Skip to main content

           คุณเคยเห็นเวลาที่รถติดหล่มไหม มันคงใช้เวลาอยู่นานเลยนะกว่าจะหลุดพ้นจากหล่มนั้นมาได้ คงต้องใช้ทั้งเวลาทั้งแรงและปัจจัยอีกหลายๆอย่างมากมายในการหลุดออกมา การจากลาจากใครสักคนก็เหมือนกัน ความรู้สึกของการจากลามันก็เหมือนรถที่ติดหล่มที่เมื่อติดลงไปแล้วก็ทำให้ความรู้สึกเราจมอยู่กับหล่มนั้นไปไหนไม่ได้สักทีแต่ก็ใช่ว่าเราจะอยู่ในหล่มนั้นตลอดไปนะเพราะรถอย่างไรก็ต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้า ชีวิตคนเราก็เช่นกัน อารมณ์การติดหล่มความรู้สึกก็ย่อมเลือนหายไปตามเวลาเมื่อปัจจัยอื่นๆเข้ามาแทนที่ในชีวิตแต่มันก็ไม่ได้หายไปไหนมันแค่เปลี่ยนจากความรู้สึกหม่นๆ ไปเป็นความทรงจำในส่วนที่ดีที่ยากจะลืมเลือน ผมสะพายกระเป๋าเป้ขึ้นรถพร้อมบอกลาและสวมกอดกับทุกคนและให้สัญญาไว้ว่าสักวันหนึ่งเราจะกับมาพบกันอีก รถแล่นผ่านตัวหมู่บ้าน ลำธาร ออกมาเรื่อยๆจนถึงถนนใหญ่คิดแล้วก็คิดถึงแต่ชีวิตก็ต้องดำเนินกันต่อไป รถมาส่งเราที่ตัวอำเภอ ผมเริ่มรู้สึกกลับมาสู่โลกแห่งความวุ่นวายอีกครั้ง สำหรับผมสะเนพ่องเหมือนโลกอีกใบหนึ่งที่มีป่าเขา ลำเนาไพรกั้นโลกสองใบนี้อยู่ วันนี้ผมคงต้องกลับมาสู่โลกของผม กลับมาสู่ความรับผิดชอบที่ตนเองต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เราก้าวขึ้นรถตู้ในช่วงสายและมาถึงกาญจนบุรีในช่วงบ่ายโมง อันที่จริงเราจะนั่งรถตู้กลับกรุงเทพกันเลยก็ได้ แต่ผมแค่อยากให้เวลามันเดินช้าลงอีกหน่อยเพราะผมคงไม่อยากให้มันถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ ผมคงเบื่อกับการที่ต้องตื่นแต่เช้า เร่งรีบไปให้ทันตอกบัตรเข้างานก่อนแปดโมง นั่งจมความคิดอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่ผมมีกรอบของเวลาและระเบียบกักขังผมอยู่และคงได้แต่รอเวลาหกโมงเย็นที่ผมต้องฝ่าด่านรถติด ฝนตก กลับมาหากับข้าวกิน มองดูเวลาอีกทีก็หมดวัน ผมเลือกลงรถตู้ที่สถานีรถไฟกาญจนบุรี เราตกลงกับชาติแล้วว่าจะนั่งรถไฟกลับ รถไฟมารับเราในตอนบ่ายสามโมงพร้อมกับความว่างเปล่าของโบกี้ที่คนดูบางตา ผมหาที่ว่างนั่งลงเงียบๆ มองดูวิวทิวทัศน์รอบๆข้าง ที่การเดินทางแบบอื่นไม่สามารถให้ผมได้อย่างแน่นอน รถไฟคลื่นตัวจากวิวภูเขามากมาย เข้าสู่ตัวชุมชน และไร่นาในจังหวัดราชบุรี สองข้างทางเต็มไปด้วยเด็กนักเรียน พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัด ที่มองดูแล้วก็ยังวุ่นวายน้อยกว่าเมืองกรุง ผมนั่งมองดูเด็กนักเรียนแล้วคิดอิจฉา อยากย้อนเวลากลับไปใช้เวลาในช่วงนั้นให้คุ้มค่ากว่านี้ มันดีมากเลยนะในช่วงนั้น มันดีมากเลยที่เรามีหน้าที่แค่เรียน ถึงเวลาเลิกเรียนก็รวมกลุ่มกับเพื่อนไปทำอะไรสนุกๆด้วยกันจนถึงเย็นแล้วจึงค่อยกลับบ้าน ยิ่งได้มาเห็นเด็กนักเรียนตามทางรถไฟที่ผ่านยิ่งรู้สึกคิดถึงวันวานในวันเก่าๆ รถไฟเคลื่อนตัวมาเรื่อยจนเข้าสู่จังหวัดนครปฐม ยิ่งรถไฟวิ่งเข้าใกล้เมืองกรุงเท่าไหร่ ความวุ่นวายก็เริ่มเด่นชัดขึ้นเท่านั้น จนในที่สุดเราก็มาถึงสถานีรถไฟธนบุรีในช่วงเวลาหกโมงกว่าจะบอกว่าตกใจก็คงไม่ได้เพราะเราควรจะชินตากับภาพรถติดอย่างนี้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่เมื่อวานสิ่งที่เราเจอมันไม่ใช่แบบนี้เพราะเมื่อวานเรายังเห็นแต่ธรรมชาติ เสียงนกบินกลับเข้ารังอยู่เลย แต่แล้ววันนี้ทำไมเป็นแบบนี้ความจริงก็คือความจริง ผมบอกลาชาติพร้อมขอบคุณสำหรับการร่วมทางกันในครั้งนี้ และแล้วการเดินทางครั้งนี้ของผมก็จบลง ผมไม่รู้จะสรรหาคำใดมาเป็นการปิดท้ายเรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ของผมได้ดีเท่ากับความรู้สึกที่ผมได้อยู่ ณ ที่บ้านสะเนพ่อง ความรู้สึก ณ ที่อยู่จุดนั้นคงตอบอะไรหลายๆอย่างในการเดินทางครั้งนี้ได้ดีที่สุด และผมก็ไม่ลืมที่จะบันทึกเสียงความรู้สึกนั้นเก็บไว้ ในค่ำคืนสุดท้ายของผมที่บ้านสะเนพ่องครับ........

