Skip to main content

“Raising and caring for children is more like tending a garden :
it involves “a lot of exhausted digging and wallowing in manure” to create a safe,
nurturing space in which innovation, adaptability and resilience can thrive.”

The Gardener and the Carpenter

 

 “การศึกษา” โดยพื้นฐานแล้ว มุ่งก่อให้เกิดการเรียนรู้ การพัฒนาและเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนที่มีความหลากหลาย ดังนั้นโจทย์สำคัญก็คือจะทำอย่างไรที่จะทำให้เด็ก เยาวชน และคนรุ่นใหม่ เข้าถึงสิทธิเสรีภาพในการเรียนรู้และเติบโตงอกงามของตนเอง เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ขณะเดียวกันก็สามารถส่งเสียง สื่อสารมุมมองความคิด ความเชื่อ ความต้องการ และเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน และพัฒนาสังคมในฐานะพลเมืองได้ ...จากฐานความเชื่อเช่นนี้ Storytellers In Journey จึงเกิดขึ้น โดยการขับเคลื่อนของ #สาธารณะศึกษา ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.)

Storytellers คือ ใคร

Storytellers คือ คนรุ่นใหม่ที่สามารถเลือกการเรียนรู้ของตนเองได้อย่างอิสระตามความสนใจ (passion) และความตื่นรู้ของตนเอง (Insight)

คือ กระบวนการที่เชื่อมั่นว่า หากผู้เรียนสามารถเลือกการเรียนรู้ของตนเองได้แล้วนั้น การคืนอำนาจการเรียนรู้เช่นนี้ จะนำไปสู่การเติบโตงอกงามของผู้เรียน

คือ นักเล่าเรื่องที่ก้าวออกจากชั้นเรียนไปเรียนรู้นอกห้องเรียน ผลิตสื่อจากการเรียนรู้ของตนเอง สื่อที่มุ่งหมายสร้างการเรียนรู้กับสังคม สื่อที่มุ่งหมายสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่การศึกษา ...การศึกษาในความหมายของการเรียนรู้อย่างอิสระ

          Storytellers In Journey จึงเป็นการเปิดพื้นที่เรียนรู้สาธารณะสำหรับเด็ก เยาวชน และคนรุ่นใหม่ 20 คน เป็นห้องเรียนในนัยยะการเป็นพื้นที่เรียนรู้ พื้นที่ปะทะสังสรรค์ทางสังคม ที่ประกอบสร้างขึ้นความแตกต่างหลากหลาย (เชื้อชาติ วัฒนธรรม โลกทัศน์ ภาษา) ระยะเวลา 2 วัน 1 คืนกับการร่วมแบ่งปันเรื่องเล่า ประสบการณ์ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้

          เป็นปฏิบัติการเรียนรู้ทุกที่ ทุกเวลา ระยะเวลา 3 – 10 วัน ของ 19 นักเล่าเรื่อง (Storytellers) จากทั่วประเทศ กับพื้นที่เรียนรู้สาธารณะ 9 แห่ง โรงเรียนสาธิตชุมชนสมเด็จย่า วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มศว. แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ศูนย์การเรียนม่อนแสงดาวธรรมชาติวิทยา อ.เมือง จ.เชียงราย, อุตรดิตถ์ติดยิ้ม จ.อุตรดิตถ์, อโรคยาปลาบู่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม, สวนไฟฝัน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา, ศูนย์การเรียนสะเน่พ่อง อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี, กลุ่มยุวชนสร้างสรรค์ อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี, ชุมชนไทดำ อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี, ศูนย์การเรียนวิถีชุมชนไท อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช

ปฏิบัติการที่นักเล่าเรื่องทุกคนมีอิสรเสรีภาพในการเลือกการเรียนรู้ของตนเองอย่างเท่าเทียมกัน ตั้งแต่การตัดสินใจ การจัดแผนการเรียนรู้ (ความคาดหวังต่อการเรียนรู้ การออกแบบการเดินทาง และการจัดการงบประมาณ)

และสำหรับนักเล่าเรื่องบางคน ...นี่คือการออกเดินทางที่คิด ตัดสินใจด้วยตัวเองและเดินทางเพียงคนเดียวเป็นครั้งแรก

