที่”  ให้ประชาชน (ซึ่งอาจถูกเรียกว่าเป็น “คนเลว” ก็ได้)    ได้มีที่ยืนอยู่อย่างยั่งยืน ด้วยการถูกรุกรานรากเหง้าวิถีชีวิตด้วยโครงการใหญ่ๆ ดังได้กล่าวมาแล้ว เช่นการไล่ที่  การสร้างเขื่อน  โรงไฟฟ้า  การเวณคืนที่ดิน ฯลฯ  ดังนั้น ประชาชนเขาก็ต้องหาพื้นที่ในการชุมนุม เดินขบวนประท้วง ฯลฯ  อันใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ฯลฯ   … ดังนั้น ประชาชนเรา ก็ต้องทำความเข้าใจสาเหตุ แห่งปัญหา ของ  “เพื่อนมนุษย์ที่ด้อยโอกาส”  หรือ ผู้ที่เราคิดว่า พี่น้องนั้น    เป็น “คนอื่น”  ในสมอง สายตาของเรา !

                 - - -    การชุมนุนใหญ่ของพี่น้อง “ กลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม”  ต่อเนื้อหาที่นำเสนอเรื่องเหตุผลที่ต้องชุมนุมต่อต้านขับไล่รัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์  ชินวัตร    เช่น ทนไม่ได้ที่  ปล่อยให้มีการดูหมิ่น สถาบันกษัตริย์  หรือ ปล่อยให้มีการทุจริต โกงกิน คอร์รัปชั่น ฯลฯ  นั้น…

                   . . . ต่อใน  เรื่องหมิ่นฯ ก็มีในรัฐบาลทุกยุค ทุกสมัย  มันเอามาใช้   ฟาดฟันกันทางการเมือง  กับแต่ละฝ่ายตรงกันข้าม  ที่ไม่ชอบขี้หน้ากัน และ ฯลฯ     เป็นประจำ  โดยเฉพาะ กฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ที่ ฉั น เห็นว่าสมควร  เอามาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่ หรือไม่ก็ยกเลิกไปเลย (นี่เป็นความคิดสิทธิประชาธิปไตยของ ฉัน คนเดียวนะ ใครจะเห็นด้วย  หรือ ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร หากคิดว่าเราอยู่ในสังคม ประชาธิปไตย!  และที่ ฉัน และคนอื่นๆ  ตลอดจน “คณะนิติราษฏร์” เสนอให้ปรับปรุงก็เพราะเราปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ นั่นเอง!)           ในสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง (ต้องเน้นคำว่า “ที่แท้จริง ! ” )  และระบอบประชาธิปไตยใน อารยะประเทศต่างๆ เขาไม่มีกฎหมายโหดเช่นในประเทศสยามไทยแลนด์ดินแดนสมมุติ นี้ … หากเราไม่หลอกตัวเองแล้วโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า ประเทศไทยสมมุติเรา มีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์พระประมุข … เราก็อย่าไปอ้างเรื่องจารีตประเพณีที่เป็น ไทย  ไท้  ไทย  ไม่เหมือนใครในโลก เอกภพจักรวาล นี้!   … มันจะอับอายขายขี้หน้าเขาเปล่าๆ หากเราไร้เดียงสา(แปลตรงตัวก็แปลว่าโง่ )    เมื่อเราไม่เข้าใจ  “ แก่นแท้ของเนื้อหาที่แท้จริง ของคำว่า “ระบอบประชาธิปไตย !” … จ บ เรื่องนี้  คร๊าบบบ …  The  End  of   The   World !

               . . .   ต่อเรื่องการทุจริต โกงกิน  คอร์รัปชั่นนั้น  มันก็ ทำมาหาแดกกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลยุคไหนๆ ชุดไหนๆ พรรคการเมืองพรรคใดใด  ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเผด็จการทหาร  หรือรัฐบาลเผด็จการทุกสายพันธุ์  มันอีหรอบเดียวกันหมด

