Skip to main content
หลังได้รับมอบหมายให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินภาพวาดของเด็กๆ ที่ประกอบไปด้วยเด็กจากช่วงชั้นต่างๆ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ของโรงเรียนบ้านคกเว้า ตำบลหาดคำภีร์ อำเภอปากชม จังหวัดเลย ข้าพเจ้าเองแบ่งรับแบ่งสู้ในตอนแรก เพราะโดยส่วนตัวแล้วการเป็นกรรมการประเภทนี้มีเงื่อนไขหลายอย่าง สำคัญกรรมการควรมีความรู้ทางศิลปะมาบ้าง เพื่อให้ผลการตัดสินออกมาดูน่าเชื่อถือ แต่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ข้าพเจ้าไม่มีความรู้ทางศิลปะเอาเสียเลย อย่างมากก็พอรู้ว่ารูปไหนสวยไม่สวย ซ้ำร้ายเรื่องของทฤษฏีสีแล้ว ข้าพเจ้าไม่รู้เอาเสียเลย แม้จะเคยลองวาดรูปอยู่บ้าง แต่ก็งูๆ ปลาๆ ความวิตกกังวลนานัปประการถาโถมเข้ามาจนแทบนอนไม่หลับ ข้าพเจ้าเองไม่รู้ว่ากรรมการที่ถูกแต่งตั้งอีก ๔ คนจะเป็นดุจเดียวกับข้าพเจ้าหรือเปล่า หลังการประชุมในเรื่องของการชี้ขาดผลการตัดสินจบลง ข้าพเจ้าก็พอเบาใจได้ เพราะ ๓ ใน ๕ เสียงที่ลงมติกันถือว่าชี้ขาดในการตัดสิน


เมื่อภาพวาดจากฝีมือของเด็กๆ หลายช่วงชั้นจำนวนมากวางอยู่เบื้องหน้า ข้าพเจ้าและกรรมการคนอื่นๆ ได้ช่วยกันดู และบางคนคงแอบเลือกภาพในดวงใจเอาไว้แล้ว ภาพวาดจำนวนมากถูกนำมาติดลงบนกระดาษแข็งสีขาว เพื่อให้ดูเด่นขึ้นมา เพราะพรุ่งนี้ภาพเหล่านี้จะถูกนำไปจัดแสดงกลางแจ้งให้ผู้ปกครอง และคนที่มาร่วมงานวันเด็กได้ดู




 





  

ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าภาพวาดถูกติดลงบนกระดาษใช้เวลานานเท่าใดจึงแล้วเสร็จ แต่พอถึงตอนเช้า ข้าพเจ้าก็ได้เห็นภาพเหล่านั้นถูกนำออกมาแสดงใต้ต้นสักใหญ่ที่ปลูกในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เมื่อภาพติดตั้งเสร็จ กรรมการบางคนก็เดินดูภาพวาดเหล่านั้น แต่ข้าพเจ้าในฐานะกรรมการคนหนึ่งกับทำหน้าที่ได้ไม่ดี ด้วยเพราะต้องนำกิจกรรมกลางแจ้งทั้งเล่นเกมส์ ทั้งร้องเพลง คะแนนเสียงที่ข้าพเจ้าต้องลงมติจึงถูกยกไปให้คนอื่นทำหน้าที่แทน

เวลาล่วงเข้าไปใกล้เที่ยง กิจกรรมกลางแจ้งเริ่มเบาลง ข้าพเจ้าจึงได้มีโอกาสเดินดูภาพวาดของเด็กๆ โดยหัวข้อในการวาดภาพในครั้งนี้คือ ‘แม่น้ำโขงในใจฉัน' หลังเดินดูภาพจำนวนมากเสร็จ ข้าพเจ้าก็หวนคิดถึงเรื่องในวงสนทนาตอนกลางคืน การสนทนาในตอนกลางคืนคือการถกเถียงกันถึงเรื่องการลงคะแนน และการตัดสิน บทสรุปของการถกเถียงได้ข้อยุติว่า เด็กที่ส่งภาพเข้าประกวดทั้งหมดจะได้รับรางวัลลดหลั่นกันไป แต่รางวัลชนะเลิศจะมีเพียงรางวัลเดียว และภาพวาดทั้งหมดจะไม่นำมาตัดสินรวมกัน เพราะเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ย่อมวาดรูปได้ไม่เท่าเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เมื่อเป็นดังนี้การให้รางวัลจึงถูกจัดแบ่งไปตามช่วงชั้น

