Skip to main content
เช้าวันที่ 6 มิถุนายน ลูกตื่นเต้นมาก แม่รู้ เมื่อถึงวันที่ต้องเดินทางมาอยู่วัดกับหลวงพ่อ วันนั้นลูกตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เตรียมเก็บเข้าของเครื่องใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าคิดตี้ใบเล็กสีชมพูหวานแหววของลูก แต่เพราะลูกยังมีอาการตัวร้อนเป็นไข้รุมๆ ทำให้แม่กับพ่อเป็นห่วง เราจึงวางแผนเดินทางในตอนเย็น วันนั้นลูกร่าเริงมาก และเขียนบันทึกว่า

วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2551

วันแห่งความสุขและความสงบ

วันนี้ตื่นขึ้นมายิ้มรับวันใหม่ด้วยใจที่เบิกบาน มีความสุข

ในสมุดบันทึกสุขภาพอีกเล่ม ลูกเขียนไว้ว่า

\\/--break--\>

ตื่น 05.16 . ยกขาข้างละ 20 ครั้ง นอนต่อ พ่อนวดขาให้ ยิ้มให้พ่อ กอดพ่อ แล้วยกขา 20 ครั้ง พ่อดีใจมาก

กินยาธิเบต น้ำอุ่น กินยาญี่ปุ่น กินน้ำนาโน เขียนบันทึก กินข้าวเหนียว (ขาวเย็น) กับน้ำผึ้ง ขนมปังกับน้ำผึ้งน้อยมาก อ่านหนังสือยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ถ่าย กินพายสับปะรด 1 คำ น้ำผึ้ง 2 อึกเล็ก อ่านหนังสือต่อ

แม่เช็ดตัว กดลมปราณ พอกท้อง นอนหลับ กินน้ำเขียว พ่อกับแม่กำลังเก็บข้าวของเตรียมไปวัด ตัวยังร้อนเหมือนเดิม แต่ก็ดีกว่าเมื่อคืน แปรงฟัน เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า กินมังคุด กินน้ำผึ้ง 2 อึกเล็ก อ่านหนังสือต่อ กินลวกผักบุ้ง ตำลึง ดอกฟักทองอ่อน กินข้าวเหนียวกับกล้วย 2 คำ กินข้าว 1 คำ กินต้มจืด 3 คำ อ่านหนังสือต่อ กินน้ำเขียว 1 แก้วเล็ก กินน้ำผึ้ง 1 อึกเล็ก กินยาธิเบต กินน้ำหนอนฯ นอน เช็ดตัว กินมังคุด กินข้าวเหนียว 1 ปั้นเล็กกับกล้วย นอนต่อ

 

เดินทาง(มาวัด) (แวะ)มานวดตัวที่ร้านคนตาบอดที่มุกดาหาร กินยาธิเบต น้ำอุ่น กินพายสับปะรดหมด กินธัญพืช กินทองม้วน 1 แท่ง หลับนาน เดินทางมาวัด

 

พ่อได้โทรฯไปประสานงานกับกลุ่มพี่น้องชาวบ้านย่านตำบลกกตูมที่เป็นเครือข่ายอนุรักษ์ป่าภูพาน ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ให้ช่วยเตรียมแคร่หามไว้ให้ด้วย เมื่อเราไปถึงที่เชิงภูในเวลาพลบค่ำพอดี ทุกคนรออยู่ ทุกอย่างพร้อมพรั่กสำหรับพาลูกรักขึ้นไปบนวัด ลูกนอนอย่างสบายบนเปลหาม ระยะทางที่สูงชันราวๆ 500 เมตร มีก้อนหินตะปุ่มตะป่ำต้องคอยระวังยามเหยียบย่าง แต่ทุกคนไม่มีใครเหนื่อยเลย ทุกคนเต็มใจทำให้ลูก นับเป็นความซึ้งใจของพ่อกับแม่มาจนทุกวันนี้ ที่มีคนที่รักและดูแลเราราวกับญาติมิตรตลอดมา แม้แต่ในเวลาต่อๆมาก็ตาม อาหารของลูกประเภทผักผลไม้สดๆ ปลอดสารเคมีล้วนแต่ได้มาจากบ้านพี่น้องทั้งใกล้และไกล โดยเฉพาะมังคุดที่เป็นผลไม้สุดโปรดของลูก บางส่วนส่งมาจากคีรีวง นครศรีธรรมราช บางส่วนส่งมาจากจันทบุรี ระยอง

