Skip to main content

 

     การออกเดินทางครั้งนี้ เราได้มีจุดหมายที่ ม่อนแสงดาว จังหวัดเชียงราย เรากำลังแบกเป้ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมที่พร้อมจะเรียนรู้อย่างเต็มที่

      ม่อนแสงดาว แหล่งเรียนรู้ของเด็กชาติพันธุ์ที่หลากหลายเป็นการเรียนการสอนผ่านธรรมชาติหรือ Eco School โดยมุ่งเน้นเด็กที่ไม่ได้รับโอกาสในการเลือก การค้นหาตนเองและโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเองการเรียนการสอนผ่านการสัมผัสธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม เพื่อให้เด็กเหล่านี้มีทักษะการดำเนินชีวิตที่ดีแล้วยังสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเอง สามารถพึ่งพาตนเองได้ตามศาสตร์พระราชา กระบวนการเรียนรู้ที่ได้สัมผัสถึงรากของวัฒนธรรม วิถีชีวิต ชาติพันธุ์ ธรรมชาติ ควบคู่กับการเรียนรู้สถานการณ์ในปัจจุบันเพื่อร่วมกันคิด วิเคราะห์ หาทางออกร่วมกันโดยไม่ลืมรากของวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น

     คุณว่ามันน่าสนใจไหม? ฉันเองรู้สึกว่าการเรียนรูปแบบนี้น่าสนใจไม่น้อย ฉันจึงตัดสินใจเดินทางไปเชียงรายอย่างไม่ลังเลเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทางของฉัน อีก 4 คน คือ พี่โบนัส คุณโบ้ผู้มากับขนม พี่แทน แถ่นแทนแถ๊น พี่ฟิตรี และพี่วริศ หรือ เชียงราย Don't Cry Gangster 5555 เราทุกคนล้วนมาจากต่างที่แต่มีจุดมุ่งหมายที่ไม่ได้ต่างกันนัก

     การเดินทางกับเพื่อนใหม่่ที่เรารู้จักแค่ 2 วันก่อนการเดินทางก็น่าท้าทายไม่ต่างกัน แต่นั่นก็ไม่น่าตื่นเต้นเท่าการได้พบโรงเรียนม่อนแสงดาวธรรมชาติวิทยา โรงเรียนในฝันของฉันเอง...

     และแล้วพวกเราเชียงราย Don't Cry ก็เดินทางมาถึง เราเดินทางไกลมากเพื่อมาพบโรงเรียนในฝัน ม่อนแสงดาวธรรมชาติวิทยา ความรู้สึกแรก เราได้รับพลังงานบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกเคว้งแปลกๆ มันเหมือนที่นี่เคยมีชีวิตแต่ตอนนี้มันเงียบเหงาจนน่าแปลกใจ เรารู้สึกว่่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่แน่ๆ เราต่างมองหน้ากันเงียบๆและเข้าใจกันผ่านสายตา สะพานที่ดูใกล้หักเต็มที่ สำนักงานที่ดูไม่ได้รับการใช้งานมานาน ประกอบกับแปลกผักรกร้าง เราก็อดคิดไม่ได้ว่า อะไรทำให้ที่นี่กลายเป็นแบบนี้ไปได้

          “ ผิดหวังนะแต่ทำอะไรได้ละ เราเลือกเอง ”

          “ ไม่มีอะไรตรงใจเราทุกอย่างหรอกเนอะ จริงไหม ”

