Skip to main content

สวัสดีครับ ผม ศราวุฒิ เหตุเกตุ นิสิตชั้นปีที่2 มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร เป็นคนที่ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ เคยได้ทำละครเวทีมาแล้ว 2 เรื่อง เวลาว่างจากการเรียนก็จะออกไปช่วยพ่อแม่ขายของตามงานวัดทั่วไป มีหลากหลายเหตุการณ์และเรื่องราวเกิดขึ้น หนึ่งเรื่องที่เลือกมาแชร์ประสบการณ์ในวันนี้ก็คือประสบการณ์ในห้องน้ำสาธารณะทั่วไป มาลองติดตามประสบการณ์ของผมกันนะครับ                                   

          สาธารณะ ความหมายหรือคำจำกัดความเกี่ยวข้องกับ ส่วนรวม ร่วมกัน มีความสัมพันธ์กัน ความหมายพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานก็จะแปลว่า ทั่วไป เป็นกลาง ร่วมกัน สิ่งสาธารณะเป็นได้ทั้งสิ่งของ เช่น อุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่ตั้งอยู่ตามสนามกีฬาที่ใครสามารถใช้ก็ได้ หรือ อาจจะเป็นบุคคลสาธารณะที่ใครหลายคนสามารถติดตามจากไหนก็ได้ และสถานที่สาธารณะ อาจจะเช่น สวนสาธารณะ ห้องน้ำสาธารณะแวะเวียนมาปลดทุกข์ทั้งหนักและเบา บางครั้งอาจจะต้องเจออะไรหลาย ๆ อย่างก่อนจะเข้าห้องน้ำ หรือเข้าไปแล้วเจอกับอะไรที่มากมายอยู่ในนั้น ห้องน้ำสาธารณะมีอะไรที่แตกต่างจากห้องน้ำที่บ้านของเราปกติ และจะต่างไปมากน้อยแค่ไหน ไม่มีทางรู้ จนกว่าจะได้ลองใช้มัน ห้องน้ำสาธารณะ