 

ดูสิลูก ความรักความเมตตาที่ทุกคนมีให้ลูกมากมายกว้างไกลจนเราตอบแทนได้ไม่สิ้น แม้แต่วัดป่าภูไม้ฮาวแห่งนี้ พ่อกับแม่ไม่เคยรู้จักมาก่อน หลวงพ่อ ที่ใครๆเรียกว่าหลวงพ่อนั้น ท่านมีชื่อว่า พระอาจารย์ครรชิต สุทธิจิตโต ประวัติของท่านเราก็ไม่เคยรู้ แต่เมื่อลูกผูกพันกับท่านอย่างลึกซึ้งในทางธรรม นับว่าเป็นบุญของพ่อกับแม่ที่ได้ตามลูกมา และดำเนินวิถีธรรมมาจนถึงวันนี้

 

บ้านหรือกุฏิที่พัก ถูกเตรียมพร้อมไว้แล้ว ทันทีที่ลูกมาถึง สายฝนก็พรมสายลงมาเบาๆ คล้ายต้อนรับเราอย่างร่มเย็น

 

 

บันทึกของลูกในตอนค่ำวันนั้น เขียนไว้ว่า

 

นอนเปลหามขึ้นมา เห็นที่พักแล้วน่าอยู่มาก

กินยาญี่ปุ่น

พ่อไปส่งชาวบ้านที่หมู่บ้าน

กินมังคุด 2 ลูก กินมัน แม่ไปทำกับข้าว อยู่กับย่า ฝนตกแต่ไม่ค่อยหนัก

อ่านละคร เรื่องหาบของแม่ ฝนตกหนัก ลมแรง เข้ามาอยู่ข้างใน ย่าอุ้มเข้ามา ย่าออกไป

กินข้าวกับกล้วย กินธัญพืช กินขาไก่

อ่านละครต่อสนุกดี แม่ยังไม่มาเลย หิวข้าวนิดหน่อย กินลวกผักบุ้ง ตำลึง

พ่อมา กินนึ่งปลา นอน กินยาธิเบต

พ่อแม่นวดให้ นอนหลับ ฝนตกหนักทั้งคืน

ฉี่ 2 ครั้ง ถ่าย กินกล้วย 1 ลูก นอนหลับสบาย

 

(ตลอดเวลาที่ลูกบันทึกไว้ ไม่มีตอนไหนเลยที่เขียนไว้ว่าปวดท้อง หรือเจ็บที่ร่างกายส่วนใด นอกจากอุบัติเหตุในคราวหนึ่ง หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแม่ประคองลูกออกจากห้องน้ำมานั่งที่ระเบียงด้านนอก แม่ปล่อยให้ลูกนั่งเอง เพราะแม่ต้องเข้าไปเอาเสื้อผ้าในห้องมาใส่ให้ ตอนนั้นมีพ่ออยู่ใกล้ๆ แต่พ่อไม่ทันดูลูก ลูกหงายหลังศรีษะโดนพื้นเสียงดังนิดหน่อย แม่วิ่งออกมาอย่างตกใจประคองให้ลุกขึ้น ลูกส่ายศรีษะเล็กน้อยเพราะมึนจากการถูกกระแทก แม่โกรธตัวเองมากไม่อยากให้อภัยตัวเองเลยดวงใจของแม่เจ็บมากกว่าลูกร้อยเท่าพันเท่า วันนั้นมีคนมาเยี่ยมหลายคนแต่นั่งห่างจากลูกพอสมควรจึงไม่ทันรับไว้ เพราะเกิดขึ้นชั่วพริบตาเดียว)

 

เช้าวันใหม่ คืนฟ้าฉ่ำฝนผ่านไป ทิ้งละไอหมอกหนาค้างคาไว้เต็มหุบเขา กลบร่องน้ำบางทรายกว้างใหญ่จนมิดชิด ได้ยินเพียงเสียงกระซิบกระซาบของสายน้ำกับหินผาที่คุ้งโค้งไกลโน่น ทุกอย่างใกล้ตัวเหมือนถูกยกขึ้นมาไว้อีกชั้นหนึ่งของสวรรค์ นานๆครั้งจึงจะแว่วเสียงเครื่องยนต์ผ่านมา ความสงบเงียบสวยงามอย่างนี้ ใช่หาได้ง่ายดายนัก และยิ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยรอยธรรมด้วยแล้ว นับว่าหายากยิ่ง

