ทุกวัน ทุกเช้า ทุกคืน ทุกครั้งที่ใช้มีดหั่นลงไปบนเนื้อหนังของสิ่งมีชีวิต และใช้ส้อมจิ้มมันเข้าปาก คุณเคยคิดตั้งคำถามเกี่ยวกับการกินและความหมายของการสืบทอดจากชีวิตสู่ชีวิตบ้างไหมคะ?
ถ้าเคย บางทีการ์ตูนเล่มนี้อาจจะให้คำตอบแก่สิ่งที่คุณสงสัย และแนวคิดใหม่ในอีกแง่มุมหนึ่งแก่คุณค่ะ
22XX เป็นผลงานเล่มเดียวจบของชิมิสึ เรโกะ (ผู้เขียน Moon Child, Kaguyahime) โดยจับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกอนาคต เมื่อความเจริญทางวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด การพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีความสามารถเหมือนมนุษย์ทุกประการก็ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป แจ็ค ไนเจล คือหนึ่งในนั้น เขามีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์ มีแม้กระทั่งความเจ็บปวด ร้อนหนาวและหิวโหย และในช่วงหนึ่งของชีวิต แม้แต่ตัวแจ็คเอง ก็ยังเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์เช่นกัน
เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าหญิงแห่งครีกแลนด์ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายลักพาตัวไปกบดานอยู่ที่เมนูเอ็ท ดาวเคราะห์หมายเลข 11 ในกลุ่มดาวหงส์ขาว ครีกแลนด์ตั้งเงินรางวัลหนึ่งแสนล้านครีกแลนด์ดอลแก่บุคคลหรือคณะบุคคลที่สามารถช่วยเจ้าหญิงมาจากผู้ก่อการร้ายได้ ทันทีที่ข่าวถูกป่าวประกาศออกไป นักล่าเงินรางวัลจำนวนมากก็มุ่งหน้าสู่เมนูเอ็ท และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ แจ็ค ไนเจล
แจ็คมุ่งหน้าสู่ลาลองจ์ สถานที่กบดานของพวกผู้ก่อการร้าย ในอดีต ลาลองจ์เคยเป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรม แต่ปัจจุบันได้เสื่อมสลายลงและหลงเหลืออยู่เพียงซากโบราณสถานท่ามกลางป่าดงดิบ ตามปกติจะไม่มีใครกล้าเหยียบย่างเข้าไป ไม่ใช่เพราะกลัวผู้ก่อการร้ายหรือสัตว์ป่า แต่เพราะกลัวชาวโฟทูริส ชนเผ่าพื้นเมืองของลาลองจ์ซึ่งกินเนื้อคน
และที่นี่เองที่แจ็คได้พบกับรูบี้ เด็กสาวชาวโฟทูริส ซึ่งจะเปลี่ยนทัศนคติต่อการกินของเขาไปตลอดกาล
ในเรื่องนี้ ทัศนคติที่มีต่อการ ‘กินเนื้อคน’ ถูกแบ่งแยกออกเป็นสองมุมมอง มุมมองแรกจากมนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่มีความคิดว่า การกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเองเป็นสิ่งที่น่ากลัวและน่าขยะแขยง และมุมมองที่สองจากชาวโฟทูริสซึ่งการกินและการถูกกินเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ต่างฝ่ายต่างมีส่วนที่ไม่เข้าใจกันและเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่ง แจ็คเป็นตัวแทนของมนุษย์จากโลกภายนอกที่มีโอกาสได้เข้าไปเรียนรู้ว่า ความจริงแล้ว เบื้องหลังการกินเนื้อคนของชาวโฟทูริสไม่ใช่ความป่าเถื่อนของชนเผ่าที่มีความรู้คิดไม่ต่างจากสัตว์อย่างที่เขาเคยเข้าใจ
