Skip to main content

บ้านที่มีเนื้อที่เกือบไร่ในชุมชนชนบท กว้างและเหงาเกินไปที่จะอยู่กันเพียงแค่สองคน สี่ขาซักตัวอาจจะช่วยลดความเหงาลงได้ บ้านเราคุยกันแล้วมีข้อสรุปว่า เราจะหาสมาชิกเข้าบ้าน พี่สาวของผู้เขียนจึงเริ่มปฎิบัติการหาสมาชิกใหม่มาเป็นเพื่อนพ่อกับแม่ ด้วยวิถีชาวไร่ที่ไม่มีห้องแอร์ มีแต่เพียงป่าอ้อยป่ามันล้อมรอบเท่านั้น “พิทบูล” จึงเป็นที่น่าสนใจสำหรับบ้านเราตอนที่พี่สาวไปรับจอห์นมาอยู่ด้วยเป็นช่วงฤดูหนาว นิสัยขี้อ้อนของจอห์นได้ปรากฎตั้งแต่แรกเจอ มีที่ไหนเจอหน้ากันปุ๊บ เดินเข้าตักปั๊บ แล้วก็หลับเลย แม้ว่าขนที่สั้นอาจจะทำให้มันหนาว จนอยากหาที่นอนอุ่นๆก็เถอะ แต่พิทบูลไม่ควรจะเชื่องขนาดนี้

จอห์นถือว่าเป็นหมาที่หน้าตาดีสำหรับพ่อแม่ ขนที่เป็นสีน้ำตาลทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นสีดินที่ไปคลุกมาหรือเป็นสีขนของมัน ขนสั้นๆบนตัวของมันทำให้ประหยัดน้ำและแชมพูในการดูแล ถ้าเปรียบเทียบร่างกายจอห์นกับคนก็คงเป็นเหมือนนักกีฬายกน้ำหนัก แน่นๆ ล่ำๆ จนบางครั้งคนที่เห็นจอห์นครั้งแรกก็แอบกลัว แต่ความจริงแล้วภาพลักษณ์ขาโหดที่จอห์นมีนั้นขัดแย้งกับนิสัยจอห์นมาก ที่มาของชื่อจอห์นคือ“จรจัด” พี่สาวเล่าให้ฟังว่าตอนที่ไปรับจอห์น มันเป็นตัวที่อ่อนแอสุดในคอก ภาพที่เห็นคือตัวจิ๋วที่สุด กินข้าวไม่ทันตัวอื่น โดนเขาข่มเหง ถ้าไม่รับมาอยู่ด้วยเกรงว่ามันจะได้ย้ายสังกัดไปเป็นหมาจรจัดจริงๆ พี่เลยตั้งชื่อว่า จอห์น(เกือบจัด) แต่ความมุ้งมิ้งของแม่ ถ้าจอห์นเฉยๆมันไม่ชิค เขาก็จะเรียกว่า“จอห์นนี่”

เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันจอห์นก็เอาแต่นอน แล้วก็ออเซาะแม่ของผู้เขียน เลือกคนอ้อนประหนึ่งหยั่งรู้ได้ว่าใครใหญ่ในบ้าน เดี๋ยวนอนตักบ้าง หนุนเท้าบ้าง พอเย็นจอห์นก็เปลี่ยนเป้าหมายไปออเซาะพ่อต่อ โดยการเดินตามพ่อรดน้ำต้นไม้ในสวนทุกต้น บางทีก็กระโดดเล่นน้ำที่ออกจากสายยาง พอตกค่ำพ่อแม่ดูละคร จอห์นก็ขอแจมด้วยด้วยทักษะการอ้อนชั้นเยี่ยมจอห์นได้เล่ือนขั้นเป็นหมากิตติมศักดิ์โดยใช้เวลาไม่กี่เดือนสิทธิพิเศษมากมายในบ้านตกเป็นของจอห์น อย่างเช่น ที่นั่งวีไอพีหน้าพัดลมตอนดูทีวีพร้อมรับการปกป้องยุงที่บริการโดยแม่ ไม้ช็อตยุงไฟฟ้าเอย ก.ย.15 เอย แม่บอกว่าเราเป็นคน เรามีมือตบยุงแต่หมาไม่มีเพราะฉะนั้นแม่ต้องห่วงหมามากกว่าลูกอยู่แล้ว “ปลากระป๋องต้องมี ข้าวสวยต้องมา” คือคติประจำใจของแม่ที่ใช้ในการเลี้ยงจอห์น เพราะจอห์นชอบกินข้าวขยำปลากระป๋องมาก กินเกลี้ยงจนรางข้าวสะอาดเหมือนล้าง เวลาที่ผู้เขียนคลุกข้าวให้มัน เคยชิมไปครั้งนึง แต่ชิมได้แค่คำเดียวเท่านั้น เพราะแม่กลัวว่าจอห์นจะไม่อิ่ม

บางทีผู้เขียนก็คิดนะ ว่าตอนนี้จอห์นได้แย่งความรักจากแม่ผู้เขียนไปเรียบร้อยแล้ว ทุกครั้งที่กลับบ้านไปผู้เขียนสามารถสัมผัสความรักระหว่างแม่กับจอห์นได้เป็นอย่างดี ยอมรับเลยว่ายากที่จะข่มใจไม่ให้หมั่นไส้เจ้าสี่ขาตัวนี้ แต่ลึกๆแล้วผู้เขียนและพี่สาวก็นึกขอบคุณจอห์นที่มาทำหน้าที่เติมเต็มความเหงาของแม่ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ผู้เขียนและพี่สาวไม่สามารถทำได้เต็มที่ในเวลานี้

 

 

 