ห้องน้ำสาธารณะก็จะมีจำนวนมากน้อยแตกต่างกันไปตามสถานที่ที่เราไป ถ้าเข้าห้องน้ำในวัด อาจจะมีห้องน้ำประมาณ 4-5 ห้อง หากเข้าห้องน้ำตามสถานที่ราชการอาจจะมี 9-10 ห้องโดยประมาณ ลักษณะห้องน้ำก็ไม่ได้กว้างมากมายนัก ขนาดความกว้างคูณความยาวน่าจะอยู่ประมาณ 1 คูณ 2 เมตรได้ มีก๊อกน้ำ สายฉีดก้น ทิชชู่ และถังขยะ ห้องน้ำบางที่ก็อาจจะแบ่งแยก ชายและหญิง บางที่อาจจะไม่แบ่งแยก ชายและหญิง ที่ไม่แบ่งแยก บางครั้งเป็นเพราะจำนวนห้องน้ำมีน้อยเกินไป แต่จำนวนคนมีมากกว่าห้องน้ำหลายเท่า บางคนที่ปวดท้องหนักมาก ๆ จนทนไม่ไหวก็ต้องไปเข้าห้องที่เป็นของเพศตรงข้าม ทำให้ในสถานที่ที่มีห้องส้วมน้อยจึงไม่ได้แบ่งแยกเพศ เพราะห้องน้ำจะไม่พอใช้ เมื่อมีคน มาเยอะแยะ สิ่งที่ตามมาก็คือ ความสกปรกของห้องส้วม บางที่พื้นอาจจะเปื้อนด้วยรอยรองเท้าที่เหยียบดิน เหยียบอะไรต่าง ๆ มา ทำให้จากพื้นที่ขาวสะอาด เต็มไปด้วยรอยดำเปรอะเปื้อน จากคราบดินที่ติดมาจากรองเท้า บางทีก็อาจจะสกปรกมากกว่านั้น อาจจะเช่นเป็นคนก่อนหน้าที่เข้าห้องน้ำมาทำธุระส่วนตัว พอทำเสร็จแล้วก็ไม่ได้กดน้ำหรือราดน้ำลง ลำพังห้องที่เปื้อนคราบดินสกปรกเต็มพื้นแล้ว ไหนก็ขยะที่ทิ้งไว้เกลื่อนกลาดห้องน้ำ ต้องมาเจอกับฝารองชักโครกที่สกปรกไปด้วยรอยคราบเหลืองเต็มฝา ข้างในคอห่านก็มีสิ่งที่คนปลดทุกข์ก่อนหน้าที่เราจะเข้ามาทิ้งไว้ นอนพาดยาวสีเหลืองอร่ามลอยเต็มคอห่าน พร้อมส่งกลิ่นที่ทำปฏิกิริยากับจมูกเราเข้าเต็มที่ จมูกที่เราได้สัมผัสกลิ่น มันเป็นเสมือนกลิ่นที่เราเวลาเดินผ่านกองขยะที่ถูกทิ้งนาน ๆ หลายกองมารวมกัน แล้วย่อขนาดเหลือแค่ของเสียในคอห่าน เหตุนี้เอง ทำให้ห้องน้ำบางสถานที่ปิด-เปิดเป็นเวลา ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพราะสกปรกมากเกินไป และของในห้องน้ำบางชนิด เช่น สายฉีดก้น ฝารองนั่งชักโครก ก๊อกน้ำ ก็อาจจะชำรุดเลยต้องปิดพักเพื่อทำความสะอาดมัน ห้องน้ำบางสถานที่จะมีให้เปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าไปใช้งาน แต่รองเท้าที่จะได้ใส่จะถูกตัดหัวรองเท้าและท้ายรองเท้าทิ้ง หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องตัดหัวและท้ายทิ้ง คำตอบก็คือ เขาตัดมันเพราะกันคนที่จะขโมย กันการสลับคู่ ถ้าไม่ตัดหัวและท้ายรองเท้า บางคนที่อยากได้รองเท้าคู่นี้ไปใส่ เพราะสีสวยกว่าคู่เดิม ก็จะสลับไปใส่แทน แต่รองเท้าถ้าโดนตัดหัวตัดท้ายขนาดนี้แล้ว คงไม่มีใครกล้าสลับไป การเข้าน้ำที่สาธารณะแบบนี้ก็จะต้องเจอสิ่งที่แปลกปลอมที่อยู่ในห้องน้ำ สิ่งแปลกปลอมมีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต สิ่งที่มีชีวิต อาจจะเป็นสัตว์ชนิดต่าง ๆ ที่แปลกปลอมเข้ามา อาทิเช่น กิ้งกือ คางคก เขียด แมลงสาบ และแมลงต่าง ๆ ถ้านั่งถ่ายอยู่แล้วมีแมลงสาบวิ่งมาไต่ต้นขาเล่น คงไม่ใช่เรื่องสนุกของคนที่กลัวแมลงสาบแน่นอน อาจจะต้องวิ่งออกจากห้องส้วมตอนที่ยังถ่ายไม่เสร็จ แล้วกรี๊ดดัง ๆ แน่ แต่ถ้าคนที่ไม่กลัวอาจจะไม่ได้กรี๊ดหรือวิ่งหนีแต่อาจจะรู้สึกขยะแขยงความสกปรกของมันแทน สิ่งแปลกปลอมที่ไม่มีชีวิต ก็เป็นพวก ขยะพลาสติก ขวดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไปอุดท่อน้ำ ทำให้ท่อตันทำให้น้ำเอ่อล้นขึ้นมา สิ่งแปลกปลอมนี้ ทำให้เกิดน้ำเอ่อขึ้นมาท่วมห้องน้ำ จะเข้าไปทำธุระส่วนตัวต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมเอ่อขึ้นมาเกือบถึงข้อเท้า แล้วต้องนั่งแช่น้ำที่เอ่อขึ้นมาจนกว่าจะทำธุระเสร็จ ทำให้หลาย ๆ คน อาจจะเบื่อหรือเซ็งไปบ้างเวลาเข้าน้ำสาธารณะ แต่สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของส้วมสาธารณะ คือ จะได้พบกับภาพวาดตามผนังที่มีหลายคนร่วมวาดมันขึ้นมา อาจจะวาดเป็นสัตว์ต่าง ๆ บ้าง วาดเป็นบุคคลบ้าง หรือวาดไปทางที่สื่อลามกอนาจาร บางที่ถ้าไม่ได้วาดภาพ อาจจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ฝากไว้ อาจจะเป็นคำอุทาน ด่า หรือบ่นแสดงความคิดถึงถึงใครบางคน บางทีผนังห้องน้ำก็เหมือนกระทู้ของเว็บไซต์พันทิป ที่มีคนมาตั้งหัวข้อไว้แล้วก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นกันเต็มไปหมด คนที่เขียนผนังห้องน้ำเหล่านี้  ที่นึกสนุกขึ้นมา เลยเขียน หรือบางทีเข้าห้องน้ำนานแล้วว่าง เลยเขียนเพื่อฆ่าเวลา หรือบางคนอาจจะเหงา เลยเขียนระบายความในใจออกไป แต่เขาอาจจะไม่รู้ตัวว่า สิ่งที่พวกเขาทำไป ได้สร้างความเสียหายให้กับเจ้าของห้องน้ำที่ได้รับเหมาเสียค่าเช่าจากเจ้าของงานมาอีกที หากมีอะไรเสียหายหรือว่าชำรุด คนที่รับเหมาจะต้องออกค่าใช้จ่ายเองหมดและยัง สร้างปัญหาต่าง ๆ ปัญหาอาจจะไม่ใช่แค่การเขียนผนังห้องน้ำ อาจจะเป็นปัญหากลอนประตูพัง ขันหาย น้ำไม่ไหล สายฉีดก้นพัง ถ้าคุณไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จ แล้วพบว่าน้ำไม่ไหล ไม่มีทิชชู่ บางทีอาจจะต้องยอมเสียสละกางเกงในหรือถุงเท้าเพื่อทำความสะอาดมัน

