Skip to main content

 

ชีวิตในแต่ละวันเป็นไปอย่างสงบเงียบ เพราะกิจกรรมหลักของลูกคือกินยา กินอาหาร อ่านหนังสือ สลับเขียนบันทึก ส่วนพ่อกับแม่ นอกจากจะต้องทำอาหาร ตรวจอาหาร นวด พอกยา อาบน้ำให้ อุ้มลูกไปห้องน้ำ อุ้มมานอกห้อง ระยะหลังยังต้องอุ้มลงมาอาบแดดยามเช้าๆ ที่แคร่ไม้ไผ่หน้ากุฏิ และต้องผลัดเปลี่ยนกันลงไปข้างล่างเพื่อทำธุระส่วนตัว กับซื้อหาอาหาร


 

อ้อ มีความจำเป็นอีกอย่างหนึ่ง คือ ที่วัดไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เรื่องงานของพ่อที่พอวางมือลงได้บ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าหยุดนิ่งไม่ทำอะไรเลย พ่อจึงต้องลงไปโทรศัพท์ติดต่อเพื่อนร่วมงาน และซื้อของข้างล่างบ่อยๆ บางครั้งจะไปที่อำเภอเต่างอย บางทีก็ไปที่อำเภอมุกดาหาร ระยะทางทั้งสองแห่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลไปกว่ากัน ทุกครั้งแม่รู้ว่าลูกเฝ้ารอพ่อ หากค่ำแล้วพ่อยังไม่มา ลูกเกรงว่าพ่อจะลืมเอาไฟฉายไป เพราะเวลาเดินขึ้นภูต้องมีไฟส่องทาง ความห่วงใย และการเฝ้ารอพ่ออย่างนี้ ลูกมีอยู่กระทั่งคืนก่อนวันสุดท้าย


วันที่ 24 กรกฎาคม หลวงพ่อเอาบทสวดคำขอบวชชีมาให้ลูกท่อง

ระยะนี้ลูกเขียนว่า ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง หิวข้าวเร็ว และบางวันต้องนอนกิน เพราะไม่มีแรงนั่ง อาจเป็นเพราะลูกกินเฉพาะผลไม้ แต่จากการสังเกต ลูกเขียนว่า ถ่ายเยอะ ย่อยดีมาก แสดงว่าร่างกายได้นำเอาไปใช้ นั่นคือข้อสรุปของลูก แต่ในตอนดึกรอยต่อกับเช้าวันใหม่ ลูกเขียนว่า

 

03.25 . หิวมาก หัวสั่น หัวใจเต้นเร็ว เลยกินกล้วยน้ำว้า 1 ลูก อาการก็ดีขึ้น นอนหลับดี หนาว ไม่มีผ้าห่ม มีผืนเดียวบางๆ แม่ซักผ้าห่มเมื่อวาน แต่ไม่แห้ง

สรุป กินกล้วยน้ำว้า 4 ลูก

กินมังคุด 8 ลูก

ฉี่ 7 ครั้ง

ถ่าย 3 ครั้ง

 

วันที่ 25 กรกฎาคม ครบรอบ 20 วัน สำหรับการกินอาหารแมคโครไบโอติคส์ แบบอิตาลี ลูกมีอาการหน้าบวมเล็กน้อย เพราะแพ้อากาศตอนเช้า

 

07.06 . กินยาธิเบต น้ำอุ่น กินยาญี่ปุ่น พ่อ แม่ และอาปลา ช่วยกันผสมยาจีน ที่มีราคา 120,000 บาท (ได้มาฟรี) น้าสีพี่เกาะ ช่วยกันถางหญ้าเตรียมทำโรงครัว ส่วนน้านีทำกับข้าวสำหรับตอนเที่ยง

 

ลูกอธิษฐานจิตเปิดร่างกายให้หมอเทวดามารักษา แล้วตั้งจิตภาวนา ถวายกล้วยน้ำว้าและส้ม แก่พระสงฆ์ พ่อไปถวายให้ เสร็จแล้วจึงเอาน้ำอุ่นมาประคบเปลือกตา แก้บวม

