Skip to main content

เวลาผ่านไปเร็ว ยามที่เราโตขึ้น เราเชื่อเช่นนั้น เพราะเราโหยหาเวลาของวัยเยาว์ เมื่อเราเติบโตขึ้นเป็นลำดับมีหลายความรู้สึกของวัยเยาว์ที่หล่นหายไปอย่างไม่อาจเรียกคืนกลับมา ราวกับสายน้ำที่ไหลไกลออกไปทุกทีๆ มิอาจหวนกลับมาเป็นสายน้ำได้เช่นเดิม แต่กลายเป็นสายฝนพรำลงมาแทน หากพูดถึงอดีตแล้ว บางด้านที่เลวร้าย เราอยากผ่านเลย แต่กลับจำได้ฝังใจ...
\\/--break--\>

ผมก็ไม่ต่างอะไรจากคนอื่นเท่าใดนักที่มักโหยหาอดีตในวัยเด็ก ยิ่งในบางฤดูกาลโดยเฉพาะวันเปิดเทอมแรกของปี โรงเรียนในชนบทวันเปิดเทอมแรกของปีอาจไม่ต้องเตรียมตัวมากเหมือนกับโรงเรียนในเมือง เสื้อผ้าที่มีอยู่บางตัวก็ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ รวมทั้งกระเป๋านักเรียน สำหรับบางคนการได้เสื้อนักเรียนชุดใหม่ รองเท้าใหม่สักคู่นั้นถือว่าทางบ้านมีฐานะ เพราะเท่าที่จำความได้ ผมได้ใส่รองเท้าไปโรงเรียนก็ตอนเริ่มเรียนลูกเสืออันเป็นข้อบังคับว่าทุกคนต้องมีรองเท้า แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับนักเรียนบางคน...

วันเปิดเทอมวันแรกอาจมาพร้อมกับสายฝน สำหรับเด็กที่เพิ่งเข้าเรียนวันแรก การไปโรงเรียนอาจดูเป็นเรื่องน่ากลัว แต่สำหรับคนที่ผ่านมาแล้ว และเตรียมเลื่อนชั้นต่อไปไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น โรงเรียนเดิม อาคารหลังเดิม เพียงแต่เปลี่ยนชั้นเรียนและห้องเรียนเท่านั้น

ผมจำวันเปิดเทอมแรกของชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ได้เป็นอย่างดี วันแรกของการเปิดเทอม แม่นำเสื้อนักเรียนตัวใหม่มาให้ ทั้งที่ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้มาก่อน เนื้อผ้านุ่มแต่ดูหน้ากว่าเสื้อนักเรียนที่เคยใส่ และแน่ละสีของเสื้อย่อมไม่ขาวเหมือนเสื้อคนอื่น ตอนที่ใส่เข้าไปแล้วพอไปถึงโรงเรียน ผมยังแอบน้อยใจแม่ที่ไม่ยอมซื้อเสื้อใหม่ให้ใส่ แต่เอาเสื้อเก่าของคนอื่นมาให้ใส่แทน

ตอนที่ผมเห็นแม่เริ่มเก็บดอกฝ้ายในสวนหลังบ้านมาเป็นกระสอบนั้น ผมถามแม่ว่าจะเอาไปทำไม แม่บอกว่า จะเอามาทำเสื้อนักเรียนให้ผมใส่ ในวัยเด็กผมไม่รู้หรอกว่าฝ้ายในสวนหลังบ้านที่ผมเคยไปวิ่งเล่น และแอบเก็บปุยสีขาวคล้ายนุ่นที่ดอกของมันมาเป่าเล่นตามลม สวนฝ้ายหลังบ้านเป็นมากกว่าสวยฝ้าย นอกจากมันจะเป็นที่หลบซ่อนตัวของพวกเราในเวลาเล่นซ่อนหาแล้ว ยังเป็นที่หลบภัยของเพื่อนบางคนที่ถูกแม่ไล่ตี

