Skip to main content

 

"นี่เป็นประสบการณ์ไปต่างจังหวัดเองครั้งแรกของผม"

 

     ความรู้สึกตอนนั้นมันตื่นเต้นไปหมด ใจเต้นตึกตัก คึกคักถี่ๆ ถี่เสียยิ่งกว่าปลากระดี่เสียอีก (ไม่เกี่ยว!) มันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีเหมือนกันนะ ช่วงเวลาที่ทำให้เราได้อยู่กับตัวเองเป็นระยะเวลา ๑๑ ชั่วโมง แล้วนึกถึงความทรงจำต่างๆที่ผ่านมา

 

     ครั้งแรกบนรถทัวร์ของผม ผมจำได้แทบทุกเหตุการณ์ที่อยู่บนรถทัวร์เลยล่ะครับ...

 

   [๑]  

      ตั้งแต่ ตอนที่ "ฟิตรี" ปวดคอ แล้วขอเปลี่ยนที่นั่งกับผม เนื่องจาก เธอไม่ถนัดเอียงคอมองวิวทางซ้าย

   [๒]

     "เจ๊โบนัส" กำลังล่องเรือไปกับเจ้าหญิงโมอาน่าอย่างใจจดใจจ่อ

   [๓]

       แอบเหลือบไปมอง "จริงจัง" ผู้มีท่าทีจริงจังและดูจริงจังอย่างจริงจังไปกับทุกเรื่องกำลังฟังเพลงด้วยท่าทางที่ดูจริงจังมาก สมกับชื่อของเธอจริงๆ

   [๔]

       พอผมหันหลังไปมอง "พี่วริศ" ตรงนั้นมันมืดไปหมด คงนอนล่ะมั้งครับ

   [๕]

       ส่วนผมก็ฟังเพลงช้าๆสไตล์ผู้ชายเปื้อนฝุ่น กอดอุ่นเพราะมีพุง และเล่นเอ็มวีไปพร้อมกับวิวข้างทาง จนเผลอนอนหลับไป

 

     ระหว่างทางบนรถทัวร์ ผมจินตนาการถึงปลายทางว่ามันจะต้องสวยงามมากแน่ๆ คำพูดโฆษณา "ม่อนแสงดาว" อย่างสุดฤทธิ์สุดเดชของพี่ตุ้ม ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการ #storytellersinjourney ดังวนไปวนมาอยู่ในใจ

 

     "ที่นี่สวยมากเลยล่ะ บรรยากาศเชิงเขา อากาศดี เป็นศูนย์การเรียนรู้แห่งลุ่มแม่น้ำโขงที่มีแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมของชนเผ่ามากมาย..." และนี่คือคำพูดของพี่ตุ้ม อันที่จริง เขาพรรณนามากกว่าที่ผมเขียนมาเสียอีก แต่ผมจำมาเขียนได้ไม่หมดจริงๆ

 

      สีหน้าของพี่ตุ้มที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มในขณะที่โฆษณา "ม่อนแสงดาว" ราวกับเป็นเจ้าของที่ดินตรงนั้น ทำให้ผมคาดหวังกับจุดหมายปลายทางมาก มากจนผมอยากจะลองแต่ง "นิราศแสงดาว" พรรณนาความงดงามของม่อนแสงดาวเมื่อผมไปถึงเลยล่ะครับ

 

 

สวัสดีครับคุณม่อนแสงดาว   

    "ผิดหวัง”

    ไหนล่ะ... บรรยากาศม่อนริมแม่น้ำโขง เห็นแต่บ่อน้ำสีคล้ำๆ เต็มไปด้วยวัชพืชยุ่งเหยิงริมบ่อ

    ไหนล่ะ... แหล่งการเรียนรู้เชิงเกษตรที่วาดฝันไว้ เจอแต่ถาดพลาสติกเพาะเมล็ดแห้งกรอบ คงวางตากแดดไว้มานานเป็นเดือนแล้ว

    "ไหนล่ะ.. ไหนล่ะ.. ไหนล่ะ.."

    เฮ้อ... คนเราเวลาตั้งใจทำอะไรมากๆ เพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พอปลายทางไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ ไม่แปลกหรอกครับ ถ้าเราจะรู้สึกแย่ แต่ในความรู้สึกแย่นั้น เชื่อเถอะ เราว่ามันมีสิ่งดีๆแฝงอยู่

    อย่างน้อย มันก็ทำให้เราได้รู้ว่า...

