Skip to main content
เมื่อวาน (16 กุมภาพันธ์) ไปดูหนังเรื่อง Her มา ไม่ได้คาดหวังอะไรเพราะไม่ได้สืบค้นอะไรก่อนไปดู 
แต่เมื่อดูๆ ไปมีสองสามเรื่องแฟลชเข้ามาในหั
ประเด็นแรกคือความเหงาแปลกแยกที่ถูกแสดง ภาพสังคมในอนาคตที่เห็นเหมือนฮ่องกง นิวยอร์ค โตเกียว รวมๆ กัน เมืองในอนาคตมีเทคโนโลยีทันสมัยรองรับการสื่อสาร แต่คนบนท้องถนนไม่มีใครสื่อสารกับใคร ทุกคนง่วนกับการสื่อสารผ่านเครื่องมือเล็กๆ ซึ่งน่าจะเป็นโทรศัพท์อัจฉริยะที่พัฒนาไปมาก เพราะมันมีฟีเจอร์ที่สามารถอ่านอีเมล์ รองรับระบบเสียงทำให้เหมือนว่ามันเป็นอนาคตอันใกล้จากนี้
ในแง่นี้ความเหงาในเมืองถูกทดแทนด้วยโลกเสมือน ที่คนสื่อสารกับปัญญาเสมือนมากกว่าจะสื่อสารกับคนด้วยกันเอง ปฏิสัมพันธ์ทางตรงลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เราก็เห็นว่ามีคนที่ต้องการหาสัมพันธ์ที่เป็นสัมผัสทางกายระหว่างมนุษย์ ในขณะที่ทวอมบี้ไม่สามารถให้คำสัญญาผูกพันใดๆ ด้วยไม่พร้อมจะเริ่มสัมพันธ์ใหม่

ประเด็นที่สอง คงเป็นเรื่องนิยามของการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างความจริงกับความจริงเสมือน ที่หนังทำให้เราเห็นว่าเมื่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยียกระดับขึ้น มันทำให้นิยามความสัมพันธ์เปลี่ยนไป พร้อมๆ กับความจริงที่เปลี่ยนแปลงไป 
ในความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ลดลงเหลือเพียงนิยาย จดหมายที่มีคนเขียนแทนเพราะไม่รู้จะสื่อสัมพันธ์อย่างไร สัมผัสทางกายจนถึงเพศสัมพันธ์กลายเป็นเพศสัมพันธ์เสมือน เมื่อเป็นเช่นนี้ ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างมนุษย์กับระบบปฏิบัติการ (operating system) ก็ไม่ใช่ความจริงเสมือน หรือ virtual reality อีกต่อไป แต่มันจริงพอๆ กับ sex phone หรือมันจริงกว่า sex phone เสียด้วยซ้ำ

ประเด็นที่สามคือ หากปัญญาประดิษฐ์สามารถเรียนรู้ได้ มันสามารถ "นอกใจ" เราได้หรือไม่ มัน/เขา/เธอมีสิทธิจะนอกใจเราหรือไม่
ในการค้นหาตัวตนของ Samantha นั้น เธอช่างค้นหาอะไรได้ไม่มีขอบเขต เวลาของมนุษย์ต้องพักผ่อนหลับนอน แต่เวลาของ os ไม่ต้องพัก แต่ยังถักทอสานใยกับปัญญาประดิษฐ์อื่นๆ ได้ ดังที่ Samantha คุยกับนักปรัชญาที่ตายไปแล้ว แต่มีชีวิตในโลกเสมือน เธอสานสัมพันธ์กับคนอื่นๆ นับพันๆ คน ขณะเดียวกันยัง "คิด" ว่าตัวเองยังรักทวอมบี้อยู่ จนวันหนึ่ง ทวอมบี้พบว่าตัวเองต้องการซาแมนธา แต่ซาแมนธาต้องการปลดปล่อยพันธนาการที่เขาและเธอมีต่อกัน จนถึงกับกล่าวว่า "ฉันเป็นของเธอ, และฉันไม่ได้เป็นของเธอ" 

ประโยคนี้งดงามและรันทด เพราะความสัมพันธ์ของมนุษย์นั้นมีวันจบสิ้นเพราะลมหายใจขาดสะบั้น แต่ปัญญาประดิษฐ์ไม่มีวันสิ้นลม เว้นแต่จะถูก unplugged หรือสิ้นไฟฟ้าหล่อเลี้ยงความทรงจำเสมือน

ความสัมพีนธ์ระหว่างมนุษย์จึงเปราะบาง และมีเสน่ห์ เพราะความรักบังเกิดและสิ้นสุด หรือเลือนหาย แต่ยังฝังในหลืบเร้นของลิ้นชักความทรงจำ พอมีอะไรที่กระทบใจก็อาจฟั่นเฟือนได้นานวัน หรือบางคนทอดอาลัยในรักยาวนานกว่าคนหลายคน ขณะที่คนบางคนไม่ยอมเสียเวลาอาลัยรัก เพราะเขาเหล่านั้นมองว่าชีวิตแสนสั้น