 

08.53 . ลงไปอาบแดด แต่วันนี้แดดจ้านิดหน่อย พ่อ ลุงเปี๊ยก น้าสี พี่เกาะกินข้าว แม่ น้านี กินด้วย

วันนี้มีของฝากจากหมออพภิวันท์ คือหนังสือหลายเล่มที่เกี่ยวกับธิเบต พ่อบอกให้น้าสี พี่เกาะ ทำชั้นหนังสือให้

15.38 . หลวงพ่อมา ท่องคำขอบวชชีให้หลวงพ่อฟัง ท่องผิดนิดหน่อย

16.10 . รับแสงอ่อนๆ ยามบ่าย

16.18 . ป้าน้อย ลุง.......(ลูกไม่ทราบชื่อ)มาเยี่ยม แนะนำยาอะไรให้ก็ไม่รู้ ลุง.....ขอเขียนเรื่องเราลงอินเตอร์เน็ต

19.20 . ย่า พ่อ ปุ้ย มา ปุ้ยเอาสมุดที่เพื่อนๆเขียนคำอวยพรให้ มาให้อ่าน(คิดถึง)

 

วันที่ 26 กรกฎาคม แม่ต้องลงไปทำธุระที่สกลนคร แต่ก่อนที่จะไปแม่ได้ตรวจร่างกาย ตรวจอาหารให้ลูก ทุกอย่างกินได้ รวมทั้งยาจีน วันนี้ลูกบอกว่า อาบแดดแล้วรู้สึกสดชื่น

 

09.22 . กินน้ำหลวงปู่ พ่อชงกาแฟกิน หลวงพ่อฝากหนังสือมาให้อ่าน 3 เล่ม เรื่อง สาวิกา วิถีแห่งความรู้แจ้ง และ คือเมฆสีขาวทางก้าวเก่าแก่

09.42 . แม่กลับสกลนคร สั่งของแม่มากมายเลย

ช่วงกลางวันที่แม่ไม่อยู่ ในบันทึกของลูก มีคนมาเยี่ยมลูกหลายกลุ่ม ล้วนแต่เป็นญาติสนิท ที่ขาดไม่ได้คือ ป้าเฒ่า ลุงเปี๊ยก อาปลา

19.05 . แม่มาถึง ได้ของหลายอย่างมากมาย มีเห็ด มีชุดขาว 2 ชุด ทางร้านเขาอนุโมทนาบุญให้ และอีกหลายอย่าง

 

วันที่ 27 กรกฎาคม ลูกทำกิจกรรมทุกอย่างตามปกติ แต่วันนี้มีฝนตกปรอยๆในช่วงเช้าจึงไม่ได้ลงมาอาบแดด อาการบวมที่ใบหน้าลดลงแล้ว แต่มีบางอย่างที่ผิดสังเกตในเรื่องการขับถ่าย ลูกเขียนว่า

 

18.50 . ฉี่เยอะ ใส สีชา ถ่ายเป็นอะไรไม่รู้สีแดงๆ

01.58 . ฉี่เยอะ ใส สีชา มีกลิ่นแอมโมเนีย พ่อนวดมือ ตั้งจิตอธิษฐานให้ เราอธิษฐานภาวนาเปิดร่างกาย อุทิศบุญ อโหสิกรรมให้เจ้ากรรมนายเวร

สรุปของวันนี้ กล้วยน้ำว้า 3 ลูก

มังคุด 6 ลูก

ฉี่ 10 ครั้ง

ถ่าย 6 ครั้ง

ไม่กินยาจีนต่อ (ยกเลิก) เพราะลืมกินตอนกลางวัน พ่อก็เลยโกรธแม่ บอกไม่ต้องกินแล้ว ดีเหมือนกันกินยาเยอะ ไตทำงานหนัก ตั้ง 10 แคปซูล

ช่วงนี้เป็นฤดูกาลของเห็ดป่า ในป่ารอบๆวัดมีเห็ดงอกเยอะมาก บางวันแม่กับน้านีไปหาเห็ดมาทำอาหาร ลูกยังเขียนไว้ อย่างอารมณ์ดี


