Skip to main content

ณ ประเทศแห่งหนึ่งที่เพิ่งจะพ้นจากยุคเผด็จการอันแสนเลวร้ายมา พวกเขาต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมหมักหมมนานนับหลายปี

บรรดาผู้เชี่ยวชาญของประเทศต่างรู้ว่าเกินขอบเขตสติปัญญาของตนเพราะทั่นผู้เผด็จการคนก่อนดึงเอานักกฎหมายนักรัฐศาสตร์ที่น่าเชื่อถือไปรับใช้เสียจนประชาชนขาดความเชื่อมั่นในนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญในประเทศ
 
ผู้นำชุดใหม่จึงหารือกันอย่างเคร่งเครียดว่าจะหาใครที่ไหนมาช่วย
 
ทันใด ชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาเสนอว่า พวกเขาควรติดต่อสหรัฐอเมริกา เพราะเป็นประเทศประชาธิปไตยก้าวหน้าและสร้างชาติด้วยเวลาอันรวดเร็ว
ชายอีกคนลุกขึ้นคัดค้านทันใด ว่าสหรัฐอเมริกาไม่ใช่พ่อ แถมยังใช้รัฐธรรมนูญที่ล้าสมัยมาก ตั้งแต่ตั้งประเทศมาไม่เคยเปลี่ยนเลยสักฉบับ นอกจากแก้ไขเพิ่มเติมไม่กี่ครั้งเท่านั้น
 
ชายอีกคนหนึ่งเสนอว่าควรขอผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมัน เขาถูกแย้งด้วยชายท่าทางฉลาดเฉลียวที่พูดแบบผู้ดีว่า ฮิตเลอร์มาจากการเลือกตั้ง และทำให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หากเอาระบบและวิธีคิดแบบเยอรมันนีมาใช้ ก็จะเกิดปัญหาแน่ๆ
 
ท่านนายพลคนหนึ่งอีกคนเสนอให้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษในฐานะประเทศต้นแบบประชาธิปไตย แต่ท่านนายพลถูกชายท่าทางเจ้าปัญญาทับถมเอาว่า ท่านช่างไม่รู้เดียงสา เพราะอังกฤษเป็นประเทศที่ไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษรนะ
 
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทั่นนายพลก้มลงจับกระบี่ที่คาดเอวอย่างหงอยๆ ทำราวกับว่าตัวเองไม่เสนอแนะอะไร และไม่มีคำโต้เถียงใดๆ
 
ชายเจ้าปัญญาคนหนึ่งมองเพื่อนๆ ด้วยความสมเพชเวทนา เขาตัดสินใจพูดด้วยสายตาเปี่ยมหวัง 
 
"ผมพบทางออกของชาติแล้ว ..." เขายืนยันด้วยเสียงหนักแน่น
 
"ผมเสนอว่าพวกเราควรติดต่อประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความชำนาญในการร่างรัฐธรรมนูญมากที่สุดในโลก นักวิชาการของเขาร่างรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในโลก พวกเราจะได้ปัญญาญาณจากเขาแน่ๆ..."
 
"ถ้าเป็นไปได้ เมื่อพวกเขาช่วยเราร่างรัฐธรรมนูญ ผมอยากเสนอชื่อพวกเขาให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพด้วยการร่างรัฐธรรมนูญ"
 
ที่ประชุมถกเถียงกันพักใหญ่โดยยังไม่มีข้อสรุป
 
แล้วจะคาบข่าวมากบอก...นะจ๊ะ

บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ

บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ณ ประเทศแห่งหนึ่งที่เพิ่งจะพ้นจากยุคเผด็จการอันแสนเลวร้ายมา พวกเขาต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมหมักหมมนานนับหลายปี
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมมักเอ่ยถึงเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วอยู่หลายครั้ง ด้วยความรู้สึกสามัญธรรมดาเหมือนกับหลายๆ คนที่เชื่อว่า วันเวลาแห่งความสุขช่างผ่านไปรวดเร็ว แ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
บทนำจากนิตยสารวิภาษา ฉบับที่ 61(ในการเผยแพร่ครั้งนี้ มีการแก้ไขการสะกดชื่อคุณจำกัด พลางกูร จากคำนำวิภาษาฉบับที่ 61 ที่ผมเขียนผิดเป็น "กำจัด" ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
  คืนนี้หิมะโปรยลงมาตั้งแต่เย็น เป็นการฉลองวันคล้ายวันเกิดที่ห่างบ้านไม่น้อยทีเดียว แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ในหลายโอกาสเพราะวันคล้ายวันเกิดไม่มีอะไรต้องฉลองนอกเสียจากทบทวนชีวิตตัวเองว่าผ่านอะไรมาบ้าง 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
วันก่อนผมให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีรายการหนึ่งซึ่งพาดหัวข่าวอาจจะแรงไปบ้างนะครับ ผมมีความเห็นต่อเรื่องการแต่งตั้งเครือญาติมานั่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ช่วยปฏิบัติงานดังนี้นะครับ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
จากลิงค์และพาดหัวข่าวต่อไปนี้
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
 ตารางกิจกรรมนะครับForum on Human Rights and Everyday Governance in Thailand: Past, Present and Future Friday, March 6, 2015; 9 a.m.-5 p.m.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เมื่อวานนี้ (21 กุมภาพันธ์) หิมะยังโปรยเป็นสายลงมาไม่หยุดตั้งแต่ยามบ่าย นี่เป็นพายุหิมะระลอกที่สี่ เพียงแต่คราวนี้ไม่ยาวนานเหมือนครั้งก่อนๆ ในยามที่หิมะตกมาเป็นละอองเย็นๆ ยิ่งต้องระวัง เพราะหากสูดเข้าไปมากๆ อาจมีอาการป่วยได้ พวกเราเอง รวมทั้งผมต่างก็มีอาการป่วยกันคนละเล็กคนละน้อย เพราะสภาพอากาศที
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมนั่งมองปุยหิมะที่พริ้วลงมาตามสายลมตาปริบๆ บางทีสายลมเกรี้ยวกราดพัดมันปลิวเป็นสาย เลื้อยไหลตามถนนและหลืบบ้าน บางทีมันอ้อยอิ่ง ค่อยๆ พริ้วลงมา แต่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เพื่อนฝูงหลายคนหัวเราะแกมสมเพชที่ผมอยู่บอสตันในยามหนาวเหน็บอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะพายุหิมะที่พัดผ่านมาให้เมืองทั้งเมืองจมอยู่ใต้กองหิมะนับเดือน
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมมาอยู่ที่นี่ได้สองเดือนกว่าแล้ว ขณะที่เพื่อนๆ มาอยู่ได้ราวครึ่งปี นาฬิกาและตารางชีวิตเราจึงต่างกันบ้างด้วยความผูกพัน ภาระที่แต่ละคนพึงมี