เพียงวันแรกที่ผมใส่เสื้อตัวนั้นไปโรงเรียน ความอับอายมหาศาลก็เกิดขึ้นในใจ เพราะเสื้อของผมขาวไม่เท่าเสื้อคนอื่น บางวันก็เลยถูกเพื่อนล้อว่า ไอ้เสื้อขาวดำ' เป็นที่สนุกสนาน จากวันแรกที่ผมใส่เสื้อตัวนั้นจนถึงวันเวลาแห่งการลาจากผมจำได้ว่าผมใส่อยู่เกือบ ๒ ปี จากชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จนขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เสื้อผ้าฝ้ายที่แม่ทอนั้นมีความเปื่อยหยุ่นละขาดง่ายกว่าเสื้อผ้าในตลาด ทุกครั้งที่เกิดรอยขาด แม่จะนำผ้ามาประชุนให้กลับมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเช่นเดิม ทุกครั้งที่เสื้อขาด ผมจะถามแม่เสมอว่า เมื่อไหร่ผมจะได้เสื้อใหม่เสียที

แล้ววันหนึ่งผมก็ได้เสื้อนักเรียนตัวใหม่สมใจ แม้จะได้ความขาวเหมือนคนอื่น แต่ผมกลับพบว่าเสื้อตัวใหม่ไม่ได้อุ่นเหมือนตัวเก่า ละเสื้อนักเรียนตัวเก่าอันเกิดมาจากฝ้ายจากสวนหลังบ้านก็ถูกลืมเลือนไปกับกาลเวลาของเสื้อนักเรียนตัวใหม่

ผมไม่ได้สนใจเสื้อนักเรียนผ้าฝ้ายตัวนั้นอีกเลยจนกระทั่งวันหนึ่งขณะเดินทางไปดูนิทรรศการเกี่ยวกับผ้าฝ้ายพื้นเมือง ผมก็หวนคิดถึงเสื้อนักเรียนตัวนั้นอีกครั้ง ผมตัดสินใจซื้อผ้าขาวผืนหนึ่งในราคาค่อนข้างสูง เพื่อเอากลับไปตัดเป็นเสื้อนักเรียน เปล่าหรอผมไม่ได้ใส่เอง แต่ผมเอาเสื้อนักเรียนตัวนี้ไปให้ความคิดถึงในวัยเด็กของผมสวมใส่เท่านั้นเอง

แม้ว่าผมจะได้เสื้อนักเรียนสีเดิมกลับมาอีกครั้ง แต่ความรู้สึกเดิมที่เคยมีก็ไม่อาจเรียกกลับมาได้ วัยเยาว์ของเราทำให้เราไม่ได้ครุ่นคิดถึงเรื่องราวดีงามที่เกิดจากความรัก เช่นกัน แม้ว่าเสื้อนักเรียนตัวใหม่จะมีลักษณะคล้ายเดิมเพียงใด แต่การกลับมาของเสื้อนักเรียนก็ไม่ทำให้ผมอุ่นใจและอบอุ่นทุกครั้งที่คิดถึงเสื้อนักเรียนตัวนั้นที่แม่เก็บฝ้ายจากสวนหลังมามาเข้าสู่กระบวนการต่างๆ จนสำเร็จเป็นเสื้อนักเรียนตัวหนึ่ง

แน่ละ การทักทอผ้าของมันแต่ละเส้นด้ายย่อมเต็มไปด้วยเส้นด้านแห่งความรัก ความผูกพัน ความปรารถนาดีที่ต้องการส่งผ่านมาถึงลูก ในยามฤดูหนาวเสื้อผ้าฝ้ายของแม่ก็ไม่ต่างจากอ้อมกอดอันอบอุ่นของแม่ที่โอบกอดลูกรักเอาไว้ด้วยเส้นใยแห่งความรัก

วันนี้เราคิดถึงเรื่องราวในอดีตแล้วอย่าลืมคิดถึงแม่ผู้ถักทอความรักผ่านสายใยแห่งความผูกพันไปให้ลูกผู้เป็นสายใยแห่งความผูกพันอันใหญ่หลวงของแม่...

