Skip to main content

20080327 ภาพประกอบ 1

พ่อเฒ่าฟาน ดิน กัน แห่งหมู่บ้านทรีอาน (หมู่บ้านแห่งสันติ) หมู่บ้านริมแม่น้ำซมฮอง (แม่น้ำแดง) เส้นเลือดใหญ่ของชาวฮานอยยืนตระหง่านบนหัวเรือ หากไม่มีการถามไถ่คงยากที่จะคาดเดาอายุของพ่อเฒ่าได้ ปีนี้พ่อเฒ่าอายุ ๖๔ แล้ว ขณะพ่อเฒ่ายืนตระหง่านตรงหัวเรือ สายลมหนาวของเดือนมกราคมยังคงพัดมาเย็นเยือก ในสายลมหนาวนั้นมีฝนปนมาเล็กน้อย พ่อเฒ่าบอกว่า ฝนตกช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคมที่ฮานอยเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือความหนาว เพราะปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปี ๕๑ ความหนาวเย็นที่พัดมาขนาดหนักเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว ๓ ครั้ง ว่ากันว่าอากาศที่เปลี่ยนแปลง คงเป็นเพราะโลกเรามันร้อนขึ้น

ในเรือมีผม และเพื่อนร่วมทางอีก ๒ คน ทั้ง ๒ คนเป็นล่ามแปลภาษาของกันและกัน ถัดจากพวกเราไปเป็นหญิงชราวัย ๖๓ หญิงชรามีหน้าที่พายเรือ การพายเรือของหญิงชราแปลกแปร่งไปจากที่เคยเห็น เพราะแกใช้ตีนทั้งสองข้างในการถีบไม้พายที่ผูกติดเอาไว้กับกราบเรือ คงไม่ผิดแปลกอันใดที่จะกล่าวว่า เรือมุ่งไปข้างหน้าด้วยแรงเฉื่อยของตีนคน

ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่จึงตัดสินใจถามผ่านล่ามว่าด้วยเหตุผลกลใด หญิงชราจึงใช้ตีนทั้งสองข้างพายเรือ คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ ตีนมีแรงมากกว่ามือ และมือก็ต้องเอาไว้ใช้เก็บกู้กุบ (เครื่องมือหาปลาชนิดหนึ่ง) ที่จมอยู่ในน้ำ

ขณะเราลอยเรืออยู่เหนือสายน้ำ เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบบ่าย ๒ แต่บนฟ้าเฆมยังคงมืดครึ้ม และฝนก็ยังโปรยสายลงมาบางเบา ในม่านฝน เรือบรรทุกทรายลำใหญ่หลายลำกำลังเร่งเครื่องเพื่อทวนน้ำขึ้นไปทางตอนเหนือของแม่น้ำ ในเรือลำใหญ่บรรทุกทรายจนปริ่มกราบเรือ ทรายจากริมฝั่งแม่น้ำถูกนำไปใช้ในกิจการก่อสร้าง เมื่อเรือลำใหญ่วิ่งผ่าน ชายชราก็จะโยนก้อนหินลงน้ำ นัยว่าเพื่อถ่วงเรือเอาไว้

20080227 ภาพประกอบ 2

หลายปีมาแล้วที่เรือใหญ่วิ่งเต็มแม่น้ำ แต่เรือลำเล็กเช่นเรือหาปลาของพ่อเฒ่ากลับค่อยๆ หายไปจากแม่น้ำ คล้ายว่าคลื่นจากเรือใหญ่ได้โถมซัดคนหาปลาเช่นพ่อเฒ่าคนแล้วคนเล่าให้กลับคืนสู่ฝั่ง

ย้อนหลังไปเมื่อ ๕๑ ปีก่อน เรือใหญ่เล่านี้ยังไม่มีมากมาย แต่ผิดกับเรือหาปลาลำเล็ก เมื่อ ๕๑ ปีก่อนเรือหาปลาเหล่านี้มีมากจนเต็มแม่น้ำ หลังจากนโยบายของรัฐที่ให้คนน้ำคืนฝั่ง เพื่อลงหลักปักฐานสร้างชีวิต เรือลำเล็กก็ค่อยๆ หายไป แต่นั่นใช่ว่าจะเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผู้คน และเรือลำเล็กหายไปจากแม่น้ำเกือบหมด สิ่งที่ทำให้ผู้คนบนเรือลำเล็กหายไปจนเกือบหมดคือคลื่นของความเปลี่ยนแปลงอันมาพร้อมกับผู้คนที่มากขึ้นนั่นเอง