     เราคุยกับอาจารย์ระยะหนึ่งก็พบว่า ที่นี่มีปัญหาในด้านบุคลากร การเรียนการสอนรูปแบบนี้ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสอนได้ การปรับตัวกับเด็กนักเรียนก็สำคัญไม่น้อย อาจารย์ไม่น้อยที่ต้องถอยก่อนกำหนด อาจารย์ทั้งสองเองก็มาทำงานที่นี่ได้ไม่นานนักแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นทั้งหมด ประเด็นที่สำคัญอีกประเด็นคือการเปลี่ยนผ่านโรงเรียนทางเลือกแนวโรงเรียนนิเวศซึ่งอยู่ภายใต้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัชฌาศัยกลายเป็นโรงเรียนในระบบ ทุกอย่างถูกปรับเปลี่ยนใหม่เกือบทั้งหมด ฉันไม่รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงมันคืออะไรเพราะฉันไม่มีโอกาสคุยกับอาจารย์ใหญ่ แต่ถ้าเดาไม่ผิดปัญหาด้านงบประมาณคงมีส่วนไม่น้อยที่ต้องบีบให้โรงเรียนกลับเข้าสู่ระบบ อย่างน้อยก็ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอยู่บ้าง

    ฉันเองใจหายไม่น้อย ถ้าโรงเรียนต้องสูญเสียเอกลักษณ์บางอย่างไป การถูกครอบด้วยกฎระเบียบ อิสระในการเรียนรู้ก็กำลังเลื่อนหาย การเรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัดกำลังจะถูกตีกรอบ การเรียนรู้ที่แตกต่างกำลังถูกลบเลือน ทุกอย่างกำลังย้อนกลับสู่ที่เดิม ที่ที่การศึกษามีเพียงตำรา การแข่งขันที่ไม่จบสิ้น การศึกษาที่ไม่ได้ส่งเสริมการเรียนรู้แต่เป็นการศึกษาที่ขัดขวางการเรียนรู้ การศึกษาที่ไม่คำนึงถึงความแตกต่างในตัวบุคคลแต่คำนึงถึงการผลิตซ้ำที่ไม่ต่างอะไรจากโรงงานเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแต่ไม่เคยตอบสนองความต้องการของผู้เรียน ฉันไม่รู้ว่าฉันมองโลกในแง่ร้ายไปไหม แต่ฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้น

 

“ การศึกษาต้องก้าวต่อไปต้องไม่มีใครที่ถูกทิ้งไว้กลางทาง ”

 

“ม่อน แกเคยสดใสกว่านี้นะ

กลับมาสดใสอีกครั้งซิ ฉันรอมองอยู่นะ”

 

#สาธารณะศึกษา

#พื้นที่เรียนรู้สาธารณะ

#เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา

#StorytellersInJourney

#midl2018

#InclusiveCities

 