          “ตอนนี้เราก็อยู่กันที่บ้านสะเนพ่องคืนที่สองครับ ตอนนี้กำลังเดินกลับไปศูนย์การเรียนรู้เพิ่งกลับมาจากการไปกินข้าวบ้านคุณตามา ความรู้สึกสำหรับผมที่มาที่นี่มันไม่เหมือนที่คิดไว้หลายๆอย่าง มันทำให้ที่นี่ดูน่าอยู่สำหรับผม มันมีแต่รอยยิ้มความเงียบสงบวัฒนธรรม ธรรมชาติและอะไรอีกหลายๆอย่างที่ผมว่ามันมีสเน่ห์ในแบบที่เป็นสะเนพ่องที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร คืนนี้ก็เป็นคืนสดุท้ายผมก็แค่อยากจะบอกว่าผมประทับใจรู้สึกหลงรักที่นี่ถ้ามีโอกาสก็คงจะกลับมาอีก อาจจะเป็นในอีก 5 ปี 10 ปี กลับมาดูความเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่อยากให้มันเปลี่ยนไปคือความเจริญที่มันเข้ามา ผมคิดว่ามันยิ่งทำให้เสน่หข์องบ้านสะเนพ่องนั้นหายไป ขอบคุณครับ”

 

บล็อกของ Storytellers

Storytellers
          ความว่างเริ่มเข้ามาในหัวสมองเมื่อผมกลับมาจากการตกปลาได้สักพักหนึ่ง มันส่งเสียงบอกผมว่า “เห้ย!นายต้องหาอะไรทำได้แล้วนะ”พร้อมนึกขึ้นได้ว่า เรานัดคุยกับคุณตาไว้นี่ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปบ้านคุณตา คุณตากำลังสานตะกร้าจากไม้ไผ่ไว้ใช้เองอยู่คุณตาเห็นผมด้วยท่าทางทีใจ รี
Storytellers
          เป็นค่ำคืนที่หัวถึงหมอนแล้วรู้สึกอีกทีคือตอนตื่น ผมตื่นมาอย่างตื่นเต้นเตรียมพร้อมที่จะเดินขึ้นไปดูทะเลหมอกแต่มองออกไปก็เจอแต่ความมืดมิดของค่ำคืนที่ไม่มีไฟฟ้าและก็ไม่เห็นจะมีใครตื่นมากับเรา ในใจตอนนั้นถามว่าให้เดินขึ้นไปคนเดียวกล้าไหม ก็คงตอบอย่างมั่นใจว่าไม่กล้า
Storytellers
          พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าเหล่านกกาบินร้องกลับรังก็ได้เวลาที่เรากลับมาที่โรงเรียน เพื่อเตรียมทำกับข้าว ซึ่งก็มีออเดิร์ฟมาเสิร์ฟเราถึงที่ เป็นหัวปลีคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง ทอดกรอบๆ พูดแล้วก็อยากทานอีก เพราะรสชาติมันช่างกลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างมาก โดยแม่ครัวใหญ่ของอาห
Storytellers
          เรานั่งรอคุณครูซามารับประมาณเกือบๆ 2 ชม.เพราะวันนี้ทางโรงเรียนติดส่งแขกที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ แล้วรถของคุณครูก็มาถึงเป็นรถโฟวิลยกสูงคันใหญ่ ที่ขับมาโดยเด็กหนุ่มหน้าตาอย่างกับบอยแบรนด์เกาหลี ผมสวัสดีทักทาย ในใจก็คิดว่าสงสัยครูซาคงให้ลูกศิษย์ขับรถมาแทน แต่ก็ไม่ใช่
Storytellers