เมื่อ ๕๑ ปีก่อน และก่อนหน้านั้นไปอีกหลายปี พ่อเฒ่าฟาน ดิน กันยังเป็นหนุ่มแข็งแรงใช้ตีนพายเรือขึ้นเหนือล่องใต้ไปตามแม่น้ำมาแล้วชั่วเจ็ดย่านน้ำ จะมีบ้างในบ้างปีที่ต้องจอดเรือลอยลำหลบหลีกกระสุนปืนของสงคราม หลังสงครามยุติพ่อเฒ่าก็เอาตีนพายเรือต่อไป

พ่อเฒ่าเล่าให้ผมฟังว่า ในชั่วกว่า ๖๐ ปีของชีวิต พ่อเฒ่าต้องเผชิญเหตุแห่งความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่พ่อเฒ่าก็ผ่านมันมาได้ แต่กับการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนี่เองที่พ่อเฒ่าต้องเพ่งพินิจถึงมันด้วยความหวาดกลัว

แต่พ่อเฒ่าก็ยังใจดีบอกว่า “แล้วเราก็จะผ่านมันไปได้”
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดขึ้นกับพ่อเฒ่าเพียงอย่างเดียว แต่มันเกิดขึ้นกับแม่น้ำที่พ่อเฒ่าได้อาศัยพึ่งพามาเกือบทั้งชีวิต

พ่อเฒ่าเล่าให้ฟังว่า หลังจากประเทศเดินทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ดีมากขึ้น ผู้คนในประเทศก็เริ่มสร้างเศรษฐกิจในครัวเรือนของตัวเอง แต่คนในหมู่บ้านทีรอานไม่ได้เป็นอย่างนั้น พวกเรายังอาศัยอยู่ในเรือ และล่องเรือไปตามแม่น้ำแดงเพื่อหาปลา เราไม่เคยอยู่บนฝั่ง แต่พอทางรัฐให้ขึ้นไปอยู่บนฝั่งโดยการให้เราซื้อที่ดิน เพื่อปลูกสร้าง และทำมาหากิน พวกเราก็ไม่สนที่จะทำ เพราะต่างคิดว่าหาปลาอย่างเดียวก็อยู่ได้ อยู่ในน้ำก็ได้ไม่ต้องขึ้นฝั่ง ภายหลังเมื่อเขื่อนหัวบินถูกสร้างบนแม่น้ำในปี ๑๙๗๘ แล้วเสร็จและทำการกักเก็บน้ำในปี ๑๙๘๕ ระบบนิเวศของแม่น้ำก็เปลี่ยนแปลงไป น้ำน้อยลงกว่าเดิม คนหาปลาที่เร่ร่อนบนเรือหาปลา มีเรือเป็นบ้าน มีน้ำเป็นที่ดิน เกือบ ๓๐๐ คนที่หาปลาเป็นอาชีพก็หาปลาได้น้อยลง สาเหตุที่หาปลาได้น้อยลง เพราะคนบางกลุ่มที่ไม่ใช่คนหาปลาเป็นอาชีพก็นำเครื่องมือที่ทำลายล้างมาใช้ในแม่น้ำ เช่น นำไฟฟ้ามาช๊อตปลา เมื่อปลาถูกช๊อตมันก็เป็นหมันขยายพันธุ์ไม่ดีอีกต่อไป เมื่อปลาขยายพันธ์ไม่ได้ ปลาที่เคยมีในแม่น้ำก็ลดจำนวนลงด้วย อีกทั้งน้ำในแม่น้ำก็ตื้นเขิน เพราะเขากักน้ำไว้ในเขื่อน และมีการดูดทรายริมฝั่ง ทั้ง ๒-๓ อย่างที่กล่าวมาล้วนส่งผลโดยตรงต่อคนหาปลา

คนหาปลาหลายคนหาปลาไม่ได้ก็ขึ้นไปอยู่บนฝั่ง แต่ขึ้นไปก็ไม่มีที่ดินทำกินก็ต้องไปรับจ้างในเมือง ครอบครัวที่เคยอยู่กันพร้อมหน้าก็ค่อยแตกกระจายกันไป ถึงวันไหว้ผีบรรพบุรุษบางคนก็ไม่ได้กลับมาไหว้ เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูง

เมื่อพูดคุยกันอยู่นาน พ่อเฒ่าก็หันหน้ากลับดูกุบที่ใส่เอาไว้ พ่อเฒ่ายกกุบครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สิ่งที่พ่อเฒ่าและเราผู้ผ่านทางมาได้รับรู้คือในกุบว่างเปล่า ไม่มีปลาแม้แต่ตัวเดียว แต่ความพยายามของพ่อเฒ่าที่รู้ทางหนีที่ไล่ แกจึงใส่กุบไว้เกือบ ๓๐ อัน ในที่สุดก็มีปลามาถูกกุบทั้ง ๓๐ อันอยู่ ๓ ตัว ‘ปลา ๓ ตัวรวมกันได้ไม่ถึงกิโลไม่มีคนซื้อหรอก เอากลับบ้านไปทำกินดีกว่า’ พ่อเฒ่ากล่าวออกมาหลังเบนหัวเรือกลับคืนสู่ฝั่ง หลังจอดเรือส่งผู้ผ่านทางมาที่ริมฝั่งเรียบร้อย ก่อนจากกันพ่อเฒ่าก็ตะโกนบอกเราว่า โชคไม่ดีนักวันนี้ไม่ได้ เอาไว้ถ้ามาวันหน้าจะเอาปลาตัวใหญ่ขึ้นมาโชว์ให้ดู

ในรอยทางของคนผู้มีชีวิตผูกพันกับแม่น้ำอย่างแท้จริง ไม่มีใครเลยที่คิดจะทำลายแม่น้ำ เพราะหากเขาทำลายแม่น้ำไม่ว่าทางใดทางหนึ่งก็เหมือนกับว่า เขาค่อยๆ ตัดเฉือนเนื้อของตัวเองออกไปทีละนิดทีละนิด แล้วเราผู้ไม่มีวิถีชีวิตอยู่กับแม่น้ำอย่างจริงจัง เราจะไม่ใส่ใจดูแลแม่น้ำ เพื่อคนหาปลาผู้ได้ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำอย่างจริงจังกระนั้นหรือ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะให้พันธสัญญาต่อกันว่า จากนี้ต่อไปคนหาปลาผู้มีชีวิตอยู่ด้วยการลอยเรือไปบนคลื่นความเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงเพียงลำพัง เราจะร่วมเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงนั้น และร่วมกันทำความเปลี่ยนแปลงนั้นให้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนแปลงไปในทางด้านที่ดี และแม่น้ำต้องเป็น ‘แม่น้ำเพื่อชีวิต มิใช่เพื่อความตาย’

บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
  ผมได้รู้ข่าวว่าไฟฟ้าที่บ้านดับก็ตอนอยู่บนดอยบ้านห้วยคุ ข่าวสารที่ส่งมาบอกเพียงว่า หลังจากผมและเธอออกจากบ้านมาได้ ๒ วันหลอดไฟที่อยู่ข้างนอกก็ดับลง ทั้งที่มันเพิ่งได้รับการติดตั้ง คนส่งสารยังบอกอีกว่า เขาได้ไปดูที่มิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านแล้วปรากฏว่า สายไฟที่ต่อกับมิเตอร์ถูกดึงออกด้วยมือนิรนาม เมื่อสนทนากันอยู่นานสองนาน คนส่งสารผู้ใจดีก็บอกหมายเลขโทรศัพท์ของการไฟฟ้า หลังผู้แจ้งสารหมดสิ้นหน้าที่ ต่อไปจากนี้คงเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องดำเนินการต่อ ผมและเธอเรามองหน้ากัน ต่างคนต่างตั้งคำถามในใจ เกิดอะไรขึ้นกับบ้านที่เราเช่าอยู่มาเกือบครึ่งปี? ผมถามเธอก่อนหลังความเงียบมาเยือนเราสองคนได้ไม่นาน"นั่นสิ…
สุมาตร ภูลายยาว
บนเทือกเขาสูงอันไกลโพ้นในดินแดนที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหลังคาโลก บนเทือกเขาสูงกว่า ๕,๐๐๐ ฟุตจากระดับน้ำทะเลถูกปกคลุมด้วยหิมะเย็นจัด หลังการปกคลุมของหิมะ หลายร้อยหลายพันปี เมื่อความร้อนชื้นของอากาศมาเยือน หิมะจึงถูกหลอมละลายจนก่อเกิดเป็นต้นธารของแม่น้ำอันยิ่งใหญ่สายหนึ่งของโลก ในตอนบน แม่น้ำสีเขียวมรกตอันเกิดจากการละลายของหิมะสายนี้อุดมไปด้วยความหนาวเย็น แม่น้ำได้ไหลจากต้นกำเนิดบนที่สูงลงสู่ด้านต่ำตามกฏแรงโน้นถ่วงของโลกผ่านซอกหุบเขาอันสลับซับซ้อน ผ่านผืนแผ่นดินอันอุดมไปด้วยความแตกต่างทางสังคม วัฒนธรรม และลัทธิการเมืองการปกครอง ทุกพื้นที่ที่แม่น้ำไหลผ่าน…
สุมาตร ภูลายยาว
[๑]เมษายน ๒๕๔๗...แสงแดดใกล้ลับขอบฟ้า คนหาปลาบางกลุ่มกำลังเตรียมตัวเอาเรือเข้าฝั่ง เพื่อกลับคืนสู่บ้านผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการหาปลามาตลอดทั้งวัน การหาปลาเป็นกิจวัตรปกติของคนริมฝั่งแม่น้ำโขงมาเนิ่นนาน แต่ในยามเย็นวันนี้ไม่เป็นเหมือนยามเย็นของวันอื่นๆ ที่ผ่านมา ช่วงนี้ริมฝั่งแม่น้ำโขงคึกคักเป็นพิเศษ เพราะข่าวการเดินทางมาของปลาบึก ปลาใหญ่ที่คนหาปลาขนานนามให้ว่า ‘ปลาเทพเจ้าแห่งลำน้ำโขง’ พี่รงค์ จินะราช คนหาปลาบ้านหาดไคร้ได้เอาเรือออกไปไหลมองในแม่น้ำโขงบริเวณดอนแวงตามปกติ มองที่ไหลไปตามกระแสน้ำเป็นมองขนาดเล็ก พอมองไหลไปปะทะกับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ชั่วพริบตานั้นฟองอากาศขนาดใหญ่ก็เกิดขึ้นบนผิวน้ำ…
สุมาตร ภูลายยาว
เสียงผู้คนส่งเสียงเชียร์เรือยาวในแม่น้ำดังไปทั่วริมฝั่ง งานแข่งเรือเริ่มขึ้นในวันสาขารล่อง--ประมาณวันที่ ๑๔ เมษายน เบื้องล่างเหนือสายน้ำ เรือ ๒ ลำกำลังขับเคี่ยวกันอย่างหนัก ไม่นานนักเรือที่มีฝีพายใส่เสื้อสีแดงก็ทะยานเข้าเส้นชัยหลังเรือลำนั้นเข้าเส้นชัยแล้ว การแข่งเรือรอบคัดเลือกจึงสิ้นสุดลง พรุ่งนี้จะเป็นวันตัดสินว่า เรือของคุ้มบ้านไหน จะได้ลอยลำเฉิดฉายเข้าเส้นชัย เสียงเพลงเฉลิมฉลองทั้งปราชัย และมีชัยดังมาเป็นระยะ เมื่อผู้คนเริ่มทยอยกลับบ้าน ชายชราก็ลุกจากเสื่อที่ปูนั่ง และเดินออกมาจากริมน้ำคืนสู่บ้าน ก่อนจะเดินมาถึงบันไดทางขึ้นวัด ชายชราก็ก็หยุดคุยกับใครบางคนตรงเชิงบันได“เด็กบ้านเรามันไม่สู้…