 

บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
จากประวัติศาสาตร์ที่มีการบันทึกทั้งเป็นอักษร และไม่มีอักษร การสร้างเขื่อนเพื่อกักเก็บน้ำ และทำกิจกรรมอย่างอื่นมีมาหลายร้อยปีแล้ว หากนึกถึงเขื่อนหลายคนอาจนึกถึงสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ขวางกั้นลำน้ำ และเมื่อนึกถึงเขื่อน เรานึกถึงอะไรเกี่ยวกับเขื่อนบ้าง แน่ละบางคนอาจตอบว่าไฟฟ้า บางคนอาจตอบว่าสถานที่ท่องเที่ยวรวมไปถึงน้ำเพื่อการเกษตร แต่สิ่งหนึ่งที่เราลืมนึกถึงไปเมื่อพูดถึงเขื่อน คือเรื่องราวเล็กๆ ในบริเวณสร้างเขื่อน ทั้งเรื่องของป่าไม้ ที่ดิน สัตว์ป่า และรวมไปถึงเรื่องราวของผู้คนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ก่อการสร้างเขื่อน “ทองปาน”…
สุมาตร ภูลายยาว
เราต่างรู้ชัดแจ้งเห็นจริงว่า บนดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าโลก อันมีสันฐานเป็นทรงกลมคล้ายผลส้มใบนี้มีน้ำมากกว่าพื้นดิน แต่สิ่งหนึ่งที่เราหลายคนอาจไม่รู้คือ เรื่องการแบ่งพรมแดนแผ่นดินโดยใช้แม่น้ำเป็นเส้นแบ่ง คนในยุคสมัยก่อนคิดได้ยังไงว่า แม่น้ำส่วนไหนเป็นของประเทศใด เพราะธรรมชาติแม่น้ำมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา    ในเอเชียของเรามีแม่น้ำหลายสายที่ถูกขีดแบ่งเป็นเส้นพรมแดน ไม่ว่าจะเป็นเส้นแบ่งหมู่บ้านกับหมู่บ้าน ตำบลกับตำบล จังหวัดกับจังหวัด และประเทศกับประเทศ และบ่อยครั้งที่การแบ่งแม่น้ำออกเป็นพรมแดน คนที่อยู่ริมน้ำไม่เคยได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง…
สุมาตร ภูลายยาว
“มื้ออื่นไปแต่เช้าเด้อ เดี๋ยวพ่อสิไปเอิ้นดอก” ถ้อยคำสุดท้ายของชายวัย ๖๐ กว่าที่นั่งอยู่ในบ้านดังแว่วออกมา ขณะเรากำลังเดินจากกระท่อมของพ่อเฒ่ามา หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปไม่นาน หมู่บ้านจมอยู่ในความมืด ถ้าเป็นเมื่อ ๑๐ กว่าปีก่อนในตอนเย็นเช่นนี้หมู่บ้านจะเงียบกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนในหมู่บ้านยังไม่ได้เดินทางกลับมาจากไร่
สุมาตร ภูลายยาว
หลังมุ่งแก้ปัญหาการขาดน้ำใช้ในฤดูแล้งมาตลอดระยะเวลา ๒ ปี ชาวบ้านหลวงบางส่วนจึงมุ่งหน้าเดินทางขึ้นสู่ภูเขา เพื่อไปสู่ขุนห้วย ผู้ชายบางคนถือมีด บางคนถือจอบ ผู้หญิงหาบเครื่องครัวทั้งพริก ถ้วย ชาม เดินตามทางเดินเล็กๆ มุ่งหน้าสู่จุดหมายเดียวกัน เสียงดังมาจากเบื้องหน้าให้เร่งฝีเท้าในการเดินทางขึ้นอีก เพราะเป้าหมายใกล้ถึงแล้วชาวบ้านเหล่านี้เดินทางเพื่อไปสู่เป้าหมายใดกัน เมื่อขบวนเดินทางพ้นจากที่ราบอันเป็นไร่ข้าวโพดไปแล้วก็มุ่งหน้าขึ้นสู่ขุนห้วยอันเป็นต้นกำเนิดของห้วยหลวง ที่ขุนห้วยมีชาวบ้านบางส่วนเดินล่วงหน้าไปรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อขบวนใหญ่เดินมาสมทบในภายหลัง พิธีการบูชาเทพแถนผีป่าผีน้ำก็เริ่มขึ้น…
สุมาตร ภูลายยาว