แม่ตื่นแต่เช้า ไปเตรียมอาหารให้ลูกที่โรงครัวของวัด วันนี้ล่ะ ที่ทุกคนจะต้องช่วยกันจัดการเตรียมห้องครัวใหม่สำหรับลูก ทุกอย่างจะต้องทำให้เหมือนกับที่สวนป่านาบุญ แม้กระทั่งภาชนะใส่อาหารก็ต้องเป็นวัสดุที่ทำจากสแตนเลสเท่านั้น ส่วนหม้อที่ใช้ปรุงทำจากดิน หรือหม้อดินเป็นหลัก เชื้อเพลิงจะต้องใช้ถ่านไม่มีการใช้แก๊ส ตามที่หมอเขียวกำชับ

ทั้งหมดนี้ ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากเกินไปสำหรับเรา ถ้าช่วยให้ลูกมีสุขภาพที่ดีขึ้น

 

บันทึกของลูก วันที่ 7 มิถุนายน

ตื่น 05.18 . ยกขาข้างล่ะ 30 ครั้ง ยกแขนข้างล่ะ 30 ครั้ง

นั่งดูบรรยากาศ ฝนเริ่มหยุดตก กินธัญพืช ขาไก่ หิวข้าว บรรยากาศข้างนอกห้องเป็นหน้าผา มีเสียงน้ำไหล ต้นไม้ กุฏิน่าอยู่

กินข้าวเหนียว (ข้าวเย็น)กับน้ำผึ้ง

อ่านละครหาบของแม่ กินน้ำผึ้ง 2 อึก ทองม้วน ออกมานอนด้านนอก นอนหลับ กินมังคุด

พ่อไปหาหลวงพ่อ แม่ไปทำกับข้าว อยู่คนเดียวกินขาไก่ อ่านละคร อ่านเรื่องยอดเขาเอเวอร์เรสต์ (รูป เงา ทะเลสาปและขุนเขา ของภิกษุณี เทนสิน ปาลโม/คนเขียน) นอนหลับ กินกล้วย 1 ลูก นอนต่อ กินลวกผักบุ้ง ตำลึง อ่อมแซ่บ สลัดสด ดอกอัญชัน กินข้าวปิ้งปลา ต้มจืดผัก แตงไทย

หลวงพ่อมาสอนเรื่องจิต คุยปกติ "ใจ คือ ผู้รู้ กาย คือ ผู้ถูกรู้ หมายความว่า กายกับใจนั้นนั้นแตกต่างกัน

ใจ เป็นธาตุที่รู้

กาย เป็นธาตุที่ถูฏรู้

หลวงพ่อกลับ

 

บันทึกต่อมาของลูกในวันนั้น เกี่ยวกับเรื่องกิน เรื่องอ่านหนังสือเล่มเดิมๆ จนจบ มีเพิ่มมาใหม่คือเรื่อง ทุ่งหญ้าแอฟริกา และดู CD ธรรมะที่หลวงพ่อเอามาให้

แม่ซักผ้าในตอนเที่ยง ลูกบันทึกเอาไว้ด้วย และเขียนว่าพ่อเป็นคนตากผ้า จากนั้น พ่อกับแม่ช่วยกันนวดมือ เท้า เข่าให้ลูก (นวดน้ำมัน)

 

พ่อนวดมือ เท้า (นวดน้ำมัน) แม่นวดเข่า ขา ขูดซา นวดหลัง

พ่อไปส่งย่ากลับมุกดาหาร

 

ตกตอนเย็น

เข้ามาอยู่ข้างในห้อง แม่เช็ดตัวให้ ประคบท้อง พ่อกลับมา พ่อกับแม่ไปทำกับข้าวด้วยกัน ฟัง CD หลวงพ่อเทศน์ นอนหลับยาว กินยาญี่ปุ่น กินน้ำเขียว กินลวกผักบุ้ง กินปิ้งปลา ต้มจืดผัก สลัดผัก 1คำ เปลี่ยนกางเกง นอนหลับ กินยาธิเบต แม่นวดหลังให้ กินกล้วย 1 ลูก กินข้าวเหนียวกับน้ำผึ้งตอนดึก แม่ขูดซาที่ไหล่ซ้ายให้ นอนทับเลยปวดฉี่ 2 ครั้ง พ่อกวาดมดที่เข้ามทั้งคืน เลยนอนไม่หลับเท่าไหร่

 

 