สุมาตร ภูลายยาว
ตะวันสายแดดส่องฟ้า เรือหาปลากับชายชรากำลังเดินทางออกจากท่า เพื่อหาปลาอีกครั้ง ในแสงแดดยามสาย ชายชรากำลังสลัดคราบไคร้ที่เกาะติดเบ็ดออก เพื่อทำความสะอาดให้มันกลับมาพร้อมใช้งานอีกครั้งสายน้ำลดระดับลงอีกครั้งหลังโถมถั่งในหน้าฝน สายน้ำเชี่ยวกรากกลับกลายเป็นแผ่วเบา และลดความเกรี้ยวกราดลง วันนี้ไม่แตกต่างจากหลายวันในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว ชายชรายังคงดำเนินชีวิตไปตามปกติในครรลองของคนกับเรือเหนือสายน้ำอันกล่าวได้ว่าคือสายชีวิตของชายชราด้วยสายลมแห่งเดือนมกราคมพัดมาเยือกเย็น ริมฝั่งน้ำตรงกระท่อมหาปลา ชายชรานั่งเงียบงันอยู่ข้างกองไฟ ๒ วันมาแล้วยังหาปลาไม่ได้ ช่วงนี้จึงมีเพียงกุ้งติดฟดริมฝั่งน้ำเท่านั้น…
สุมาตร ภูลายยาว
หลังจากวันแรกจนถึงวันนี้ ผมลองนับเดือน นับปีดูแล้ว ผมมาอยู่เมืองชายแดนริมแม่น้ำแห่งนี้ ล่วงเข้าไป ๕ ปีแล้ว ใน ๕ ปีของการใช้ชีวิต แน่ล่ะย่อมแตกต่างจาก ๗๖ ปีของชายชราอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งที่ผมได้เห็นไม่ต่างกับชายชราเลยแม้แต่น้อยแม้จะนานกี่ชั่วอายุคน ผู้คนริมฝั่งน้ำยังคงพึ่งพาแม่น้ำสายนี้ในด้านต่างๆ อยู่เช่นเดิม คนหาปลายังคงหาปลา แม้ว่าจะได้ปลาน้อยลงก็ตามที คนขับเรือรับจ้างก็ยังคงขับเรืออยู่เช่นเดิม แม้ว่าจะมีข่าวการเกิดขึ้นของสะพานข้ามแม่น้ำก็ตามที คนแบกของตรงท่าเรือก็ยังคงทำหน้าที่แข็งขันกว่าเดิม แม้จะแบกของได้น้อยลง…
สุมาตร ภูลายยาว
ในยามเย็น หลังแสงตะเกียงสว่างขึ้น ความสว่างของแสงไฟตะเกียงก็ตัดกับท้องฟ้ามืดครึ้มไร้ดวงดาวแต้มขอบฟ้า ดูเหมือนว่ายามนี้สายฝนต้นฤดูมาถึงแล้ว ในที่ไกลออกไปฟ้าแลบแปลบปลาบ ทุกครั้งที่ฟ้าแลบ ความสว่างที่เกิดขึ้นเพียงสั้นๆ ทำให้ฟ้าสีดำดูน่ากลัว ไม่นานนักหลังฟ้าร้องเข้ามาใกล้ สายฝนปานฟ้ารั่วก็โถมถั่งลงมายามนี้ปลาหลายชนิดอพยพขึ้นเหนือ เพื่อวางไข่ จะเหลือเพียงปลาบางชนิดเท่านั้นอพยพขึ้นมาช่วงน้ำลด ในช่วงนี้ คนหาปลาไหลมองก็จะเริ่มยุติการหาปลาลง เพราะน้ำในแม่น้ำเป็นน้ำใหญ่หาปลาลำบาก ช่วงน้ำใหญ่นี่เองถือว่าธรรมชาติได้จัดการมนุษย์…
สุมาตร ภูลายยาว
หลังกลับมาถึงบ้าน ผมหวนคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่แกเล่าให้ฟัง ห้วงอารมณ์นั้น ผมคิดถึงหนังสือเล่มหนึ่ง หนังสือเล่มนี้เล่าถึงการรอนแรมออกทะเล เพื่อตกปลาของชายแก่คนหนึ่ง การเดินทางออกทะเลของชายชราในหนังสืออาจแตกต่างกับการเดินทางออกสู่แม่น้ำของชายชราแห่งโลกของความจริงอยู่บ้าง แต่ในวิถีของชายเฒ่าทั้งสองคน มีเรื่องราวทั้งเหมือน ทั้งแตกต่างรวมอยู่ด้วยกัน การเดินทางไปสู่วิถีของการเป็นนักล่าของชายทั้งสองอาจจะไม่ต่างกันมากนักในการกระทำ แต่เป้าหมายในการออกเรือ เพื่อเป็นนักล่าของชายทั้งสองอาจแตกต่างกัน คนหนึ่งออกเรือไปล่าเพื่อความสุขตามคิดความเชื่อของตัวเอง แต่อีกคนหนึ่ง…