               - - -  ดังนั้น เหตุผลที่อ้าง มันฟังไม่ขึ้น   การที่จะให้เว้นวรรคทางการเมือง หรือที่สื่อเรียกว่า การแช่แข็งทางการเมือง ในระบบประชาธิปไตย การจะคุมกำเนิดนักการเมืองที่ว่าโกงกินทุจริต คอร์รัปชั่น โดยไม่ให้มีการเลือกตั้งนั้น เหรอ มันจักเป็นไปได้ยังไง ค่ะ ท่านเสธฯ  … ในระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญมันต้องมีการเลือกตั้งผู้แทนราษฏร์จากประชาชนทั่วประเทศ มิใช่นายกรัฐมนตรีมาจากการแต่งตั้ง จะโดยใช้มารตร ๗  ที่รบกวนเบื้องพระบาทพระองค์ท่าน  ซึ่งพระองค์ท่านก็ได้เคย ตรัสในวันที่ ๕ ธันวาคมที่แล้วมา แล้ว ในทำนองพระองค์ท่านทรงไม่เห็นด้วย! …  หรือมิใช่นายกรัฐมนตรี มาจากการ แต่งตั้งโดยอมาตยาฯ    ล้าหลัง  หรือ แต่งตั้ง จาก “เหล่าก๊วนคนดี” ทั้งหลาย ฯลฯ

                      . . .  และ คำพูดทำนองที่ว่า  ประชาชนจะปฏิวัติ นั้น  ก็อยากขอเรียนถามว่า  “ประชาชน”  ที่ท่านว่านั้น คือ และ เป็น ประชาชนมาจากที่ไหน?  แห่งหนตำบลใด?  เป็นประชาชนทั้ง 60  กว่าล้านคนใช่ไหม ในประเทศไทยสมมุตินี้ !   และถ้าประชาชนอีกหลายแสน หลายล้านคนเล่า ที่เขาไม่เอาด้วย  ไม่รู้  ไม่เห็นด้วย   กับท่าน  หล่ะ  พระเดชพระคุณทั่น นับเป็น “   ประชาชน” ของท่าน ด้วยไหม   อะ    คะ  ทั่น

                      แต่ เออ ถ้าเป็นการ ปฏิวัติของประชาชนทั้งหมดจริงๆทั่วประเทศ นั้น อิฉาน เห็นด้วย  เอาเหอะ  พี่น้องมหาประชาชนทั่วประเทศ คงต้องว่ากันอีกที ว่าจะเอากันอย่างไรดี ไว้ค่อยสนทนาธรรมกัน อักกัณฑ์ หนึ่ง เจ้า

              เอาหล่ะ เพื่อนพี่น้องประชาชนร่วมโลกร่วมแผ่นดิน ทุกกลุ่ม  ทุกองค์กร  ทุกสีสมมุติ ฯลฯ  ชุมนุมกันได้ตามระบอบประชาธิปไตย   ด้วยสันติวิธี อหิงสา  และมีวุฒิภาวะ  พึงอย่าชุมนุมด้วยความโกรธ  โดยเอาอัตตาตัวตนของตัวเอง ของกลุ่ม ของพวกพ้องเป็นใหญ่  ชุมนุมสำแดงพลังอหิงสาด้วยความเมตตา ต่อเพื่อนร่วมแผ่นดินเดียวกัน   เคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน      สู้ด้วยศานติวิธี และมีเหตุผล ฯลฯ   ปราศจาก  อาวุธ ปราศจาก    ความรุนแรง   เข่นฆ่ากัน  ฯลฯ 

        … ให้  กาลเวลา  และ  สภาพความเป็นจริง ของสังคมที่ดำรงอยู่ ณ ปรัตยุบัน  ที่จักเป็น ผู้พิพากษา ตัดสินที่ยุติธรรมที่สุด !

 

                            “   ระยะทาง พิสุจน์ม้า

                            กาลเวลา พิสุจน์ ค น

                            ใคร ถ อ ย  และ  ใคร  ท น

                            พิ สุ จ น์  ได้  เมื่อ  ภั ย  มา ! ”

 