 

บล็อกของ เงาศิลป์

เงาศิลป์
  พักหลังๆนี้ลูกอ่านหนังสือเยอะมาก บางครั้งไม่มีหนังสือใหม่มาให้อ่าน ลูกจะเฝ้ารอคนที่รับปากว่าจะเอาหนังสือมาให้ หรือว่าเมื่อพ่อไปในเมือง ลูกก็รอว่าน่าจะมีหนังสือมาให้บ้าง
เงาศิลป์
 
เงาศิลป์
กระปุก หมาเพื่อนรักของลูกต้องกลับไปบ้านบัว เพราะพ่อพามันมาเยี่ยมลูกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น วันที่มันกลับไปกับพ่อ ลูกมองตามอย่างอาลัย แต่คงเข้าใจในความจำเป็น แม้จะรักมันมากแต่ลูกก็รู้ว่ามันต้องกลับไป เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่อยู่ของมัน
เงาศิลป์
ในราวกลางเดือนมิถุนายน ลูกยังลุกขึ้นนั่งได้เองบ้าง และบันทึกประจำวัน นอกจากจะเป็นเรื่องการกินยา อาหาร ที่คล้ายๆกันในแต่ละวัน จะแตกต่างไปบ้างเมื่ออาหารบางอย่างที่ตรวจต่อมไทมัสแล้วกินไม่ได้ ทั้งที่วันก่อนๆเคยกินได้ เช่น บันทึกของวันที่ 19 มิถุนายน ลูกเขียนว่า กินแกงอ่อมไม่ได้
เงาศิลป์
ลูกทำสมาธิด้วยการภาวนาพุทโธตั้งแต่ครั้งแรกที่หลวงพ่อมาสอนให้ ลูกจะนอนหลับตานิ่งๆภาวนา เมื่อวานนี้ แม่ชีคนสวยของลูก มาแนะนำว่า เวลาบริหารร่างกาย ด้วยการยกแขน ยกขา คู้เหยียด จากที่เคยนับจำนวนครั้ง ให้เปลี่ยนมาเป็นท่อง พุท-โธ ยามที่หดขาเข้า พร้อมกับหายใจเข้า ท่องว่าพุท ยามที่เหยียดขาออก พร้อมทั้งหายใจออก ลูกก็ท่องว่า โธ ลูกก็ทำตามนั้น
เงาศิลป์
วันที่ 13 มิถุนายน พ่อต้องไปบรรยายเรื่องเครือข่ายอินแปงกับการพัฒนาสังคมเกษตรกรรมรอบเทือกภูพานที่สกลนคร ลูกตื่นแต่เช้าตรู่ พร้อมพ่อ ในเวลา 03.55 น. พ่อออกไปแล้วลูกนอนต่อ จนตื่นราวๆเจ็ดโมงเช้า เปิดเสียงเทศน์ของหลวงพ่อที่ลูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์ฟังวันนี้สดชื่นมาก พ่อบอกว่าหน้าตาแจ่มใส ฉี่ ถ่ายเหลืองเป็นก้อนปกติ(เยอะ) ชงยาญี่ปุ่นกิน แล้วอ่านคำภาวนาอุทิศบุญและคำอธิษฐานบารมีหลวงพ่อกับแม่ชีมาเยี่ยม หลวงพ่อเทศน์สอน ทำสมาธิ แม่ชีคนใหม่สวย จบ doctor บอกว่าจะเอาอาหารเสริมถั่วเหลืงผสมงาดำมาให้ หลวงพ่อกับแม่ชีกลับกินฟักทองแม่ชีเอาอาหารเสริมมาให้ ตรวจแล้วกินไม่ได้
เงาศิลป์
หนึ่งอาทิตย์ที่มาอยู่วัด ในบันทึกของลูกยังเขียนถึงเรื่องอาหารการกินที่เป็นของชอบส่วนตัว เช่น ขนมขาไก่ ทองม้วน ยังมีเรื่องบันเทิงเริงรมย์แทรกเป็นระยะ คือ ดู CD การ์ตูน อ่านหนังสือนิยายที่เป็นบทย่อจากละครโทรทัศน์ ลูกยังมีความรู้สึกนึกคิดแบบเด็กๆยังอยากได้กระเป๋าสตังค์คิดตี้ ยังมีอารมณ์หิวที่เกิดขึ้นรุนแรงจนร้องไห้งอแงยามดึก
เงาศิลป์