ในโลกแห่งความเป็นจริง สัตว์กินเนื้อส่วนใหญ่กินได้แม้แต่เนื้อของพวกเดียวกันเอง แต่มนุษย์ไม่ มนุษย์-โดยเฉพาะในสังคมศิวิไลซ์-สร้างข้อตกลงอย่างลับ ๆ ไว้โดยที่ไม่มีใครเอ่ยปากว่าจะไม่ล่าและกินกันเอง เพราะเชื่อว่าเมื่อใดที่เป็นดังนั้น มนุษย์จะไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ จะไม่สามารถไว้วางใจซึ่งกันและกัน การกินคนในสายตาของมนุษย์ทั่วไปจึงเป็นการกระทำที่เลวร้าย ชาวโฟทูริสซึ่งได้รับการรับรองตามกฎหมายให้กระทำเช่นนั้นได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความป่าเถื่อนน่ากลัว และทำให้ลาลองจ์กลายเป็นสถานที่ต้องห้าม แต่สำหรับชาวโฟทูริสแล้ว การกินและการถูกกินไม่ได้มีความหมายเพียงแค่เพื่อให้คลายความหิว แต่ยังเป็นการสืบทอดชีวิต จากผู้ถูกกินสู่ผู้กิน ไม่เพียงแค่เลือดเนื้อเท่านั้นที่ถูกถ่ายทอดมา แต่ยังรวมไปถึงความรู้สึกนึกคิดและความดีงามด้วย คนที่ถูกกินไม่ได้ตายจากไป แต่จะยังมีชีวิตอยู่ต่อในร่างกายของผู้ที่กิน รูบี้เองเกิดมาโดยไม่เคยเห็นหน้าพ่อ เพราะพ่อถูกแม่กินไปตั้งแต่ก่อนเธอเกิด และเมื่อแจ็คมาพบเธอ เธอก็อยู่เพียงลำพัง เพราะได้กินแม่ไปแล้วก่อนหน้านี้ เธอในขณะนี้จึงเป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ รวมทั้งชีวิตอีกนับร้อยนับพันที่ทั้งสองเคยกินมา และตัวเธอเองก็มีชีวิตอยู่เพื่อจะได้มอบชีวิตของตัวเองให้กับคนที่มีความหมายที่สุดในวันข้างหน้า
(แนวความคิดคล้ายกับชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในแอฟริกาที่จะกินสมองของผู้ที่มีปัญญาที่สุดของเผ่าเมื่อเขาตายลงเพื่อรับสืบทอดปัญญาของเขามา และเป็นสาเหตุการระบาดของโรค ‘กูรู’ โรคสมองเสื่อมอันเกิดจากเชื้อไพรออน -แบบเดียวกับเชื้อวัวบ้า- ซึ่งจะถ่ายทอดกันได้ผ่านทางการกินสมองและไขสันหลังของผู้ที่เป็นโรค)
ด้วยเหตุนี้ ในสายตาของชาวโฟทูริส การกินจึงเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะกินอาหารที่ล่ามาได้ พวกเขาต้องสวดมนต์เป็นเวลานานเสมอ และจะนานที่สุดเมื่อกินเนื้อคน การตายไปโดยไม่มีใครกินเป็นสิ่งที่น่าเศร้าและน่ากลัวที่สุด และด้วยเหตุนี้เอง ในขณะที่คนเมืองมองชาวโฟทูริสด้วยสายตาหวาดกลัวและขยะแขยงในความป่าเถื่อนที่กินเนื้อคนด้วยกัน ชาวโฟทูริสก็มองชาวเมืองด้วยความไม่เข้าใจเช่นกันว่า มนุษย์เหล่านั้นฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองทำไม ในเมื่อไม่ได้กิน
ชิมิสึ เรโกะ ได้ขมวดประเด็นทางจิตวิทยาของเรื่องให้ซับซ้อนขึ้นอีกด้วยอดีตของแจ็ค ห้าปีก่อน แจ็ค ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์ ได้ถูกขังลืมไว้กับมนุษย์คนหนึ่ง ทั้งสองแบ่งอาหารที่มีอยู่จำกัดกันอย่างยุติธรรม และเมื่อมีผู้มาพบ ในที่คุมขังนั้นก็เหลือเพียงแจ็คซึ่งเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นที่รอดชีวิต การได้พบกับรูบี้และได้รับรู้ปรัชญาในการกินของชาวโฟทูริส