( ๓ )   โอบล้อม   กระชับพื้นที่   โดดเดียว เผด็จการฯ

                  - - -    พี่น้องผองเพื่อนๆ และประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตย รักความถูกต้องเป็นธรรม ทั้งหลาย ฯลฯ   หากว่าเกิดมีการทำ  “รัฐประหาร”      (  อย่าเรียกผิดว่าเป็นการ “  ปฏิวัติ  )   … สำหรับความคิดเห็นของฉัน คิดว่าทำได้ยาก เพราะสภาแวดล้อม และสภาพสังคมที่ดำรงอยู่  และ ทางสากล ไม่อำนวยให้ทำ  ยกเว้นจะมีการจุดชนวนให้เกิดความรุนแรง จากฝ่ายใดก็แล้วแต่ที่ทำให้เกิดการจลาจล นองเลือด เข่นฆ่ากัน(ที่เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก)  … แต่ประชาชนเราก็อย่าได้  ประมาท มึนชา  เมินเฉย ฯลฯ  … หากมีการทำ รัฐประหารของพวกเผด็จการทุกสายพันธุ์    ทุกไฟลัมน์ ทุกสะปีร์ซี่ร์ ฯลฯ   … ประชาชนเราต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยการ  “ แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง”  หลอมรวมพลังประชาธิปไตยสันติวิธีแห่งมวล มหาประชาชน  คล้องแขนจับมือกันเป็น “ผนังทองแดง  กำแพงเหล็กกล้า” เดินขบวนสำแดงพลังประกาศก้องว่า เราไม่เอา เผด็จการ  ยาตราทัพอหิงสาสันติวิธี ไปบนท้องถนนที่สร้างจากเงินภาษี  หยาดเหงื่อ แรงงานของพี่น้อง ประชาชน

                 . . . ไม่ว่า  จะเป็นพี่น้องประชาชน สีแดงสมมุติ     ไม่ว่าจักเป็นพี่น้องประชาชนสีเหลืองสมมุติ  พี่น้องหลากสีสมมุติ   พี่น้องสีแห่งสายรุ้ง แล  สีแห่งความรักอันงดงาม   พี่น้องผู้รักชาติประชาธิปไตยรักความถูกต้องเป็นธรรม และ พี่น้องผู้มีดวงใจจิตวิญญาณสำนึก  อันงดงามหาญกล้า  ฯลฯ  จากทั่ว ประเทศ ทั่วทุกภาค ทั่วทุกปริมณฑล  ฯลฯ…

                    ด้วย พลังอหิงสาศานติวิธีอันกว้างใหญ่ไพศาล นี้  จักยาตรา กองทัพประชาชนศานติธรรม เข้า ทำการ  ปฏิบัติการ  -  ปฏิบัติธรรม ถั่งโถม โหมพลัง เข้า โอบล้อม บีบรัด กระชับพื้นที่  โดดเดี่ยว อำนาจรัฐเผด็จการทหารแห่งกรุงรัตนโกสินทร์  อันเป็นใจกลางศูนย์กลางอำนาจรัฐของเผด็จการทุกสายพันธุ์!  พี่น้องที่อยู่ห่างไกล และมีเหตุมาร่วมพลังไม่ได้ก็รวมพลังกันในพื้นที่ ทั่วทุกหัวระแหง ทั่วทุกตารางนิ้วของแผ่นดิน!

               - - -  คอยดู ซิว่า เผด็จการ ฟัสซิสม์   จะหันปากกระบอกปืน และรถถัง จักบดขยี้   กองทัพธรรมแห่งมหาประชาชน นับแสนนับล้านๆ ชีวิต ได้ อย่างไร ฤา ? … ในท่ามกลาง สายตา  อุ้งเล็บ และ จะงอยงุ้มปาก   อันกระหายหิวของเหยี่ยว แห่ง “ ผองเหล่า คน ดี  ทั้งหลาย” ! @

 

         วันคืน ขึ้น  ๑o  ค่ำ  เดือน  ๑๒ ...  ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕

              ต้นฤดูหนาว , ล้านนาอิสระ , เชียงใหม่.

 

     

 

                           

 

 

 

                         

 

                   

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
 *--*--*{ กาพย์”ลุกขึ้นสู้” }
แสงดาว ศรัทธามั่น
{  กลอนเปล่าอิสรา  }@  ลมหนาวเหนือ พัดโชยมา…ยามต้องไล้ผิวกายร้อนที่รุ่มก็คลายกลิ่นอายเหมันตฤดู …ไม่รู้ลืม @
แสงดาว ศรัทธามั่น
 
แสงดาว ศรัทธามั่น
 ***** --*-- ***** --*-- *****@   “  ฮา  ติง จัง…จังคนมีอำนาจล้นฟ้า  แต่รังแก คนยากไจ้ อำนาจ แบบ ต๋ามใจ๋ เขา “น้องสาว  ผู้ดีงาม ใจงาม ของฉัน  แล ของโลกชีวิต อีกคนหนึ่ง