          หลายคนอาจจะมองห้องน้ำแบบนี้เป็นที่ปลดทุกข์ ที่พอใช้เสร็จก็จากไป แต่จริง ๆ ห้องน้ำสาธารณะอาจจะให้ความสุขกับเราได้เหมือนกัน เราอาจจะมองข้ามไปว่า ถ้าเราไม่ได้ถ่ายออกมันจะรู้สึกไม่สบายตัว ถ้าถ่ายแล้วก็จะสบายตัวมากขึ้น ช่วงเวลาที่สบายตัวนี้คือความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของมัน มันก็เหมือนการใช้ชีวิตของเรา ที่เวลาเราแบกความทุกข์เอาไว้ แล้วเรายึดติดกับมันมาก ๆ มันก็ไม่มีความสุขไม่สบายตัว ถ้าเราได้ระบายออกหรือทิ้งมันไปก็จะทำให้เรามีความสุขมากขึ้นสบายตัวมากขึ้น การเข้าห้องน้ำจึงเป็นสิ่งเตือนใจให้กับผมว่า สิ่งไหนที่ทำให้เราไม่สบายใจหรือทำให้เป็นทุกข์เราเองก็ควรทิ้งมันไป นี่คือ ประสบการณ์เกี่ยวกับ ห้องน้ำ ของผม ณ งานวัด “สิ่งเล็ก ๆ แต่สำคัญ

 

