Skip to main content

ขอกล่าวสวัสดีอาจจะไม่เป็นทางการซักเท่าไหร่นะครับ ผมชื่อ ศุภศิษฏ์ สิทธิสิงห์ ชื่อเล่นชื่อ เอิร์ธ ความฝันตอนอยู่ประถมคืออยากเป็นทันตแพทย์ ปัจจุบันศึกษาอยู่คณะอักษรศาสตร์ครับ แต่ถ้านับเอาจริง ๆ แล้วความฝันแรกเริ่มเดิมทีตั้งแต่ตอนอนุบาลเลยคืออยากเป็นคนเขียนนิทานครับ โดยเฉพาะนิทานสำหรับเด็กนี่จะชอบมาก ๆ เนื่องด้วยตอนสมัยผมเด็ก ๆ ผมเติบโตมากับการที่มีคุณแม่เล่านิทานให้ฟังก่อนนอน ซึ่งมันเป็นโมเมนต์ที่ดูอบอุ่นมาก ๆ นิทานมันเหมือนสายสัมพันธ์ที่เชื่อมระหว่างคนเล่ากับคนฟัง แต่ถ้าความคิดในสมัยนั้นบอกเลยว่าจำแทบไม่ได้เลย จำได้คร่าว ๆ ว่าอยากถ่ายทอดเรื่องราวในหัวให้คนอื่นฟังบ้าง เพราะได้ฟังนิทานมาเยอะมากในระดับนึง คุณแม่ซื้อนิทานแบบรวมเล่มมากว่าสิบเล่ม เรื่องเดียวทั้งเล่มอีกในจำนวนใกล้เคียงกัน ทำให้ผมมีเรื่องราวที่ฟังในแต่ละคืนที่ไม่ซ้ำกันเลย บางวันคุณแม่ต้องไปเข้าเวรก็ฟังเทปนิทานเอาแทน แล้วก็ด้วยความที่เป็นเด็กนี่หละคิดแล้วก็อยากทำเลยลงมือเขียนมันตั้งแต่อยู่อนุบาล ขออวดเลยว่าผมจำก.ไก่ถึงฮ.นกฮูกได้ตั้งแต่อนุบาลหนึ่ง แล้วด้วยความที่เป็นเด็ฏทำให้พล๊อตเรื่องมันอีรุงตุงนังซะเหลือเกิน มันดูวุ่นวายขนาดในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดเลยว่าเขียนเรื่องอะไรไป จำได้ลาง ๆ ว่าเกี่ยวกับปลาวาฬ แต่มันใจได้ครับว่าไม่ใช่โมบี้ ดิค แน่นอนครับ

          พอขึ้นชั้นประถมศึกษาเป็นวัยที่พ่อแม่กำหนดเป้าหมายอาชีพให้ผมเลยว่าอยากให้เป็นหมอแต่ผมกลัวเข็ม เลยอยากเป็นหมอฟันแทน เอาน่า อย่าไปคิดเรื่องการฉีดยาชาสิครับ นั้นตอนประถม 1 เองนะ แต่พอทราบแล้วก็ล้มเลิกความคิดนี้จริง ๆ นะครับ อ่านตั้งแต่ย่อหน้านี้มาถึงตรงนี้คงคิดว่าผมเรียนในโรงเรียนสายวิทย์เข้มจ๋าตั้งแต่ประถมเลยใช่ไหมหละ ถ้าตอบว่าใช่ คุณคิดผิดครับ ถ้าไม่ใช่ ยินดีด้วยครับคุณคิดถูก เป็นไงหละผมมีคำตอบให้สองคำตอบเลยนะ ปกติเห็นมันมีคำตอบเดียวนี่นา เข้าเรื่อง ๆ ผมเรียนประถมในโรงเรียนสังกัดเทศบาลแห่งหนึ่งที่นักเรียนที่จบการศึกษาออกมามักมีงานทำก่อนเรียนจบมัธยม เรียกว่าเรียนไม่จบอาจจะเข้าใจง่ายกว่า เพื่อน ๆ ผมก็นักเลงหัวไม้ทั้งนั้น หัวไม้เรียวอาจารย์นี้หละครับ โดนฟาดทุกวัน งดดราม่าอาจารย์ตีลูกศิษย์ซักครู่นะครับเดี๋ยวจะไม่จบเอา ที่เล่ามานี่ก็เพื่อเกริ่นถึงแนวการแต่งเรื่องของผมเริ่มเปลี่ยนไป มีความใช้ภาพสื่อสารแทนข้อความมากขึ้น แล้วด้วยการรับอิทธิพลเพื่อนสนิทรอบ ๆ มา บอกเลยครับว่านิทานหรือเรื่องสั้นของผมกลายเป็นแนวแอคชั่น บู๊กระจาย จัดเต็มทุกท่วงท่า จนมันจะกลายเป็นคอมมิคอยู่แล้ว