ลำเซียงทาล่องไหลมาเนิ่นนาน.....ทานทน ฝน-ร้อน-หนาวปล่อยไอหมอกขาวลอยล่องสู่ท้องฟ้าเมฆมหึมาก่อฝน....เหนือโป่งขุนเพชรในหุบห้วยล้วนร่องธารที่ผ่านมาเวลานาฑีไม่มีใครรู้เพียงกระพริบไหวของสายตาแห่งหมู่เมฆลมโยกเยกฝนใหญ่โปรยปรายลำเซียงทามาจากหุบห้วยใหญ่ไหลล่องผ่านปี-เดือนไผ่ไหวเหนือสายน้ำลำเซียงทายามลมผ่านผิวปลิดปลิวเคว้งคว้างพลิ้วไหวอ่อนโยนลำเซียงทาโอบอุ้ม-อุ่นเอื้อโป่งขุนเพชร,เทพสถิตย์, ชัยภูมิ ,๒๕๔๗
สุมาตร ภูลายยาว
แม่น้ำเกิดมาจากสายฝน-สายฝนเกิดจากแม่น้ำ นานมาแล้วต้นกำเนิดของแม่น้ำ และสายฝนมาจากที่เดียวกัน ทุกสิ่งล้วนสัมพันธ์เชื่อมโยง เช่นเดียวกับแม่น้ำสายใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในแถบอีสานใต้ แม่น้ำสายนี้ชื่อว่า ‘แม่น้ำมูน’ มีต้นกำเนิดจากสายน้ำเล็กๆ บริเวณเขาแผงม้า จังหวัดนครราชสีมา หลังจากนั้นก็ไหลเรื่อยผ่านสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ก่อนไหลลงบรรจบกับแม่น้ำโขงที่บริเวณแม่น้ำสองสีในอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ลำน้ำสายยาวได้หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนมาหลายชั่วอายุคน ตั้งแต่หลายปีตลอดการไหลของแม่น้ำมีเรื่องราวหลายเรื่องเกิดขึ้น…
สุมาตร ภูลายยาว
ฉันเคยสงสัยอยู่ว่า คนเราเมื่อเดินทางไกลข้ามคืนข้ามวัน เราล้วนได้รับความเหนื่อยล้า แต่เมื่อไปถึงปลายทาง เราจะสลัดทิ้งความเหนื่อยล้าได้ยังไง คำถามเช่นนี้ไม่เคยเป็นคำตอบเลยสำหรับฉัน เพราะบ่อยครั้งที่เริ่มต้นเดินทางไกล–อันหมายถึงระยะทาง ทุกครั้งเมื่อถึงจุดหมาย ฉันหวังเพียงได้เอนตัวลงพักพอหายเหนื่อยแล้วค่อยคลี่คลายชีวิตไปสู่ทิศทางอย่างอื่น แต่นั้นก็เป็นเพียงความคิดที่วูบเข้ามา ความจริงการจะทำเช่นนั้นไม่เคยเกิดขึ้นเลย โดยเฉพาะกับการเดินทางครั้งนี้ หลังรถโดยสารปรับอากาศสายเชียงใหม่-อุบลราชธานี พาผู้โดยสารออกเดินทางยาวนานถึง ๑๗ ชั่วโมงจอดสงบนิ่งลงที่ท่ารถห่างออกมาจากตัวเมือง…
สุมาตร ภูลายยาว
พ่อเฒ่าฟาน ดิน กัน แห่งหมู่บ้านทรีอาน (หมู่บ้านแห่งสันติ) หมู่บ้านริมแม่น้ำซมฮอง (แม่น้ำแดง) เส้นเลือดใหญ่ของชาวฮานอยยืนตระหง่านบนหัวเรือ หากไม่มีการถามไถ่คงยากที่จะคาดเดาอายุของพ่อเฒ่าได้ ปีนี้พ่อเฒ่าอายุ ๖๔ แล้ว ขณะพ่อเฒ่ายืนตระหง่านตรงหัวเรือ สายลมหนาวของเดือนมกราคมยังคงพัดมาเย็นเยือก ในสายลมหนาวนั้นมีฝนปนมาเล็กน้อย พ่อเฒ่าบอกว่า ฝนตกช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคมที่ฮานอยเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือความหนาว เพราะปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปี ๕๑ ความหนาวเย็นที่พัดมาขนาดหนักเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว ๓ ครั้ง ว่ากันว่าอากาศที่เปลี่ยนแปลง คงเป็นเพราะโลกเรามันร้อนขึ้นในเรือมีผม และเพื่อนร่วมทางอีก ๒ คน…
สุมาตร ภูลายยาว