วันที่ 28 กรกฎาคม

14.50 . แม่กับน้านีไปเก็บเห็ดตั้งแต่ 11 โมง ป่านนี้ยังไม่มา คงเมามันมาก เราคงได้กินเห็ดจนพุงกางแน่เลย

19.37 . พ่อกลับจากหาซื้อมะพร้าวที่เขาวง บอกว่าลุงยุทธอาการแย่แล้ว

19.42 . กินน้ำมะพร้าว 1 แก้ว หอมหวานมาก

 

และมีบางเรื่องที่ลูก เฝ้ามองเรา

21.08 . เข้ามาด้านใน ไม่เห็นพ่อกับแม่คุยกันเลย มู้โกรธกันเรื่องอะไร

23.30 . ตั้งจิตอธิษฐานภาวนา เปิดร่างกาย อุทิศบุญ อโหสิกรรมให้เจ้ากรรมนายเวร

กำหนดลมหายใจ เข้า-ออก

ท่อง พุท-โธ

02.50 . ทำสมาธิ ดูแสงเทียน

นอนหลับสบายดี ตื่นแค่ 2 ครั้ง

กล้วยน้ำว้า 4 ลูก

มังคุด 5 ลูก

ฉี่ 9 ครั้ง

ถ่าย 7 ครั้ง

 

สรุปเหตุการณ์สำคัญที่ลูกเขียนไว้เอง

 

กลับจากกรุงเทพฯ รพ.รามาธิบดี วันที่ 16 พฤษภาคม 2551

เริ่มมาอยู่วัดป่าภูไม้ฮาว เพื่อปฏิบัติธรรม วันที่ 6 มิถุนายน พ.. 2551

เริ่มกินอาหารแมคโครไบโอติคส์ แบบอิตาลี วันที่ 5กรกฎาคม พ.. 2551

โกนผม 17 กรกฎาคม พ.. 2551 เริ่มนับ 1

น้าเจง ครูเป้ บวช วันที่ 16 กรกฏาคม พ.. 2551

เริ่มกินอาหารสูตรหมอเจค็อป คือ ตอนเย็นจะกินแต่ผลไม้ วันที่ 18 กรกฎาคม พ.. 2551

 

อาจเป็นเพราะการกินเฉพาะผลไม้ ในวันหลังๆ ลูกบันทึกว่าไม่ค่อยมีแรง และขอเปลี่ยนมาเป็นกินข้าวแทนผลไม้ บ้าง ขณะที่การท่องคำขอบวชเป็นไปอย่างคล่องแคล่วแล้ว

 

วันที่ 30 กรกฎาคม

08.11 . หลวงพ่อมา ท่องบทสวดคำขอบวชให้ฟัง เสียงดัง ฟังชัด จากนั้นก็ซ้อมรับศิล ต้องฝึกท่องคำอารธนาศิล 8 เพิ่ม


วันที่ 31 กรกฎาคม

16.19 . หลวงพ่อมาโปรด ท่องบทคำขอบวช เสียงดังฟังชัด จากนั้นซ้อมรับศิล (อามะ ภันเต) หลวงพ่ออุทิศบุญให้ และเทศน์สอนหลายเรื่อง ลึกซึ้งถึงพระพุทธเจ้ามาก

 

วันที่ 1 สิงหาคม

วันนี้วันพระ และจะบวชชี เพื่อศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

 

 

 

 

บล็อกของ เงาศิลป์

เงาศิลป์
  พักหลังๆนี้ลูกอ่านหนังสือเยอะมาก บางครั้งไม่มีหนังสือใหม่มาให้อ่าน ลูกจะเฝ้ารอคนที่รับปากว่าจะเอาหนังสือมาให้ หรือว่าเมื่อพ่อไปในเมือง ลูกก็รอว่าน่าจะมีหนังสือมาให้บ้าง
เงาศิลป์
 