หลังเห็นผลการตัดสินติดอยู่กับรูปภาพแต่ละรูป ข้าพเจ้าก็ได้ข้อคิดบางอย่างว่า ภาพที่เด็กๆ วาดออกมานั้น ล้วนออกมาจากมุมมองของเด็กที่พวกเขาพบเห็น ทั้งภาพของเรือใหญ่ติดธงชาติของสปป.ลาว ทั้งภาพของคนหาปลา ภาพปลา ภาพแก่งๆ ต่าง สิ่งที่เด็กๆ ได้แสดงออกมานั้นล้วนสื่อให้เราผู้ใหญ่ที่เป็นคนต่างบ้านต่างเมืองได้เห็นว่า แม่น้ำโขงที่พวกเขาเห็นมีสิ่งเหล่านี้อยู่จริง

ในภาพวาดบางภาพได้แสดงให้เห็นถึงความอุดสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และสัตว์น้ำน้อยใหญ่ รวมทั้งผู้คนที่ได้พึ่งพาแม่น้ำสายนี้ หากจะกล่าวว่า แม่น้ำโขงคือห้องเรียนศิลปะของเด็กๆ ก็คงไม่ผิด และที่สำคัญในสายตาของศิลปินตัวน้อย พวกเขาคงไม่ได้รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำอันเป็นห้องเรียนศิลปะขนาดใหญ่ของพวกเขา ถ้าหากพวกเขาได้รับรู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับห้องเรียนศิลปะที่ไม่มีโต๊ะ แต่มีแก่งหิน และหาดทรายเป็นที่นั่งแทนโต๊ะ เด็กๆ คงจะวาดรูปอย่างอื่นที่นอกเหนือจากสิ่งที่พวกเขาเห็น

ก่อนผู้ใหญ่หลายคนจะเดินทางกลับจากบ้านโรงเรียนบ้านคกเว้า หลายคนแอบบ่นเบาๆ ไม่ให้เด็กได้ยินว่า ต่อไปภาพวาดของเด็กๆ คงจะมีแต่ภาพเขื่อนแน่ๆ เพราะโรงเรียนของพวกเขาจะต้องถูกย้ายเมื่อการก่อสร้างเขื่อนปากชมเริ่มขึ้น ในอนาคตภาพวาดของเด็กๆ จากโรงเรียนบ้านคกเว้าคงไม่แตกต่างจากภาพวาดของเด็กๆ จากแม่น้ำมูลเท่าใดนัก

เราในฐานะผู้ใหญ่อยากให้ภาพวาดของเด็กเป็นอย่างไร เราน่าจะมีคำตอบร่วมกันได้ในไม่ช้านี้ คุณว่าจริงไหม แต่ข้าพเจ้าว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นจริง ผู้ใหญ่อย่างเราอย่าพากันทำร้ายแม่น้ำโขงในมุมมองของเด็กเลยครับช่วยกันรักษาแม่น้ำโขงอันเป็นห้องเรียนศิลปะขนาดใหญ่เหล่านี้ไว้ให้เด็กๆ ได้ร่ำเรียนกันต่อไปเถอะ


บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
    ...เสียงปืนดังลั่นเปรี้ยง-คล้ายเสียงชะนีหวน
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมเริ่มพัดเปลี่ยนทิศจากเหนือลงใต้ ฤดูฝนใกล้พ้นผ่านแล้ว ฤดูหนาวกำลังเดินทางมาแทน ขณะอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าถัดจากกระท่อมหลังสุดท้ายตรงหาดทรายไปไม่ไกล คนจำนวนมากกำลังวุ่นวายอยู่กับการเก็บเครื่องมือทำงาน หากนับตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ก็ล่วงเข้าไป ๔ วันแล้วที่ช่างในหมู่บ้านถูกไหว้วานให้มาช่วยกันทำเรือไฟ เพื่อให้ทันใช้ในวันออกพรรษา หลังจมอยู่กับงานมาทั้งวัน เมื่อโรงงานต่อเรือไฟปิดประตูลงในตอนเย็น โรงมหรสพริมฝั่งน้ำก็เข้ามาแทน
สุมาตร ภูลายยาว
แม่น้ำนิ่งงันลงชั่วการกระพริบตาของพญามังกร ชาวบ้านริมฝั่งน้ำไม่มีใครรู้ว่า พญามังกรกระพริบตากี่ครั้ง หรือด้วยอำนาจใดของพญามังกร แม่น้ำจึงหยุดไหล ทั้งที่แม่น้ำเคยไหลมาชั่วนาตาปี วันที่แม่น้ำหยุดไหล คนหาปลาร้องไห้ปานจะขาดใจ เพราะปลาจำนวนมากได้หนีหายไปจากแม่น้ำ
สุมาตร ภูลายยาว
แดดร้อนของเดือนมีนาคมแผดเผาหญ้าแห้งกรัง หน้าร้อนปีนี้ร้อนกว่าทุกปี เพราะฝนไม่ตก ยอดมะม่วงอ่อนจึงไม่ยอมแตกช่อ มะม่วงป่าเริ่มออกดอกรอฝนพรำ เพื่อให้ผลได้เติบโต ความร้อนมาพร้อมกับความแห้งแล้ง ในความแห้งแล้ง ดอกไม้ป่าหลากสีกำลังผลิบาน มีทั้งดอกสีส้ม แดง ม่วง ความแห้งแล้งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
สุมาตร ภูลายยาว
‘ย่างเข้าเดือนห้า น้ำท่าก็เริ่มขอดแล้ง’ คนแก่บางคนว่าอย่างนั้น (ถ้าผมจำไม่ผิด) คำพูดนี้ได้สะท้อนบางอย่างออกมาด้วย นั่นคือสิ่งที่ผู้คนในยุคสมัยก่อนเห็น พอถึงเดือนห้า น้ำที่เคยมีอยู่ก็แห้งขอดลงเป็นลำดับ ผู้คนในสมัยก่อนที่จะก้าวเข้าสู่สังคมเกษตรอุตสาหกรรมเช่นทุกวันนี้ทำอะไรบ้าง ในสังคมภาคกลางยุคที่ทำการเกษตรไม่ใช่อุตสาหกรรม หน้าแล้งไม่มีใครทำนา เพราะทุกคนต่างรู้ว่า หน้าแล้งแล้วนะ น้ำท่าจะมาจากไหน แต่พอยุคอุตสาหกรรมเกษตรเรืองอำนาจ หน้าแล้งผู้คนก็ยังคงทำนา เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมการเกษตรกันอยู่
สุมาตร ภูลายยาว
ผู้ดีตีนแดง-ขอ โทษ เท้าแดง ตะแคงเท้าเดิน เวลาเหยียบปุ่มปมของพรมผืนนุ่มนิ่มราวกับปุยเมฆ นั่นแหละเท้าของผู้ดี และโลกของผู้ดีมีแต่น้ำครำ –น้ำคำ แห่งการหลอกลวง ทั้งผู้ดีจริง และผู้ดีกลวง ขณะเดินย่ำไปบนเส้นทางสู่ร้านอาหารเลิศหรู เมนูไข่คาเวียกับบรั่นดีแก้วทรงสูงดัดจริตวางรอ ผู้ดีน้ำครำละเลียดเมรัยรสคมผ่านลำคอ และละเลียดไข่คาเวียที่มีอยู่นับจำนวนได้บนจานราคาแพงกว่าการขึ้นห้องกับปอง ของโฉน ไพรำ ผู้ดี น้ำครำมองออกไปนอกหน้าต่างสูงลิบของห้องอาหารโรงแรมเสียดฟ้า เบื้องล่างแม่น้ำไหลเอื่อยเหนื่อยปานจะขาดใจตาย ผู้ดีน้ำครำละเลียดไข่คาเวียราคาแพง เพื่อเลิศหรูมีหน้ามีตา…