เราสามคน พ่อแม่ลูก กลายเป็นคนวัดไปแล้ว อ้อ บางวันมีน้านีมาจากสกลฯ ช่วยทำกับข้าวด้วย และยังผู้รู้เรื่องธรรมชาติบำบัดอีกหลายคน ที่มาช่วยแนะนำสิ่งที่ดีๆให้ แต่แม่ยังต้องเดินไปทำอาหารที่โรงครัวของวัด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรานัก ที่นั่นสะอาดและกว้างโล่ง มีน้ำประปาภูเขาให้ใช้อย่างสะดวกสบายเหลือเฟือ อันที่จริงก็ใช้กันทุกมุมวัดอยู่แล้ว เพราะว่าน้ำประปาที่ว่านี้ คือน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำพุเล็กๆ ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของภู ความสูงของพื้นที่ซึ่งสูงกว่าที่วัด หลวงพ่อจึงสร้างประปาภูเขาขึ้นมาอย่างง่ายดาย มีถังน้ำพักน้ำ ณ จุดที่มีน้ำพุหนึ่งลูก แล้วใส่ท่อให้มันวิ่งมาตามท่อน้ำ…
เงาศิลป์
แม่กับพ่อเริ่มทำสวนผักข้างๆ กุฏิ ผักที่ปลูกง่ายที่สุดคือต้นอ่อมแซ่บ พืชตระกูลล้มลุก กลีบดอกบอบบางสีม่วงอมชมพู สีของมันสวยหวานสดใส คนทั่วไปเรียกว่า บุษบาริมทาง แต่คนอีสานมองเห็นเป็นของกินได้ จึงเรียกอ่อมแซ่บ คงมาจากการแกงอ่อมแล้วอร่อยกระมัง ลูกแม่ต้องกินทุกวัน เป็นเมนูผักลวก
เงาศิลป์
เช้าวันที่ 6 มิถุนายน ลูกตื่นเต้นมาก แม่รู้ เมื่อถึงวันที่ต้องเดินทางมาอยู่วัดกับหลวงพ่อ วันนั้นลูกตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เตรียมเก็บเข้าของเครื่องใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าคิดตี้ใบเล็กสีชมพูหวานแหววของลูก แต่เพราะลูกยังมีอาการตัวร้อนเป็นไข้รุมๆ ทำให้แม่กับพ่อเป็นห่วง เราจึงวางแผนเดินทางในตอนเย็น วันนั้นลูกร่าเริงมาก และเขียนบันทึกว่า วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2551 วันแห่งความสุขและความสงบวันนี้ตื่นขึ้นมายิ้มรับวันใหม่ด้วยใจที่เบิกบาน มีความสุขในสมุดบันทึกสุขภาพอีกเล่ม ลูกเขียนไว้ว่า
เงาศิลป์
ตอนที่ 5 บันทึกของลูก  รูปรอยต่างๆของลูก ยังคงอยู่เหมือนที่เคยมีลูก แม้แต่ภายในห้องนอน ทุกอย่างยังถูกจัดวางเหมือนเดิม บ้านไม้หลังเล็กๆใต้ถุนสูงแบบโบราณ ซุกตัวอยู่ใต้ร่มเงาไม้น้อยใหญ่หลังนี้ มีห้องนอนสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นของลูก ที่เตียงนอนยังมีหนังสือเล่มโปรดวางไว้ที่หัวเตียง อาจมีแปลกออกไปบ้างคือสมุดบันทึกเล่มเล็กๆ 4 เล่ม ที่ลูกเขียนทุกวันเกือบทุกเวลา เพราะลูกตั้งใจบันทึกกิจกรรมการดูแลตัวเองและบทธรรมะเอาไว้ ตลอดเวลาสี่เดือนของความป่วยไข้ แม้กระทั่งวันสุดท้าย โดยที่ไม่มีใครร้องขอให้ทำ
เงาศิลป์
การที่คนป่วยคนหนึ่ง ได้เลือกหนทางรักษาตัวเองด้วยตัวเอง น่าจะมีองค์ประกอบอยู่สองอย่างที่สำคัญ นั่นคือ หนึ่ง ความรู้ที่มีพร้อมในเรื่องวิธีการรักษาที่ตัวเองเลือก สอง ความไม่รู้ในวิธีการใดๆ แต่ต้องตัดสินใจเลือกในสิ่งที่คิดว่าสะดวกทั้งต่อตนเองและคนดูแล