เงาศิลป์
กระปุก หมาเพื่อนรักของลูกต้องกลับไปบ้านบัว เพราะพ่อพามันมาเยี่ยมลูกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น วันที่มันกลับไปกับพ่อ ลูกมองตามอย่างอาลัย แต่คงเข้าใจในความจำเป็น แม้จะรักมันมากแต่ลูกก็รู้ว่ามันต้องกลับไป เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่อยู่ของมัน
เงาศิลป์
ในราวกลางเดือนมิถุนายน ลูกยังลุกขึ้นนั่งได้เองบ้าง และบันทึกประจำวัน นอกจากจะเป็นเรื่องการกินยา อาหาร ที่คล้ายๆกันในแต่ละวัน จะแตกต่างไปบ้างเมื่ออาหารบางอย่างที่ตรวจต่อมไทมัสแล้วกินไม่ได้ ทั้งที่วันก่อนๆเคยกินได้ เช่น บันทึกของวันที่ 19 มิถุนายน ลูกเขียนว่า กินแกงอ่อมไม่ได้
เงาศิลป์
ลูกทำสมาธิด้วยการภาวนาพุทโธตั้งแต่ครั้งแรกที่หลวงพ่อมาสอนให้ ลูกจะนอนหลับตานิ่งๆภาวนา เมื่อวานนี้ แม่ชีคนสวยของลูก มาแนะนำว่า เวลาบริหารร่างกาย ด้วยการยกแขน ยกขา คู้เหยียด จากที่เคยนับจำนวนครั้ง ให้เปลี่ยนมาเป็นท่อง พุท-โธ ยามที่หดขาเข้า พร้อมกับหายใจเข้า ท่องว่าพุท ยามที่เหยียดขาออก พร้อมทั้งหายใจออก ลูกก็ท่องว่า โธ ลูกก็ทำตามนั้น
เงาศิลป์
วันที่ 13 มิถุนายน พ่อต้องไปบรรยายเรื่องเครือข่ายอินแปงกับการพัฒนาสังคมเกษตรกรรมรอบเทือกภูพานที่สกลนคร ลูกตื่นแต่เช้าตรู่ พร้อมพ่อ ในเวลา 03.55 น. พ่อออกไปแล้วลูกนอนต่อ จนตื่นราวๆเจ็ดโมงเช้า เปิดเสียงเทศน์ของหลวงพ่อที่ลูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์ฟังวันนี้สดชื่นมาก พ่อบอกว่าหน้าตาแจ่มใส ฉี่ ถ่ายเหลืองเป็นก้อนปกติ(เยอะ) ชงยาญี่ปุ่นกิน แล้วอ่านคำภาวนาอุทิศบุญและคำอธิษฐานบารมีหลวงพ่อกับแม่ชีมาเยี่ยม หลวงพ่อเทศน์สอน ทำสมาธิ แม่ชีคนใหม่สวย จบ doctor บอกว่าจะเอาอาหารเสริมถั่วเหลืงผสมงาดำมาให้ หลวงพ่อกับแม่ชีกลับกินฟักทองแม่ชีเอาอาหารเสริมมาให้ ตรวจแล้วกินไม่ได้
เงาศิลป์
หนึ่งอาทิตย์ที่มาอยู่วัด ในบันทึกของลูกยังเขียนถึงเรื่องอาหารการกินที่เป็นของชอบส่วนตัว เช่น ขนมขาไก่ ทองม้วน ยังมีเรื่องบันเทิงเริงรมย์แทรกเป็นระยะ คือ ดู CD การ์ตูน อ่านหนังสือนิยายที่เป็นบทย่อจากละครโทรทัศน์ ลูกยังมีความรู้สึกนึกคิดแบบเด็กๆยังอยากได้กระเป๋าสตังค์คิดตี้ ยังมีอารมณ์หิวที่เกิดขึ้นรุนแรงจนร้องไห้งอแงยามดึก
เงาศิลป์