จากแผนการเรียนรู้สู่ปฏิบัติการจริง จาก Comfort Zone สู่พื้นที่เรียนรู้

นับตั้งแต่การออกเดินทางจนถึงการใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เรียนรู้สาธารณะแต่ละแห่ง นักเล่าเรื่องได้พบเจอกับสถานการณ์ที่คาดไว้และคาดไม่ถึง ได้เผชิญกับปัญหา/ ความกลัว ที่ต้องเรียนรู้ที่จะต้องรับมือและจัดการ ได้พบเจอกับผู้คนที่มีความแตกต่าง บางพื้นที่ ผู้คนมีอัตลักษณ์ วัฒนธรรมเฉพาะ บางพื้นที่มีวิถีชีวิตและความคิด ความเชื่อที่แตกต่างออกไป ทุกขณะที่อยู่ร่วมกับความแตกต่าง การเรียนรู้ที่จะปรับทัศนคติของตนเพื่อการอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจก็เกิดขึ้น

“กระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดของพื้นที่เรียนรู้สาธารณะ อาจไม่ใช่เนื้อหาสาระหลักสูตร หากแต่คือ วิถีปฏิบัติที่ผู้เรียนสามารถใช้ชีวิต ดำรงอยู่ร่วม ใช้ประโยชน์ร่วมโดยอิสรเสรี โดยไม่ต้องลดทอนความเป็นมนุษย์ เป็นตัวของตัวเอง พร้อมกับเคารพในความแตกต่างหลากหลาย การเข้าไปเรียนรู้ที่เกิดจากกระบวนการเช่นนี้ จะทำให้การเรียนรู้นั้นๆ ติดอยู่ในตัวตนยาวนาน”

หากหัวใจสำคัญของการเรียนรู้นั้น คือ การทลายกรอบทางความคิด หลุดจากกรอบที่มีใครตั้งให้ เช่นนี้เอง หัวใจสำคัญของปฏิบัติการ Storytellers In Journey จึงมุ่งสร้างกระบวนการเรียนรู้ และลงมือทำอย่างอิสระ เน้นจัดกระบวนการเรียนรู้ มากกว่ากระบวนการฝึกอบรม เน้นสร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านปฏิบัติจริงในพื้นที่เรียนรู้สาธารณะ เตรียมสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และปล่อยให้นักเล่าเรื่องทุกคนเติบโตอย่างที่เขาต้องการ

 

“มนุษย์มีความริเริ่มสร้างสรรค์ ‘creativity’ ระหว่างการเติบใหญ่ขึ้นมา เด็กจึงต้องการพื้นที่อิสระเพื่อการเรียนรู้ เพื่อจินตนาการ อันนี้คือสิ่งที่ทำให้ ‘play’ “การเล่น” เป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ของเด็ก ดังนั้น มนุษย์โดยเฉพาะในวัยเยาว์จึงต้องการ “พื้นที่” ที่จะทดลองด้วยตัวเองเสมอ

สิ่งที่เราจะทำ คือ เตรียมสิ่งแวดล้อมที่ดีให้เขา ไม่คาดหวังกับผลลัพธ์มากนัก ปล่อยวางให้เขาได้เติบโตอย่างที่ต้องการ”

 

 

 