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมหนาวพัดมาพร้อมกับสายฝนที่โปรยสายลงมา ว่ากันว่านี่คือฝนหลงฤดู! กาแฟแก้วของวันเป็นคาปูชิโน่ร้อนสองแก้ว แต่ไม่ใช่ของผมเป็นของลูกค้าต่างชาติ รสชาติของกาแฟเป็นอย่างไรในเช้านี้ ผมไม่อาจรู้ เพราะไม่ได้ชิม หลังสตรีมนมสดจนร้อนได้ที่ กลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่นโชยออกมา และพร้อมแล้วสำหรับการดื่ม-กิน
สุมาตร ภูลายยาว
เนิ่นนานหลายปีแล้วที่ผมพเนจรจากบ้านเกิด แต่หลายๆ ความรู้สึกเกี่ยวกับบ้าน ผมไม่มีทางลืมได้เด็ดขาด บางค่ำคืนที่มีโอกาสอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง ด้วยความสงบเงียบ ภาพบ้านเกิดจะย้อนกลับมาสู่ความทรงจำ-ความทรงจำในวัยเยาว์เกี่ยวกับบ้านเกิด
สุมาตร ภูลายยาว
เวลาผ่านไปเร็ว ยามที่เราโตขึ้น เราเชื่อเช่นนั้น เพราะเราโหยหาเวลาของวัยเยาว์ เมื่อเราเติบโตขึ้นเป็นลำดับมีหลายความรู้สึกของวัยเยาว์ที่หล่นหายไปอย่างไม่อาจเรียกคืนกลับมา ราวกับสายน้ำที่ไหลไกลออกไปทุกทีๆ มิอาจหวนกลับมาเป็นสายน้ำได้เช่นเดิม แต่กลายเป็นสายฝนพรำลงมาแทน หากพูดถึงอดีตแล้ว บางด้านที่เลวร้าย เราอยากผ่านเลย แต่กลับจำได้ฝังใจ...
สุมาตร ภูลายยาว
บุนทะนอง ซมไซผล แปลโดย สุมาตร ภูลายยาว    ๑.ผลน้ำเต้าบุ่ง และวรรณคดีพื้นเมือง ถ้าจะให้พูดถึงความสัมพันธ์ไทย-ลาว ความเชื่อมโยงด้านวรรณคดีของชนชาติเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำของ สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าคิดถึงคือ น้ำเต้าบุ่ง
สุมาตร ภูลายยาว
ดอกเกดเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ลำต้นมีลักษณะเหมือนต้นปาล์ม เวลาออกดอก ดอกจะส่งกลิ่นหอม คนเฒ่าคนแก่จะนิยมนำไปบูชาพระและนำมาทัดหู ผมไม่รู้เหมือนกันว่าดอกไม้ชนิดนี้จะมีอยู่ทั่วไปในประเทศไทยหรือมีเฉพาะที่ภาคอีสานและประเทศลาว
สุมาตร ภูลายยาว
จากใบไม้ใบสุดท้ายถึงซิ่นไหมผืนเก่าๆ: ๒ เรื่องสั้นซีไรต์บนแผ่นดินเบื้องซ้ายแม่น้ำของ (โขง) เมื่อพูดถึงวรรณกรรมบนแผ่นดินฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแล้ว หลายคนคงอดที่จะพูดถึงวรรณกรรมชิ้นคลาสสิกเช่น ‘สังสินไซ’ ไม่ได้ เพราะสังสินไซเป็นวรรณกรรมพื้นบ้านที่คนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงรู้จักมากที่สุดชิ้นหนึ่ง นอกจากสังสินไซแล้ว ผลงานของนักเขียนลาวหลายคนในความรับรู้ของคนไทยคงหนีไม่พ้นผลงานเขียนของท่านมหาสีลา วีระวงค์ ผู้รจนางานมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ในนาม ‘ท้าวฮุ่งและขุนเจือง’