เราสามคน พ่อแม่ลูก กลายเป็นคนวัดไปแล้ว อ้อ บางวันมีน้านีมาจากสกลฯ ช่วยทำกับข้าวด้วย และยังผู้รู้เรื่องธรรมชาติบำบัดอีกหลายคน ที่มาช่วยแนะนำสิ่งที่ดีๆให้ แต่แม่ยังต้องเดินไปทำอาหารที่โรงครัวของวัด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรานัก ที่นั่นสะอาดและกว้างโล่ง มีน้ำประปาภูเขาให้ใช้อย่างสะดวกสบายเหลือเฟือ อันที่จริงก็ใช้กันทุกมุมวัดอยู่แล้ว เพราะว่าน้ำประปาที่ว่านี้ คือน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำพุเล็กๆ ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของภู ความสูงของพื้นที่ซึ่งสูงกว่าที่วัด หลวงพ่อจึงสร้างประปาภูเขาขึ้นมาอย่างง่ายดาย มีถังน้ำพักน้ำ ณ จุดที่มีน้ำพุหนึ่งลูก แล้วใส่ท่อให้มันวิ่งมาตามท่อน้ำ…
เงาศิลป์
แม่กับพ่อเริ่มทำสวนผักข้างๆ กุฏิ ผักที่ปลูกง่ายที่สุดคือต้นอ่อมแซ่บ พืชตระกูลล้มลุก กลีบดอกบอบบางสีม่วงอมชมพู สีของมันสวยหวานสดใส คนทั่วไปเรียกว่า บุษบาริมทาง แต่คนอีสานมองเห็นเป็นของกินได้ จึงเรียกอ่อมแซ่บ คงมาจากการแกงอ่อมแล้วอร่อยกระมัง ลูกแม่ต้องกินทุกวัน เป็นเมนูผักลวก
เงาศิลป์
เช้าวันที่ 6 มิถุนายน ลูกตื่นเต้นมาก แม่รู้ เมื่อถึงวันที่ต้องเดินทางมาอยู่วัดกับหลวงพ่อ วันนั้นลูกตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เตรียมเก็บเข้าของเครื่องใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าคิดตี้ใบเล็กสีชมพูหวานแหววของลูก แต่เพราะลูกยังมีอาการตัวร้อนเป็นไข้รุมๆ ทำให้แม่กับพ่อเป็นห่วง เราจึงวางแผนเดินทางในตอนเย็น วันนั้นลูกร่าเริงมาก และเขียนบันทึกว่า วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2551 วันแห่งความสุขและความสงบวันนี้ตื่นขึ้นมายิ้มรับวันใหม่ด้วยใจที่เบิกบาน มีความสุขในสมุดบันทึกสุขภาพอีกเล่ม ลูกเขียนไว้ว่า
เงาศิลป์
ตอนที่ 5 บันทึกของลูก  รูปรอยต่างๆของลูก ยังคงอยู่เหมือนที่เคยมีลูก แม้แต่ภายในห้องนอน ทุกอย่างยังถูกจัดวางเหมือนเดิม บ้านไม้หลังเล็กๆใต้ถุนสูงแบบโบราณ ซุกตัวอยู่ใต้ร่มเงาไม้น้อยใหญ่หลังนี้ มีห้องนอนสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นของลูก ที่เตียงนอนยังมีหนังสือเล่มโปรดวางไว้ที่หัวเตียง อาจมีแปลกออกไปบ้างคือสมุดบันทึกเล่มเล็กๆ 4 เล่ม ที่ลูกเขียนทุกวันเกือบทุกเวลา เพราะลูกตั้งใจบันทึกกิจกรรมการดูแลตัวเองและบทธรรมะเอาไว้ ตลอดเวลาสี่เดือนของความป่วยไข้ แม้กระทั่งวันสุดท้าย โดยที่ไม่มีใครร้องขอให้ทำ
เงาศิลป์
การที่คนป่วยคนหนึ่ง ได้เลือกหนทางรักษาตัวเองด้วยตัวเอง น่าจะมีองค์ประกอบอยู่สองอย่างที่สำคัญ นั่นคือ หนึ่ง ความรู้ที่มีพร้อมในเรื่องวิธีการรักษาที่ตัวเองเลือก สอง ความไม่รู้ในวิธีการใดๆ แต่ต้องตัดสินใจเลือกในสิ่งที่คิดว่าสะดวกทั้งต่อตนเองและคนดูแล