     "เรายังเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจ ไม่ได้ไร้ความรู้สึก"

 

 

"ตื้นตันใจ"

      วันนั้นเราออกไปชมศิลปะที่วัดร่องขุ่นกันข้างนอก แล้วกลับมากันจนดึกดื่น ตอนแรกไฟข้างทางมืดมิดไปหมด เหมือนอนาคตการสอบไฟนอลที่กำลังจะมาถึง พวกเราจึงคิดว่าคนชนบทน่าจะนอนเร็ว  ชาวม่อนแสงดาวคงหลับกันหมดแล้ว

        "สายลมหนาวพัดโบกโบย พริ้วดูแล้วสวยใสใส"

       "หนาวจัง..." ผมอุทานออกมาเบาๆในขณะที่ลมหนาวกำลังปะทะกับร่างตนเองบนรถสองแถว

       พอมาถึงที่ม่อน คุณครูและน้องๆยังก่อกองไฟนั่งปิ้งข้าวหลามรอพวกเรามาลองชิมข้าวหลามฝีมือชาวเหนือ เมื่อเราลองชิม มันไม่มีรสชาติ เพราะไม่ได้การปรุงเพิ่มความหวาน แต่มันมีรสชาติแห่งความอบอุ่น มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

       "โรงเรียนของหนู อยู่ไกลไกล๊ไกล อยากให้คุณคุณหันมอง..."

      เสียงกีต้าร์คลอเบาๆประกอบกับเสียงร้องของน้องจัมโบ้ เด็กนักเรียนคนหนึ่งในโรงเรียนม่อนแสงดาว วนเวียนอยู่ในโสตประสาท แล้วส่งต่อไปยังสมอง ไม่สิ! หัวใจมากกว่า ผมตกอยู่ในห้วงภวังค์ของความลึกซึ้งที่บรรยายออกมาไม่ถูก

วันแห่งการจากลาก็มาถึง...

       คุณครูให้พวกเราวาดรูปไว้เป็นที่ระลึก ส่วนน้องๆก็วาดรูปให้พวกเราเช่นกัน และสุดท้าย ความทรงจำก็ได้รับการบันทึกลงในรูปวาด

หยิบมองรูปนี้อีกสักกี่ครั้ง ก็รู้สึกดี

ลาก่อน ม่อนแสงดาว

----------------

#CHUBBYINCHIANGRAI

#MIDL2018

#INCLUSIVECITIES

#STORYTELLERSINJOURNEY

#สาธารณะศึกษา

#พื้นที่เรียนรู้สาธารณะ

 

บรรณวิชญ์  สมบุญ

   แถ่นแทนแท้น

 