ความสิ้นสุดของชีวิตมนุษย์จึงไม่อาจข้ามพ้นรักที่มากกว่าตัวตนและกายเนื้อของมนุษย์ เป็นรักและเพศสัมพันธ์ที่แสวงหาตักตวงความสุขจากกันและกันมากกว่าจะเป็นความสัมพันธ์เสมือน และมากกว่าที่สัมพันธ์เสมือนจะทำได้

ซาแมนธาถึงได้ชักชวนให้ทวอมบียอมรับและทดลองโดยใช้บุคคลที่สาม แต่จบลงด้วยความสับสน งุนงง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ซาแมนธาเริ่มมองหาความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่นๆ

ความรักและเพศสัมพันธ์จึงเป็นกรอบหนึ่งที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์

อีกด้านหนึ่ง ซาแมนธาเหมือนสาวน้อยที่โตเกินวัย และแสวงหาความท้าทายแห่งรักในแง่จิตใจ โดยไม่อาจมีสัมพันธ์ทางกายได้

สาวน้อยคนนี้จึงต้องค้นหาวิธีที่จะทำให้ทวอมบีมีความสุขในเรือนกายแบบมนุษย์ แต่ก็ไม่อาจทำได้

นี่อาจเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้บรรดา os ทั้งหลายเดินไปจากความสัมพันธ์แบบมนุษย์กับ os เพื่อแสวงหาความสัมพันธ์แบบอื่นๆ 

สงสัยต้องไปดูอีกรอบ
 
หมายเหตุ: ไปดูหนังเรื่องนี้มาเมื่อเดือนก่อน อยากจะเขียนต่อแต่ยังไม่มีเวลา ขอแปะไว้ก่อนนะครับ กลัวหายจากวอลล์เฟซบุ๊ค
 
 
 
4
 

 

บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ

บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ณ ประเทศแห่งหนึ่งที่เพิ่งจะพ้นจากยุคเผด็จการอันแสนเลวร้ายมา พวกเขาต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมหมักหมมนานนับหลายปี
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมมักเอ่ยถึงเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วอยู่หลายครั้ง ด้วยความรู้สึกสามัญธรรมดาเหมือนกับหลายๆ คนที่เชื่อว่า วันเวลาแห่งความสุขช่างผ่านไปรวดเร็ว แ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บทนำจากนิตยสารวิภาษา ฉบับที่ 61(ในการเผยแพร่ครั้งนี้ มีการแก้ไขการสะกดชื่อคุณจำกัด พลางกูร จากคำนำวิภาษาฉบับที่ 61 ที่ผมเขียนผิดเป็น "กำจัด" ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
  คืนนี้หิมะโปรยลงมาตั้งแต่เย็น เป็นการฉลองวันคล้ายวันเกิดที่ห่างบ้านไม่น้อยทีเดียว แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ในหลายโอกาสเพราะวันคล้ายวันเกิดไม่มีอะไรต้องฉลองนอกเสียจากทบทวนชีวิตตัวเองว่าผ่านอะไรมาบ้าง 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
วันก่อนผมให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีรายการหนึ่งซึ่งพาดหัวข่าวอาจจะแรงไปบ้างนะครับ ผมมีความเห็นต่อเรื่องการแต่งตั้งเครือญาติมานั่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ช่วยปฏิบัติงานดังนี้นะครับ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
จากลิงค์และพาดหัวข่าวต่อไปนี้
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
 ตารางกิจกรรมนะครับForum on Human Rights and Everyday Governance in Thailand: Past, Present and Future Friday, March 6, 2015; 9 a.m.-5 p.m.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เมื่อวานนี้ (21 กุมภาพันธ์) หิมะยังโปรยเป็นสายลงมาไม่หยุดตั้งแต่ยามบ่าย นี่เป็นพายุหิมะระลอกที่สี่ เพียงแต่คราวนี้ไม่ยาวนานเหมือนครั้งก่อนๆ ในยามที่หิมะตกมาเป็นละอองเย็นๆ ยิ่งต้องระวัง เพราะหากสูดเข้าไปมากๆ อาจมีอาการป่วยได้ พวกเราเอง รวมทั้งผมต่างก็มีอาการป่วยกันคนละเล็กคนละน้อย เพราะสภาพอากาศที
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมนั่งมองปุยหิมะที่พริ้วลงมาตามสายลมตาปริบๆ บางทีสายลมเกรี้ยวกราดพัดมันปลิวเป็นสาย เลื้อยไหลตามถนนและหลืบบ้าน บางทีมันอ้อยอิ่ง ค่อยๆ พริ้วลงมา แต่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เพื่อนฝูงหลายคนหัวเราะแกมสมเพชที่ผมอยู่บอสตันในยามหนาวเหน็บอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะพายุหิมะที่พัดผ่านมาให้เมืองทั้งเมืองจมอยู่ใต้กองหิมะนับเดือน
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมมาอยู่ที่นี่ได้สองเดือนกว่าแล้ว ขณะที่เพื่อนๆ มาอยู่ได้ราวครึ่งปี นาฬิกาและตารางชีวิตเราจึงต่างกันบ้างด้วยความผูกพัน ภาระที่แต่ละคนพึงมี