บล็อกของ Storytellers

Storytellers
          ความว่างเริ่มเข้ามาในหัวสมองเมื่อผมกลับมาจากการตกปลาได้สักพักหนึ่ง มันส่งเสียงบอกผมว่า “เห้ย!นายต้องหาอะไรทำได้แล้วนะ”พร้อมนึกขึ้นได้ว่า เรานัดคุยกับคุณตาไว้นี่ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปบ้านคุณตา คุณตากำลังสานตะกร้าจากไม้ไผ่ไว้ใช้เองอยู่คุณตาเห็นผมด้วยท่าทางทีใจ รี
Storytellers
          เป็นค่ำคืนที่หัวถึงหมอนแล้วรู้สึกอีกทีคือตอนตื่น ผมตื่นมาอย่างตื่นเต้นเตรียมพร้อมที่จะเดินขึ้นไปดูทะเลหมอกแต่มองออกไปก็เจอแต่ความมืดมิดของค่ำคืนที่ไม่มีไฟฟ้าและก็ไม่เห็นจะมีใครตื่นมากับเรา ในใจตอนนั้นถามว่าให้เดินขึ้นไปคนเดียวกล้าไหม ก็คงตอบอย่างมั่นใจว่าไม่กล้า
Storytellers
          พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าเหล่านกกาบินร้องกลับรังก็ได้เวลาที่เรากลับมาที่โรงเรียน เพื่อเตรียมทำกับข้าว ซึ่งก็มีออเดิร์ฟมาเสิร์ฟเราถึงที่ เป็นหัวปลีคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง ทอดกรอบๆ พูดแล้วก็อยากทานอีก เพราะรสชาติมันช่างกลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างมาก โดยแม่ครัวใหญ่ของอาห
Storytellers
          เรานั่งรอคุณครูซามารับประมาณเกือบๆ 2 ชม.เพราะวันนี้ทางโรงเรียนติดส่งแขกที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ แล้วรถของคุณครูก็มาถึงเป็นรถโฟวิลยกสูงคันใหญ่ ที่ขับมาโดยเด็กหนุ่มหน้าตาอย่างกับบอยแบรนด์เกาหลี ผมสวัสดีทักทาย ในใจก็คิดว่าสงสัยครูซาคงให้ลูกศิษย์ขับรถมาแทน แต่ก็ไม่ใช่
Storytellers
          เสียงนาฬิกาปลุกปลุกผมให้ลุกจากที่นอนรีบไปอาบน้ำ ผมสะพายเป้ ออกจากบ้านด้วยอารมณ์เรียบเฉยต่างจากวันก่อนที่อยากไปมากอย่างสิ้นเชิง คงเป็นเพราะบรรยายกาศที่มีฝนตกปรอยๆ และข้อมูลการเดินทางที่มีน้อยมาก มันเลยทำให้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากการเดินทางครั้งนี้ผมนัดเจอกับชาต
Storytellers
หลังจากจบกิจกรรมในวันแรกเราทุกคนต้องนอนค้างด้วยกันและเช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องรีบแหกขี้ตาขับรถกลับบ้านเพื่อแต่งตัวไปทำงาน ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นเตรียมตัวออกเดินทางโดยตลอดการเดินทางเราจะใช้ “APP C –Site”เพื่อติดตามเรื่องราวของกันและกัน ความรู้สึกที่เราต้องนั่งหงอยๆทำงานอยู่หน้าคอมทั้งที่เพื่อนคนอื่นออก
Storytellers
          ชีวิตในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวายเร่งรีบของใครคนหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไรจากเมืองกรุงแห่งนี้จนเลื่อนมือถือไปๆมาๆเจอโพสหนึ่ง “เปิดรับเยาวชนนักเล่าเรื่องที่สนใจจะไปเที่ยว!
Storytellers
ก่อนได้ไปลงพื้นที่ที่สะเนพ่องเราได้ไปค่ายนักเล่าเรื่องในที่อื่น(Storytellers in Journey) ที่มูลนิธฺเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปซึ่งทำให้เราได้เจอกับพี่ๆหลายๆคนและทุกๆคนน่ารักมาก แต่ในระยะเวลาที่เราได้อยู่ค่ายนั้นมันมีแค่ 2 วันคือวันที่7-8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 แล้วในตอนนั้นผมก็ยังมีโครงการของผมที่ยังต้องไ
Storytellers
บัติ-ใจ-สู้  สามคำที่อยากแนะนำตัวเองให้ทุกคนได้รู้จัก  “บัติ”  มาจากชื่อจริงชื่อ  สมบัติ  แก้วเนื้ออ่อน  “ใจ”  มาจากสิ่งที่เริ่มทำในชีวิตส่วนใหญ่มักเริ่มต้นมาจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นผ่านใจ  ถ้าใจอยากทำ  ยังไงก็จะทำต่อไปจนสำเร็จให้ได้  ส่
Storytellers
ต่างคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การเดินทางคือการซื้อประสบการณ์ที่ได้รับเงินทอนเป็นความสุข เป็นคำพูดที่มีความจริงเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากแต่บางครั้งเงินทอนที่ได้รับอาจจะมาในรูปแบบที่โหดร้ายได้เหมือนกัน เพราะการเดินทางไปในแต่ละที่มักจะได้ประการณ์ที่ไม่เหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่า
Storytellers
          ผมได้เข้าร่วมโครงการ Storytellers in journey ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ผมได้ออกเดินทางไปเรียนรู้อะไรใหม่ตามที่ต่างๆ และผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังบ้านปลาบู่ จังหวัดหมาสารคาม เพื่อไปดูการจัดการธุรกิจแบบ Social Enterprise เพราะผมได้รู้มาว่าที่นั้นมีการทำธุรกิจแบบ