บล็อกของ Storytellers

Storytellers
          ความว่างเริ่มเข้ามาในหัวสมองเมื่อผมกลับมาจากการตกปลาได้สักพักหนึ่ง มันส่งเสียงบอกผมว่า “เห้ย!นายต้องหาอะไรทำได้แล้วนะ”พร้อมนึกขึ้นได้ว่า เรานัดคุยกับคุณตาไว้นี่ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปบ้านคุณตา คุณตากำลังสานตะกร้าจากไม้ไผ่ไว้ใช้เองอยู่คุณตาเห็นผมด้วยท่าทางทีใจ รี
Storytellers
          เป็นค่ำคืนที่หัวถึงหมอนแล้วรู้สึกอีกทีคือตอนตื่น ผมตื่นมาอย่างตื่นเต้นเตรียมพร้อมที่จะเดินขึ้นไปดูทะเลหมอกแต่มองออกไปก็เจอแต่ความมืดมิดของค่ำคืนที่ไม่มีไฟฟ้าและก็ไม่เห็นจะมีใครตื่นมากับเรา ในใจตอนนั้นถามว่าให้เดินขึ้นไปคนเดียวกล้าไหม ก็คงตอบอย่างมั่นใจว่าไม่กล้า
Storytellers
          พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าเหล่านกกาบินร้องกลับรังก็ได้เวลาที่เรากลับมาที่โรงเรียน เพื่อเตรียมทำกับข้าว ซึ่งก็มีออเดิร์ฟมาเสิร์ฟเราถึงที่ เป็นหัวปลีคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง ทอดกรอบๆ พูดแล้วก็อยากทานอีก เพราะรสชาติมันช่างกลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างมาก โดยแม่ครัวใหญ่ของอาห
Storytellers
          เรานั่งรอคุณครูซามารับประมาณเกือบๆ 2 ชม.เพราะวันนี้ทางโรงเรียนติดส่งแขกที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ แล้วรถของคุณครูก็มาถึงเป็นรถโฟวิลยกสูงคันใหญ่ ที่ขับมาโดยเด็กหนุ่มหน้าตาอย่างกับบอยแบรนด์เกาหลี ผมสวัสดีทักทาย ในใจก็คิดว่าสงสัยครูซาคงให้ลูกศิษย์ขับรถมาแทน แต่ก็ไม่ใช่
Storytellers
          เสียงนาฬิกาปลุกปลุกผมให้ลุกจากที่นอนรีบไปอาบน้ำ ผมสะพายเป้ ออกจากบ้านด้วยอารมณ์เรียบเฉยต่างจากวันก่อนที่อยากไปมากอย่างสิ้นเชิง คงเป็นเพราะบรรยายกาศที่มีฝนตกปรอยๆ และข้อมูลการเดินทางที่มีน้อยมาก มันเลยทำให้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากการเดินทางครั้งนี้ผมนัดเจอกับชาต
Storytellers
หลังจากจบกิจกรรมในวันแรกเราทุกคนต้องนอนค้างด้วยกันและเช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องรีบแหกขี้ตาขับรถกลับบ้านเพื่อแต่งตัวไปทำงาน ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นเตรียมตัวออกเดินทางโดยตลอดการเดินทางเราจะใช้ “APP C –Site”เพื่อติดตามเรื่องราวของกันและกัน ความรู้สึกที่เราต้องนั่งหงอยๆทำงานอยู่หน้าคอมทั้งที่เพื่อนคนอื่นออก
Storytellers
          ชีวิตในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวายเร่งรีบของใครคนหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไรจากเมืองกรุงแห่งนี้จนเลื่อนมือถือไปๆมาๆเจอโพสหนึ่ง “เปิดรับเยาวชนนักเล่าเรื่องที่สนใจจะไปเที่ยว!
Storytellers
ก่อนได้ไปลงพื้นที่ที่สะเนพ่องเราได้ไปค่ายนักเล่าเรื่องในที่อื่น(Storytellers in Journey) ที่มูลนิธฺเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปซึ่งทำให้เราได้เจอกับพี่ๆหลายๆคนและทุกๆคนน่ารักมาก แต่ในระยะเวลาที่เราได้อยู่ค่ายนั้นมันมีแค่ 2 วันคือวันที่7-8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 แล้วในตอนนั้นผมก็ยังมีโครงการของผมที่ยังต้องไ
Storytellers
บัติ-ใจ-สู้  สามคำที่อยากแนะนำตัวเองให้ทุกคนได้รู้จัก  “บัติ”  มาจากชื่อจริงชื่อ  สมบัติ  แก้วเนื้ออ่อน  “ใจ”  มาจากสิ่งที่เริ่มทำในชีวิตส่วนใหญ่มักเริ่มต้นมาจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นผ่านใจ  ถ้าใจอยากทำ  ยังไงก็จะทำต่อไปจนสำเร็จให้ได้  ส่
Storytellers
ต่างคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การเดินทางคือการซื้อประสบการณ์ที่ได้รับเงินทอนเป็นความสุข เป็นคำพูดที่มีความจริงเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากแต่บางครั้งเงินทอนที่ได้รับอาจจะมาในรูปแบบที่โหดร้ายได้เหมือนกัน เพราะการเดินทางไปในแต่ละที่มักจะได้ประการณ์ที่ไม่เหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่า
Storytellers
          ผมได้เข้าร่วมโครงการ Storytellers in journey ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ผมได้ออกเดินทางไปเรียนรู้อะไรใหม่ตามที่ต่างๆ และผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังบ้านปลาบู่ จังหวัดหมาสารคาม เพื่อไปดูการจัดการธุรกิจแบบ Social Enterprise เพราะผมได้รู้มาว่าที่นั้นมีการทำธุรกิจแบบ