บล็อกของ Storytellers

Storytellers
          ความว่างเริ่มเข้ามาในหัวสมองเมื่อผมกลับมาจากการตกปลาได้สักพักหนึ่ง มันส่งเสียงบอกผมว่า “เห้ย!นายต้องหาอะไรทำได้แล้วนะ”พร้อมนึกขึ้นได้ว่า เรานัดคุยกับคุณตาไว้นี่ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปบ้านคุณตา คุณตากำลังสานตะกร้าจากไม้ไผ่ไว้ใช้เองอยู่คุณตาเห็นผมด้วยท่าทางทีใจ รี
Storytellers
          เป็นค่ำคืนที่หัวถึงหมอนแล้วรู้สึกอีกทีคือตอนตื่น ผมตื่นมาอย่างตื่นเต้นเตรียมพร้อมที่จะเดินขึ้นไปดูทะเลหมอกแต่มองออกไปก็เจอแต่ความมืดมิดของค่ำคืนที่ไม่มีไฟฟ้าและก็ไม่เห็นจะมีใครตื่นมากับเรา ในใจตอนนั้นถามว่าให้เดินขึ้นไปคนเดียวกล้าไหม ก็คงตอบอย่างมั่นใจว่าไม่กล้า
Storytellers
          พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าเหล่านกกาบินร้องกลับรังก็ได้เวลาที่เรากลับมาที่โรงเรียน เพื่อเตรียมทำกับข้าว ซึ่งก็มีออเดิร์ฟมาเสิร์ฟเราถึงที่ เป็นหัวปลีคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง ทอดกรอบๆ พูดแล้วก็อยากทานอีก เพราะรสชาติมันช่างกลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างมาก โดยแม่ครัวใหญ่ของอาห
Storytellers
          เรานั่งรอคุณครูซามารับประมาณเกือบๆ 2 ชม.เพราะวันนี้ทางโรงเรียนติดส่งแขกที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ แล้วรถของคุณครูก็มาถึงเป็นรถโฟวิลยกสูงคันใหญ่ ที่ขับมาโดยเด็กหนุ่มหน้าตาอย่างกับบอยแบรนด์เกาหลี ผมสวัสดีทักทาย ในใจก็คิดว่าสงสัยครูซาคงให้ลูกศิษย์ขับรถมาแทน แต่ก็ไม่ใช่
Storytellers
          เสียงนาฬิกาปลุกปลุกผมให้ลุกจากที่นอนรีบไปอาบน้ำ ผมสะพายเป้ ออกจากบ้านด้วยอารมณ์เรียบเฉยต่างจากวันก่อนที่อยากไปมากอย่างสิ้นเชิง คงเป็นเพราะบรรยายกาศที่มีฝนตกปรอยๆ และข้อมูลการเดินทางที่มีน้อยมาก มันเลยทำให้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากการเดินทางครั้งนี้ผมนัดเจอกับชาต
Storytellers
หลังจากจบกิจกรรมในวันแรกเราทุกคนต้องนอนค้างด้วยกันและเช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องรีบแหกขี้ตาขับรถกลับบ้านเพื่อแต่งตัวไปทำงาน ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นเตรียมตัวออกเดินทางโดยตลอดการเดินทางเราจะใช้ “APP C –Site”เพื่อติดตามเรื่องราวของกันและกัน ความรู้สึกที่เราต้องนั่งหงอยๆทำงานอยู่หน้าคอมทั้งที่เพื่อนคนอื่นออก
Storytellers
          ชีวิตในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวายเร่งรีบของใครคนหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไรจากเมืองกรุงแห่งนี้จนเลื่อนมือถือไปๆมาๆเจอโพสหนึ่ง “เปิดรับเยาวชนนักเล่าเรื่องที่สนใจจะไปเที่ยว!
Storytellers
ก่อนได้ไปลงพื้นที่ที่สะเนพ่องเราได้ไปค่ายนักเล่าเรื่องในที่อื่น(Storytellers in Journey) ที่มูลนิธฺเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปซึ่งทำให้เราได้เจอกับพี่ๆหลายๆคนและทุกๆคนน่ารักมาก แต่ในระยะเวลาที่เราได้อยู่ค่ายนั้นมันมีแค่ 2 วันคือวันที่7-8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 แล้วในตอนนั้นผมก็ยังมีโครงการของผมที่ยังต้องไ
Storytellers
บัติ-ใจ-สู้  สามคำที่อยากแนะนำตัวเองให้ทุกคนได้รู้จัก  “บัติ”  มาจากชื่อจริงชื่อ  สมบัติ  แก้วเนื้ออ่อน  “ใจ”  มาจากสิ่งที่เริ่มทำในชีวิตส่วนใหญ่มักเริ่มต้นมาจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นผ่านใจ  ถ้าใจอยากทำ  ยังไงก็จะทำต่อไปจนสำเร็จให้ได้  ส่
Storytellers
ต่างคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การเดินทางคือการซื้อประสบการณ์ที่ได้รับเงินทอนเป็นความสุข เป็นคำพูดที่มีความจริงเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากแต่บางครั้งเงินทอนที่ได้รับอาจจะมาในรูปแบบที่โหดร้ายได้เหมือนกัน เพราะการเดินทางไปในแต่ละที่มักจะได้ประการณ์ที่ไม่เหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่า
Storytellers
          ผมได้เข้าร่วมโครงการ Storytellers in journey ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ผมได้ออกเดินทางไปเรียนรู้อะไรใหม่ตามที่ต่างๆ และผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังบ้านปลาบู่ จังหวัดหมาสารคาม เพื่อไปดูการจัดการธุรกิจแบบ Social Enterprise เพราะผมได้รู้มาว่าที่นั้นมีการทำธุรกิจแบบ