หลังการเดินทางอันเหนื่อยล้าด้วยการล่องเรือข้ามวันข้ามคืนในแม่น้ำโขงสิ้นสุดลง ผมพบว่าตัวเองกลายเป็นคนติดการฟังเป็นชีวิตจิตใจ บางครั้งในยามเย็นที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ (ขออภัยที่ไม่ใช้จักรยาน เพื่อการประหยัดพลังงาน) ไปซื้อกับข้าว ผมพบว่า รถเข็นขายอาหารสำเร็จรูปจำพวกแกงถุงของลุงรัญเจ้าเก่าในซอยวัดโป่งน้อยมีเรื่องเล่าหลายเรื่องให้ผมต้องนิ่งฟังเรื่องเล่าหลายเรื่องที่ผู้ซื้อนำมาเล่าให้พ่อค้าฟัง และหลายเรื่องเช่นกันที่พ่อค้าได้นำมาเล่าให้ลูกค้าฟัง บางเรื่องที่ผมได้ยิน ผมก็เลยผ่านเลยไป แบบว่าฟังพอผ่านๆ แต่บางเรื่องต้องนำกลับมาคิดต่อ…
สุมาตร ภูลายยาว
แม่น้ำโขงถือว่าเป็นแม่น้ำแห่งพรมแดนสายสำคัญที่ไหลเป็นเส้นแบ่งของหลายประเทศมีผู้คนจำนวนไม่น้อยได้ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำสายนี้  ในจำนวนของคนริมสองฝั่งแม่น้ำโขงมีคนจำนวนไม่น้อยรับรู้ได้ว่า วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่น้ำสายที่พวกเขาคุ้นเคย ฤดูหนาวแม่น้ำสีคล้ายน้ำโอวันติลไหลเอื่อยๆ เหมือนคนหายใจรวยรินใกล้สิ้นลมหายใจเต็มที แม่น้ำไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อนที่เคยเป็นมา เมื่อรับรู้ความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ชาวบ้านห้วยลึก หมู่ ๔ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายที่ได้อาศัยประโยชน์จากแม่น้ำมาหลายชั่วอายุคนจึงได้รวมตัวกันทำพิธีสืบชะตาให้กับแม่น้ำ…
สุมาตร ภูลายยาว
“สาละวินไม่มีคน” คือคำพูดของบรรดานักพัฒนาผู้แสวงหากำไรบนหนทางของการพัฒนาลุ่มน้ำแห่งนี้ได้ยกขึ้นมาบอกกล่าวจนชินหู แต่หากได้ลงมาล่องเรือเลียบเลาะสายน้ำชายแดนแห่งนี้ จะพบว่าแม่น้ำนานาชาติสายที่ยาวที่สุดในภูมิภาคอุษาคเนย์ที่ยังคงไหลอย่างอิสระแห่งนี้เป็นบ้าน เป็นชีวิตของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในผืนป่าตลอดสองฝั่งน้ำงานวิจัยปกากญอ “วิถีแม่น้ำและผืนป่าของปกากญอสาละวิน” ได้จัดทำโดยนักวิจัยชาวบ้าน ปกากญอ หรือชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงจาก ๕๐ หย่อมบ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวินบนพรมแดนไทย-พม่า เขต อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน…
สุมาตร ภูลายยาว
ลมหนาวพัดข้ามมาจากขุนเขา บางคนบอกว่าลมหนาวพัดมาจากไซบีเรีย ซึ่งสังเกตได้จากการดูนกอพยพหนีหนาวมา บางคนก็บอกว่าลมหนาวพัดมาจากเทือกเขาสูงของประเทศจีน เมื่อลมหนาวมาเยือน เพียงต้นฤดูหนาวเช่นนี้ก็สามารถสัมผัสได้ทางผิวกายที่เริ่มแห้งลงเรื่อยๆ และป่าเริ่มเปลี่ยนสีพร้อมผลัดใบไปกับลมแล้งในความหนาวเย็นนั้น เขาเดินทางรอนแรมฝ่าสายน้ำอันเชี่ยวกรากของหน้าแล้งไปตามลำน้ำสายหนึ่งที่อยู่สุดเขตแดนประเทศไทยด้านตะวันตก เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมเขาต้องมายังที่แห่งนี้ เพราะในส่วนลึกของหัวใจของเขามันไม่ได้เรียกร้องให้เขาเดินทางมายังที่แห่งนี้เลย ในห้วงแห่งกาลเวลาอย่างนี้ไม่มีใครรับรองได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น‘สบเมย’…