สุมาตร ภูลายยาว
แสงแดดยามบ่ายคลี่ม่านกระจายโอบไล้ยอดไม้ แรงลมพัดยอดไม้เอนไหว ดอกไม้ป่าสีขาวของฤดูฝนกำลังร่วงหล่นลงพื้นดิน แม้ว่าดอกไม้จะจากไป แต่ธรรมชาติก็ได้มอบความเขียวชะอุ่มของผืนป่ามาทดแทนเช่นกันยามบ่ายขณะหลายคนยังวุ่นอยู่กับงาน ผมเดินเตร็ดเตร่ตามถนนมาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง หลังอ่านป้ายก็รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของชายชรา ผมมองหาเจ้าของบ้านอยู่นอกรั้วในใจยังหวั่นอยู่ว่าจะได้พบเจ้าของบ้านหรือเปล่า เมื่อมองดูอยู่ครู่หนึ่ง ผมก็เห็นชายชราผู้เป็นเจ้าของบ้านกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับกองไม้ไผ่ข้างห้องครัวผมร้องเรียกชายชราอยู่นอกรั้ว เมื่อได้ยินเสียงเรียก แกก็เงยหน้าขึ้นมาดู และเรียกผมเข้ามาในบ้าน…
สุมาตร ภูลายยาว
หลังกลับมาจากเมืองริมแม่น้ำในครั้งนั้น ไม่นานผมก็เดินทางมาเมืองริมแม่น้ำอีกครั้งพร้อมกับความทรงจำเมื่อ ๒ เดือนก่อน...ความทรงจำเมื่อ ๒ เดือนก่อนเกิดขึ้นบนแม่น้ำสายนี้ ผมจำได้ว่าช่วงนั้นเป็นฤดูฝน น้ำปริ่มฝั่งหมุนวนน่ากลัว ผมได้พบชายชราอีกครั้งหลังจากไม่ได้พบกันนาน ชายชรานั่งอยู่บนเรืออีกลำหนึ่ง ซึ่งวิ่งสวนทางกับเรือที่ผมโดยสารมา เมือเรือวิ่งสวนทางก็ได้ยินเสียงทักทายของคนขับเรือทั้งสอง แม้ว่าจะฟังสำเนียงการสนทนาไม่รู้เรื่องทั้งหมด แต่ก็พอจับใจความได้ว่าคนขับเรือทั้งสองคุยกันเรื่องอะไร บนนาวาชีวิตกลางสายน้ำของชะตากรรม…
สุมาตร ภูลายยาว
สายโขงยังตัดไม่ขาด สายสวาทตัดขาดอย่างไรตัดบัวก็ยังไว้ใย ตัดน้ำใจยังมีเมตตาค่อยอิง ค่อยอาศัยกัน เอาไว้รักกันในวันข้างหน้ามาเถิด มาเถิดแก้วตา รำวงดีกว่าร่าเริงหัวใจ รำวงดีว่าร่าเริงหัวใจ....เสียงเพลงแหบพร่าลอยตามสายลมไกลออกไป จนเงียบหายไปกับโค้งขอบฟ้ากลางคืน นานครั้งชายชราจะร้องเพลง แต่บทเพลงที่ชอบร้องสม่ำเสมอคือเพลงนี้ ค่ำคืนนี้อากาศหนาวเย็นลง ชายชราจึงก่อกองไฟ เพื่อผ่อนเบาความหนาว เนิ่นนานที่กองไฟสว่างไสว แต่เมื่อฟืนที่กองสุมไว้ในตอนเย็นใกล้หมด แสงไฟก็สลัวลง เปลวไฟมีอยู่น้อยนิดเหมือนจะมอดดับลงทุกครั้งยามสายลมพัดเข้ามา พอสายลมพัดผ่านไป แสงไฟก็สว่างขึ้นมา หลังแสงไฟสว่าง…
สุมาตร ภูลายยาว
ภาพของชายชราวัย ๗๕ ปี กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่บริเวณระเบียงกระท่อมแจ่มชัดขึ้นเมื่อเข้าไปใกล้ กุ้งสีชมพูขนาดนิ้วก้อยหลายสิบตัวนอนนิ่งอยู่ในจานเบื้องหน้าของชายชรา ถัดจากจานกุ้งไปเป็นถ้วยน้ำพริกปลาร้าที่กินเหลือจากเมื่อวานรายการอาหารที่กล่าวมาทั้งหมดคืออาหารมื้อเย็นสำหรับชายชรา     ลูกแมวสองตัว ตัวหนึ่งสีน้ำตาล ตัวหนึ่งสีขาว หมอบคลอเคลียอยู่ด้านข้าง นานครั้งมันจะเดินมาหยอกล้อเล่นกัน พอหยอกล้อกันจนหนำใจมันก็กลับไปนอนนิ่งอยู่ที่เดิม บนท้องฟ้าอาทิตย์อัสดงลงไปไม่นานนัก ท้องฟ้าที่เคยกระจ่างเป็นสีฟ้าเริ่มกลายเป็นสีดำหลังจากอิ่มหนำสำราญ…