          การวิวัฒนาการเริ่มผลิอีกครั้ง คราวนี้ผมเรียนโรงเรียนมัธยมวิทย์อันดับต้น ๆ ของจังหวัดครับ ความฝันตอนนั้นคืออยากเป็นนักเขียนครับ เรียกได้เลยว่าติดไฟมาตอนประถม ด้วยความที่ผมมีพรรคพวกที่สนใจในแนวเดียวกันมากกว่าเดิม ทำให้ผมเริ่มเขียนนิยายเรื่องสั้นแล้วผลัดกันอ่านกับของที่เพื่อนเขียน นับได้ว่านั่นคือยุคทองของการเขียนเลยทีเดียว ถ้าไม่ติดตรงที่ผมมักจะชอบตัดหรือเผาเรื่องที่ตัวเองเขียนมาก็ตาม อารมณ์เหมือนหลังจบยุคมืดแล้วเข้ายุคเรเนอซองค์อย่างไรอย่างนั้น

          ถัดมาคือตอนมัธยมปลาย โรงเรียนเดิม เพิ่มเติมคือแบ่งห้องเรียนใหม่ ความฝันคราวนี้คืออยากเป็นนักการทูตครับ ช่วงนั้นคุณชายปวรรุจกำลังมาแรง แล้วท่านหญิงรสาก็น่ารักมาก ๆ ส่วนการเขียนก็เริ่มซบเซาลงไปขณะหนึ่งเนื่องด้วยเพื่อนร่วมก๊วนได้ไปอยู่ห้องอื่น เลยมีความคิดที่จะลงเว็ปแทน แต่ความลำบากคือไม่มีคอมใช้แบบสะดวกนั่นแหละครับ ต้องขออนุญาตก่อนใช้ บอกตามตรงเลยการอธิบายโดยใช้เหตุผลนี่ยากมาก เลยยอมเขียนในสมาร์ทโฟนแทน แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดคือแอปที่ใช้จดในสมาร์ทโฟนจำกัดเนื้อหาอยู่แค่ 100 อักขระ ทำให้การเขียนในช่วงนั้นติด ๆ ดับ ๆ

          มาถึงปัจจุบัน ตอนนี้อยากเป็นนักจดหมายเหตุครับ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยคือความฝันที่อยากเล่าเรื่องในความคิดของเราให้คนอื่นได้ฟังไม่ว่าจะในรูปแบบใด ๆ ก็ตามยังคงอยู่ในใจเสมอ แน่นอนว่าอยากเข้าร่วมหลายกิจกรรมที่ส่งเรื่องสั้นหลาย ๆ ที่มาก ๆ แต่ด้วยความซวยหรืออะไรก็ไม่ทราบ แต่ขออภัยที่ใช้คำหยาบ กิจกรรมที่อยากเข้าร่วมก็มักจะเกิดเส้นตายของงานเข้ามาแทรก แน่นอนว่างานนี้ก็เช่นกัน แต่มันก็ปล่อยไปอีกไม่ได้อีกแล้วหละ เราอยากให้เรื่องราวที่เราอยากเล่าถึงหูคนอื่น ถึงสายตาคนอื่น แล้วก็อยากมีหนังสือที่ถูกตีพิมพ์โดยมีชื่อของตัวเองเป็นผู้เขียนอยู่ที่หน้าปกซักเล่มหนึ่ง

 

 

 

 

ภาพจาก https://www.pinterest.com/pin/6544361932304358/

 