ภาพจาก https://www.pinterest.com/pin/502925483367224019/

บล็อกของ Storytellers

Storytellers
          ความว่างเริ่มเข้ามาในหัวสมองเมื่อผมกลับมาจากการตกปลาได้สักพักหนึ่ง มันส่งเสียงบอกผมว่า “เห้ย!นายต้องหาอะไรทำได้แล้วนะ”พร้อมนึกขึ้นได้ว่า เรานัดคุยกับคุณตาไว้นี่ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปบ้านคุณตา คุณตากำลังสานตะกร้าจากไม้ไผ่ไว้ใช้เองอยู่คุณตาเห็นผมด้วยท่าทางทีใจ รี
Storytellers
          เป็นค่ำคืนที่หัวถึงหมอนแล้วรู้สึกอีกทีคือตอนตื่น ผมตื่นมาอย่างตื่นเต้นเตรียมพร้อมที่จะเดินขึ้นไปดูทะเลหมอกแต่มองออกไปก็เจอแต่ความมืดมิดของค่ำคืนที่ไม่มีไฟฟ้าและก็ไม่เห็นจะมีใครตื่นมากับเรา ในใจตอนนั้นถามว่าให้เดินขึ้นไปคนเดียวกล้าไหม ก็คงตอบอย่างมั่นใจว่าไม่กล้า
Storytellers
          พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าเหล่านกกาบินร้องกลับรังก็ได้เวลาที่เรากลับมาที่โรงเรียน เพื่อเตรียมทำกับข้าว ซึ่งก็มีออเดิร์ฟมาเสิร์ฟเราถึงที่ เป็นหัวปลีคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง ทอดกรอบๆ พูดแล้วก็อยากทานอีก เพราะรสชาติมันช่างกลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างมาก โดยแม่ครัวใหญ่ของอาห
Storytellers
          เรานั่งรอคุณครูซามารับประมาณเกือบๆ 2 ชม.เพราะวันนี้ทางโรงเรียนติดส่งแขกที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ แล้วรถของคุณครูก็มาถึงเป็นรถโฟวิลยกสูงคันใหญ่ ที่ขับมาโดยเด็กหนุ่มหน้าตาอย่างกับบอยแบรนด์เกาหลี ผมสวัสดีทักทาย ในใจก็คิดว่าสงสัยครูซาคงให้ลูกศิษย์ขับรถมาแทน แต่ก็ไม่ใช่
Storytellers
          เสียงนาฬิกาปลุกปลุกผมให้ลุกจากที่นอนรีบไปอาบน้ำ ผมสะพายเป้ ออกจากบ้านด้วยอารมณ์เรียบเฉยต่างจากวันก่อนที่อยากไปมากอย่างสิ้นเชิง คงเป็นเพราะบรรยายกาศที่มีฝนตกปรอยๆ และข้อมูลการเดินทางที่มีน้อยมาก มันเลยทำให้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากการเดินทางครั้งนี้ผมนัดเจอกับชาต
Storytellers
หลังจากจบกิจกรรมในวันแรกเราทุกคนต้องนอนค้างด้วยกันและเช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องรีบแหกขี้ตาขับรถกลับบ้านเพื่อแต่งตัวไปทำงาน ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นเตรียมตัวออกเดินทางโดยตลอดการเดินทางเราจะใช้ “APP C –Site”เพื่อติดตามเรื่องราวของกันและกัน ความรู้สึกที่เราต้องนั่งหงอยๆทำงานอยู่หน้าคอมทั้งที่เพื่อนคนอื่นออก
Storytellers
          ชีวิตในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวายเร่งรีบของใครคนหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไรจากเมืองกรุงแห่งนี้จนเลื่อนมือถือไปๆมาๆเจอโพสหนึ่ง “เปิดรับเยาวชนนักเล่าเรื่องที่สนใจจะไปเที่ยว!
Storytellers
ก่อนได้ไปลงพื้นที่ที่สะเนพ่องเราได้ไปค่ายนักเล่าเรื่องในที่อื่น(Storytellers in Journey) ที่มูลนิธฺเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปซึ่งทำให้เราได้เจอกับพี่ๆหลายๆคนและทุกๆคนน่ารักมาก แต่ในระยะเวลาที่เราได้อยู่ค่ายนั้นมันมีแค่ 2 วันคือวันที่7-8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 แล้วในตอนนั้นผมก็ยังมีโครงการของผมที่ยังต้องไ
Storytellers
บัติ-ใจ-สู้  สามคำที่อยากแนะนำตัวเองให้ทุกคนได้รู้จัก  “บัติ”  มาจากชื่อจริงชื่อ  สมบัติ  แก้วเนื้ออ่อน  “ใจ”  มาจากสิ่งที่เริ่มทำในชีวิตส่วนใหญ่มักเริ่มต้นมาจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นผ่านใจ  ถ้าใจอยากทำ  ยังไงก็จะทำต่อไปจนสำเร็จให้ได้  ส่
Storytellers
ต่างคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การเดินทางคือการซื้อประสบการณ์ที่ได้รับเงินทอนเป็นความสุข เป็นคำพูดที่มีความจริงเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากแต่บางครั้งเงินทอนที่ได้รับอาจจะมาในรูปแบบที่โหดร้ายได้เหมือนกัน เพราะการเดินทางไปในแต่ละที่มักจะได้ประการณ์ที่ไม่เหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่า
Storytellers
          ผมได้เข้าร่วมโครงการ Storytellers in journey ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ผมได้ออกเดินทางไปเรียนรู้อะไรใหม่ตามที่ต่างๆ และผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังบ้านปลาบู่ จังหวัดหมาสารคาม เพื่อไปดูการจัดการธุรกิจแบบ Social Enterprise เพราะผมได้รู้มาว่าที่นั้นมีการทำธุรกิจแบบ