ทำให้แจ็ครู้สึกผิดบาปกับเหตุการณ์นั้นยิ่งขึ้น เขาโทษตัวเองว่า ถ้าไม่ใช่เพราะเขาซึ่งเป็นหุ่นยนต์ตะกละตะกลามกินอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัดนั้นไปด้วย ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้สืบทอดกลายเป็นเลือดเนื้อ เพื่อนของเขาอาจไม่ต้องตายก็ได้ และนี่เป็นสาเหตุให้เขาใช้เงินรางวัลที่ได้จากการช่วยเจ้าหญิงเปลี่ยนโปรแกรมของตัวเองในภายหลัง เพื่อจะได้ไม่ต้องมีความรู้สึกหิวอีกต่อไป
ด้วยความที่ 22XX เป็นการ์ตูน เนื้อหาที่ค่อนข้างสุดขอบจึงมีไว้เพื่อให้สารที่ผู้เขียนต้องการสื่อส่งไปถึงผู้อ่านได้อย่างชัดเจนมากกว่าที่จะโน้มน้าวให้เห็นดีเห็นงามทำตาม (คงไม่มีใครที่อ่านจบแล้วคิดจะลุกขึ้นไปหาเนื้อคนมากิน?) ประเด็นอยู่ที่ว่า เมื่อเราตัดเนื้อชิ้นหนึ่งซึ่งมาจากชีวิตของผู้อื่นส่งเข้าปาก เราได้ระลึกถึงสิ่งที่เนื้อชิ้นนั้นมอบให้แก่เราบ้างหรือไม่ ความหมายในการกินของมนุษย์ในทุกวันนี้อยู่ที่ไหน การบรรเทาความหิว ความอร่อยลิ้น ความเลิศหรู หรือเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตของตัวเองต่อไป เมื่อกินแล้ว เราได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า สมกับที่มันเป็นสิ่งที่ได้รับมาจากการเสียสละจากชีวิตของผู้อื่นหรือไม่ และในเมื่อเราได้รับความเมตตาจากชีวิตอื่นมาต่อชีวิตของตัวเองแล้ว เราได้ให้อะไรคืนกลับไปสู่ชีวิตอื่นที่อยู่บนโลกบ้าง
นี่กระมัง เหตุผลที่บางศาสนาบอกให้เราสวดมนต์เพื่อขอบคุณก่อนที่จะเริ่มมื้ออาหาร เพราะอาหารเหล่านั้นได้มาด้วยความเสียสละอย่างใหญ่หลวงจากผู้ที่เป็นอาหารนั้น แม้มันจะเป็นเพียงแค่สัตว์หรือพืชก็ตาม
ใน Author’s note ชิมิสึ เรโกะกล่าวถึงการฝังศพ เธอบอกว่ามันไม่ค่อยยุติธรรม ทั้ง ๆ ที่มนุษย์กินสิ่งมีชีวิตอื่นบนโลกไปมากมาย แต่เมื่อถึงคราวที่ตัวเองต้องตาย กลับเผาให้สูญสลายไปโดยไม่คืนอะไรให้กับโลกเลย (ตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น) แทนที่จะฝังเพื่อเป็นประโยชน์แก่พืช สัตว์ หรือแมลงที่อยู่ใต้ดิน และนั่นเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเป็น 22XX เล่มนี้ ถึงจะฟังเหตุผลแล้วยังไม่แน่ใจว่าเห็นด้วยกับเธอหรือเปล่า แต่ฉันก็ชอบแนวความคิดนั้น รวมทั้งอีกหลากหลายแนวความคิดที่แฝงไว้ในการ์ตูนเล่มอื่น ๆ ของเธอ และถ้าคุณได้อ่านแล้วเกิดหลงรักแจ็ค ไนเจล เขาก็ยังมีวีรกรรมอีกหลายตอนให้คุณติดตาม ไม่ว่าจะเป็น Milky Way (เข้าใจว่าจะเป็น rare item เพราะมันเป็นการ์ตูนไพเรทของสยามสปอร์ตพรินติ้งสมัยฉันอยู่ชั้นประถม) เหตุผลของเทวดา (เล่มเดียวจบ, Vibulkij comic) และดวงดาวแห่งนิทรา (5 เล่มจบ, Vibulkij comic)
ก่อนอาหารมื้อต่อไป อย่าลืมลองเปลี่ยนทัศนคติของอาหารที่อยู่ตรงหน้าคุณ จากสิ่งที่ใช้เพื่อบำบัดความหิว เป็นความเมตตาที่ได้จากการเสียสละของชีวิตอื่น บางทีคุณอาจจะรู้สึกว่าคุณค่าในการมีชีวิตอยู่ของตัวเองมีมากขึ้นก็ได้