บล็อกของ Storytellers

Storytellers
 วันที่ 08/11/2018 – 09/11/2018 เวลา 3.53 น.
Storytellers
กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อว่า น้องสาว เธอได้เป็นหนึ่งใน 20 คน ที่โชคดีได้ออกเดินทางไปที่ต่างๆ แต่มีกฎว่าเลือกได้เพียงแค่ 1 ที่ น้องสาวเลือกสถานที่ไกลที่สุด เท่าที่จะไกลได้ ในการเดินทางน้องสาวจะต้องขึ้นยานไป โดยที่ในยานจะมีลูกเรือค่อยให้บริการ และลูกเรือคนนี้จะพูดทุกครั้งที่มีคนใหม่มา
Storytellers
ผมเป็นคนๆหนึ่งที่ชอบในความท้าทาย ชอบการหาประสบการณ์และรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอสิ่งใหม่ๆ เด็กใต้คนหนึ่งที่เคยสุขสบายมาก่อนเที่ยวไหนก็ได้ที่อยากไป รู้สึกว่าปัจจัยต่างๆทำให้เราเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเองได้เป็นอย่างดี เพราะมีกำลังพอที่พาตัวเองไปสู่การเรียนรู้ที่มันหลากหลาย แต่รู้ไหมว่าเมื่อโช
Storytellers
ในยุคนี้มันคงถึงเวลาต้องยอมรับได้แล้ว ว่าการศึกษาที่ให้ผู้เรียนเป็นแค่ผู้ฟัง แล้วเอาผลคะแนนเป็นตัววัดนั้น ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคนเสมอไปหรอก ผมเองก็เป็นคนหนึ่ง ที่เกรดไม่ได้ตีเอาซะเลย แต่เชื่อผมเถอะ ว่ามนุษย์ทุกคนเติบโตด้วยการเรียนรู้มากกว่าอายุอยู่แล้ว หลังจากได้ลงพื้นที่การเรียนรู้บนดอยไปแล้ว คำ
Storytellers
 หลังจากส่งบทความไปกับทาง Story tellers in journey ก็ไม่ได้สมหวังตั้งแต่แรกอย่างเพื่อนๆ ทั้ง 19 คนที่ได้ไป Workshop กันหรอก ฮ่าๆ แต่หลังจากนั้นก็มี G-mail เด้งมาจากพี่ตุ้ม จำได้ว่าตอนนั้นกำลังพรีเซ้นท์งานอยู่ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ว่ามีคนสละสิทธิ์ และให้เราได้ไปเข้าร่วมกิจกรรม และบังเอิญตรงที
Storytellers
 หลังจากจบทริปไปเชียงรายในครั้งนั้น ฉันพยายามนั่งครุ่นคิดอยู่นานว่าจะเขียน จะเล่าเรื่อง จะถ่ายทอดเรื่องราวอย่างไรให้คนที่ได้อ่านรู้สึกอินไปกับฉัน
Storytellers
ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่ง เด็กสาวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จังหวัดใต้สุดสยาม จะกำลังมุ่งหน้าสู่ดินแดนเหนือสุดสยามอย่าง ‘เชียงราย’ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากราวกับฝันไป เพราะฉันเพิ่งตัดสินใจและเริ่มวางแผนได้เพียงในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง รู้ตัวอีกที ฉันก็กำลังนั่งรถทัวร์มุ่งหน้าสู่เชียงรายเสียแล้
Storytellers
 "นี่เป็นประสบการณ์ไปต่างจังหวัดเองครั้งแรกของผม" 
Storytellers
 “เอ๊ะ! มีอีเมลอะไรส่งมาที่กล่องข้อความ”       อีเมลฉบับนั้นมีใจความว่า “ยินดีด้วย คุณได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 21 ของโครงการ storytellers in journey”
Storytellers
      การออกเดินทางครั้งนี้ เราได้มีจุดหมายที่ ม่อนแสงดาว จังหวัดเชียงราย เรากำลังแบกเป้ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมที่พร้อมจะเรียนรู้อย่างเต็มที่
Storytellers
ฉันเห็น I ฉันคิด โดย อดิศักดิ์  โกเมฆฉันเห็นฉันคิด
Storytellers
ศูนย์การเรียนที่ผมเรียนชื่อ ศูนย์การเรียนโจ๊ะมาโลลือหล่า ชื่อโรงเรียนของผมนั้นเป็นภาษาปกาเกอญอแปลเป็นภาษาไทยว่า“โรงเรียนวิถีชีวิต” โรงเรียนขอผมนั้นตั้งอยู่บนดอยที่หมู่บ้านสบลานซึ่งศูนย์การเรียนนั้นก็มีสิทธิเหมือนโรงเรียนสามารถออกวุฒิการศึกษาได้แต่มันมีสิ่งที่ไม่เหมือนโรงเรียนอยู่นั้นก็คือการจัดกา