          เสียงนาฬิกาปลุกปลุกผมให้ลุกจากที่นอนรีบไปอาบน้ำ ผมสะพายเป้ ออกจากบ้านด้วยอารมณ์เรียบเฉยต่างจากวันก่อนที่อยากไปมากอย่างสิ้นเชิง คงเป็นเพราะบรรยายกาศที่มีฝนตกปรอยๆ และข้อมูลการเดินทางที่มีน้อยมาก มันเลยทำให้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากการเดินทางครั้งนี้ผมนัดเจอกับชาต
Storytellers
หลังจากจบกิจกรรมในวันแรกเราทุกคนต้องนอนค้างด้วยกันและเช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องรีบแหกขี้ตาขับรถกลับบ้านเพื่อแต่งตัวไปทำงาน ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นเตรียมตัวออกเดินทางโดยตลอดการเดินทางเราจะใช้ “APP C –Site”เพื่อติดตามเรื่องราวของกันและกัน ความรู้สึกที่เราต้องนั่งหงอยๆทำงานอยู่หน้าคอมทั้งที่เพื่อนคนอื่นออก
Storytellers
          ชีวิตในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวายเร่งรีบของใครคนหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไรจากเมืองกรุงแห่งนี้จนเลื่อนมือถือไปๆมาๆเจอโพสหนึ่ง “เปิดรับเยาวชนนักเล่าเรื่องที่สนใจจะไปเที่ยว!
Storytellers
ก่อนได้ไปลงพื้นที่ที่สะเนพ่องเราได้ไปค่ายนักเล่าเรื่องในที่อื่น(Storytellers in Journey) ที่มูลนิธฺเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปซึ่งทำให้เราได้เจอกับพี่ๆหลายๆคนและทุกๆคนน่ารักมาก แต่ในระยะเวลาที่เราได้อยู่ค่ายนั้นมันมีแค่ 2 วันคือวันที่7-8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 แล้วในตอนนั้นผมก็ยังมีโครงการของผมที่ยังต้องไ
Storytellers
บัติ-ใจ-สู้  สามคำที่อยากแนะนำตัวเองให้ทุกคนได้รู้จัก  “บัติ”  มาจากชื่อจริงชื่อ  สมบัติ  แก้วเนื้ออ่อน  “ใจ”  มาจากสิ่งที่เริ่มทำในชีวิตส่วนใหญ่มักเริ่มต้นมาจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นผ่านใจ  ถ้าใจอยากทำ  ยังไงก็จะทำต่อไปจนสำเร็จให้ได้  ส่
Storytellers
ต่างคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การเดินทางคือการซื้อประสบการณ์ที่ได้รับเงินทอนเป็นความสุข เป็นคำพูดที่มีความจริงเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากแต่บางครั้งเงินทอนที่ได้รับอาจจะมาในรูปแบบที่โหดร้ายได้เหมือนกัน เพราะการเดินทางไปในแต่ละที่มักจะได้ประการณ์ที่ไม่เหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่า
Storytellers
          ผมได้เข้าร่วมโครงการ Storytellers in journey ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ผมได้ออกเดินทางไปเรียนรู้อะไรใหม่ตามที่ต่างๆ และผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังบ้านปลาบู่ จังหวัดหมาสารคาม เพื่อไปดูการจัดการธุรกิจแบบ Social Enterprise เพราะผมได้รู้มาว่าที่นั้นมีการทำธุรกิจแบบ