บล็อกของ Storytellers

Storytellers
          ความว่างเริ่มเข้ามาในหัวสมองเมื่อผมกลับมาจากการตกปลาได้สักพักหนึ่ง มันส่งเสียงบอกผมว่า “เห้ย!นายต้องหาอะไรทำได้แล้วนะ”พร้อมนึกขึ้นได้ว่า เรานัดคุยกับคุณตาไว้นี่ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปบ้านคุณตา คุณตากำลังสานตะกร้าจากไม้ไผ่ไว้ใช้เองอยู่คุณตาเห็นผมด้วยท่าทางทีใจ รี
Storytellers
          เป็นค่ำคืนที่หัวถึงหมอนแล้วรู้สึกอีกทีคือตอนตื่น ผมตื่นมาอย่างตื่นเต้นเตรียมพร้อมที่จะเดินขึ้นไปดูทะเลหมอกแต่มองออกไปก็เจอแต่ความมืดมิดของค่ำคืนที่ไม่มีไฟฟ้าและก็ไม่เห็นจะมีใครตื่นมากับเรา ในใจตอนนั้นถามว่าให้เดินขึ้นไปคนเดียวกล้าไหม ก็คงตอบอย่างมั่นใจว่าไม่กล้า
Storytellers
          พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าเหล่านกกาบินร้องกลับรังก็ได้เวลาที่เรากลับมาที่โรงเรียน เพื่อเตรียมทำกับข้าว ซึ่งก็มีออเดิร์ฟมาเสิร์ฟเราถึงที่ เป็นหัวปลีคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง ทอดกรอบๆ พูดแล้วก็อยากทานอีก เพราะรสชาติมันช่างกลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างมาก โดยแม่ครัวใหญ่ของอาห
Storytellers
          เรานั่งรอคุณครูซามารับประมาณเกือบๆ 2 ชม.เพราะวันนี้ทางโรงเรียนติดส่งแขกที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ แล้วรถของคุณครูก็มาถึงเป็นรถโฟวิลยกสูงคันใหญ่ ที่ขับมาโดยเด็กหนุ่มหน้าตาอย่างกับบอยแบรนด์เกาหลี ผมสวัสดีทักทาย ในใจก็คิดว่าสงสัยครูซาคงให้ลูกศิษย์ขับรถมาแทน แต่ก็ไม่ใช่
Storytellers
          เสียงนาฬิกาปลุกปลุกผมให้ลุกจากที่นอนรีบไปอาบน้ำ ผมสะพายเป้ ออกจากบ้านด้วยอารมณ์เรียบเฉยต่างจากวันก่อนที่อยากไปมากอย่างสิ้นเชิง คงเป็นเพราะบรรยายกาศที่มีฝนตกปรอยๆ และข้อมูลการเดินทางที่มีน้อยมาก มันเลยทำให้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากการเดินทางครั้งนี้ผมนัดเจอกับชาต
Storytellers
หลังจากจบกิจกรรมในวันแรกเราทุกคนต้องนอนค้างด้วยกันและเช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องรีบแหกขี้ตาขับรถกลับบ้านเพื่อแต่งตัวไปทำงาน ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นเตรียมตัวออกเดินทางโดยตลอดการเดินทางเราจะใช้ “APP C –Site”เพื่อติดตามเรื่องราวของกันและกัน ความรู้สึกที่เราต้องนั่งหงอยๆทำงานอยู่หน้าคอมทั้งที่เพื่อนคนอื่นออก
Storytellers
          ชีวิตในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวายเร่งรีบของใครคนหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไรจากเมืองกรุงแห่งนี้จนเลื่อนมือถือไปๆมาๆเจอโพสหนึ่ง “เปิดรับเยาวชนนักเล่าเรื่องที่สนใจจะไปเที่ยว!
Storytellers
ก่อนได้ไปลงพื้นที่ที่สะเนพ่องเราได้ไปค่ายนักเล่าเรื่องในที่อื่น(Storytellers in Journey) ที่มูลนิธฺเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปซึ่งทำให้เราได้เจอกับพี่ๆหลายๆคนและทุกๆคนน่ารักมาก แต่ในระยะเวลาที่เราได้อยู่ค่ายนั้นมันมีแค่ 2 วันคือวันที่7-8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 แล้วในตอนนั้นผมก็ยังมีโครงการของผมที่ยังต้องไ
Storytellers
บัติ-ใจ-สู้  สามคำที่อยากแนะนำตัวเองให้ทุกคนได้รู้จัก  “บัติ”  มาจากชื่อจริงชื่อ  สมบัติ  แก้วเนื้ออ่อน  “ใจ”  มาจากสิ่งที่เริ่มทำในชีวิตส่วนใหญ่มักเริ่มต้นมาจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นผ่านใจ  ถ้าใจอยากทำ  ยังไงก็จะทำต่อไปจนสำเร็จให้ได้  ส่
Storytellers
ต่างคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การเดินทางคือการซื้อประสบการณ์ที่ได้รับเงินทอนเป็นความสุข เป็นคำพูดที่มีความจริงเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากแต่บางครั้งเงินทอนที่ได้รับอาจจะมาในรูปแบบที่โหดร้ายได้เหมือนกัน เพราะการเดินทางไปในแต่ละที่มักจะได้ประการณ์ที่ไม่เหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่า
Storytellers
          ผมได้เข้าร่วมโครงการ Storytellers in journey ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ผมได้ออกเดินทางไปเรียนรู้อะไรใหม่ตามที่ต่างๆ และผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังบ้านปลาบู่ จังหวัดหมาสารคาม เพื่อไปดูการจัดการธุรกิจแบบ Social Enterprise เพราะผมได้รู้มาว่าที่นั้นมีการทำธุรกิจแบบ