คำกล่าวของ พ.ต.ท. [ยศขณะนั้น] ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีต่อคณะนักเรียนทุนรัฐบาลโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (One District One Scholarship) หรือโอดอส (ODOS) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2547 เวลา 10.00 น.
"รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วย,
ผู้ช่วยรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการ ก.พ.,
ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่,
นักเรียนที่ได้รับทุน ผู้ปกครอง และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน,
วันนี้ผมมีความสุขใจที่ได้เห็นลูกหลานของเราจำนวน 900 กว่าคน ได้มีโอกาสทางการศึกษา เขาบอกกันว่าการศึกษาเป็นพาหนะแห่งการเลื่อนชั้นทางสังคมของคน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Education is a vehicle to social Mobility แม้ผู้ใดจะมีฐานะยากจนอย่างไร ถ้าเขามีการศึกษาโอกาสที่เขาจะเปลี่ยนฐานจากคนจนมาเป็นชาวบ้านธรรมดา เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็สูงมาก หรือจะเป็นคนที่มีฐานะก็สูงมาก แต่ถ้าไม่มีการศึกษา โอกาสนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี แต่โอกาสค่อนข้างที่จะน้อยกว่า เพราะฉะนั้นเรื่องการศึกษาจึงเป็นเรื่องที่ผมตระหนัก
ผมเป็นเด็กบ้านนอก ช่วยพ่อแม่ทำงาน และวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ที่อยู่บ้านนอก และวันนี้ เพื่อน ๆ ที่อยู่บ้านนอกของผม บางคนก็ประกอบอาชีพเป็นกระเป๋ารถเมล์ เป็นคนรับจ้างฆ่าหมูอยู่ในตลาด บางคนเป็นอธิบดี บางคนเป็นนักธุรกิจ แต่ความแตกต่างทั้งหมดที่ย้อนกลับไปคือ โอกาสทางการศึกษา ผมเชื่อว่าเด็กๆ ทั้งหลาย ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเมื่อหันกลับไปดูเพื่อนที่ขาดโอกาสทางการศึกษาหรือมีน้อย หรือไม่ค่อยสนใจที่จะศึกษา มันจะเป็นความแตกต่างที่เห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้ามีโอกาสแล้วขอให้ตั้งใจและทุ่มเท ผมเคยเป็นนักเรียนทุนของ ก.พ. ซึ่งในบางครั้งทุนที่ได้รับก็ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ก็ต้องดิ้นรนทำงานเสริม แต่ทำให้เราได้ประสบการณ์มากมาย ถ้าชีวิตมีปัญหา แต่มีความอดทนอุตสาหะ ชีวิตนี้จะไม่มีคำว่าอับปาง และจะไม่มีคำว่าหมดโอกาส แต่ถ้ายิ่งมีทุนก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาสมากขึ้น
ผมขอเล่าความในใจว่า ทำไมถึงมีที่มาของทุนนี้ และมีการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทุนนี้ให้ทุกๆ คนได้รับทราบว่าเป็นมาอย่างไร ทุนนี้มาจากรายได้ของการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เกิดจากการนำหวยใต้ดินมาจำหน่ายให้กับประชาชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะส่งเสริมอบายมุข แต่เมื่อเห็นว่าอบายมุขกับคนในเอเซีย หรือแม้คนทั้งโลกเป็นของที่ไม่มีคำว่าไม่มี คนบางคนไม่เล่นอบายมุขไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น การเล่นพนันฟุตบอลซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่คนก็จะเล่น ถ้าไม่ได้เล่นก็เหมือนกับคนที่จะลงแดงตาย หวยก็เช่นเดียวกัน จะต้องแทงให้ได้ และในเมื่อคนจะแทงหวยแล้วให้เจ้ามือรับกินเอง และไปสร้างอิทธิพลต่างๆ เพื่อกดขี่ข่มเหงคนในชนบท ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ผมจึงให้กำจัดกลุ่มผู้มีอิทธิพล โดยการนำหวยใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินแบบถูกต้องตามกฎหมาย แต่รัฐบาลไม่ได้อยากได้กำไรตรงนี้เลย เพราะฉะนั้นผมเห็นว่าเงินจำนวนนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากคนยากจน ก็จะต้องกลับไปช่วยเหลือคนยากจนในรูปแบบที่สร้างสรรค์ รัฐบาลจึงได้มองเรื่องความด้อยโอกาสของคนในชนบท ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การประกอบอาชีพในการทำมาหากิน และการรักษาพยาบาลทุกอย่าง
ผมเน้นเรื่องของการศึกษา แล้วทำไมผมจึงทำเรื่องโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน แทนที่จะประกาศทั้งประเทศแล้วให้มาสอบรวมกัน ใครสอบได้คะแนนดีคนนั้นก็ได้ทุน ทำไมผมไม่ทำเหมือนที่เขาทำกันมาในอดีต เพราะผมต้องการให้ทุนนี้กระจายไปทุกอำเภอทั่วประเทศ ถ้าประกาศไปทั่ว แน่นอนคนกรุงเทพฯจะได้หมด ผมไม่ได้รังเกียจคนกรุงเทพฯ แต่กรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่ที่ดูดคนจากทั่วประเทศ คนที่มีปัญญาทางสังคมหลายคน ที่เติบโตในชนบทต้องมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เพราะโอกาสในชนบทไม่มีให้เขา วันนี้ผมจึงต้องเลือกคนที่มาจากแต่ละอำเภอๆ ละ 1 คน มาเข้าโครงการดังกล่าว และรัฐบาลจะทำต่อไป เพราะต้องการให้ทุกคนตระหนักว่า 1. ทุนการศึกษาที่ได้รับไปเรียนในวันนี้ เป็นทุนของเงินที่มาจากคนจน คนจนที่เลิกเล่นหวยไม่ได้ 2. ส่วนใหญ่ผู้ได้รับทุนเป็นคนในชนบท จึงต้องตระหนัก 2 ข้อว่า เมื่อเรียนจบแล้วใจต้องมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ต่อประเทศชาติ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีและต้องถือปฏิบัติเป็นหลัก แต่สิ่งที่จะต้องกตัญญูอีก 2 อย่างคือ กตัญญูต่อคนจน เพราะทุกคนมาจากคนที่มีฐานะไม่ค่อยดี และต้องกตัญญูต่อชนบท เมื่อเรียนจบและมีการศึกษา หรือระหว่างศึกษาต้องเริ่มคิดแล้วว่า ทำอย่างไรถึงจะให้คนในชนบทได้รับการพัฒนา และทำอย่างไรให้คนจนหายจน นี่คือการบ้านที่จะต้องอยู่ในใจของทุกคนตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไปศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งจะมีประสบการณ์ เพราะได้พบเห็นในหลายสิ่งหลายอย่าง ก็ขอให้นำไปคิดเป็นการบ้าน และเมื่อเรียนจบมาแล้ว ขอให้ทำงานอะไรก็ได้ที่เสี้ยวหนึ่งของสมองหรือจิตใจคิดถึงชนบทและคนจน แล้วพึงตระหนักอยู่เสมอด้วยความรู้สึกที่สุขใจว่า ผู้ที่ส่งให้เราได้มีโอกาสเหล่านี้ คือ 1. อำเภอของเรา 2. เงินที่มาจากคนจน ซึ่งจะทำให้ทุกคนภาคภูมิใจและจะทำงานได้ จะมีความก้าวหน้าในชีวิต
คนที่ศึกษาในประเทศหรือต่างประเทศ เรียนที่ไหนก็ได้ แต่อย่าเรียนเพียงเพื่อเอาใบประกาศนียบัตรอย่างเดียว ต้องเรียนให้ได้ความรู้ ประกาศนียบัตรเป็นผลพลอยได้จากการมีความรู้อย่าให้ประกาศนียบัตรเป็นสิ่งที่เราต้องการไขว่คว้า โดยไม่สนใจว่าเราจะรู้หรือไม่ ความรู้ทำให้เกิดปัญญา ถ้าเรียนรู้จริงการเกิดปัญญาง่ายมาก ถ้าเรียนเพื่อเอาประกาศนียบัตร โอกาสเกิดปัญญาไม่ค่อยมี ขอให้ตั้งใจเรียน ประพฤติตัวให้ดี และพึงรำลึกอยู่เสมอว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเงินมากมาย แต่เป็นประเทศที่พยายามจะใช้เงินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้กับคนซึ่งจะทำประโยชน์ต่อประเทศในอนาคตต่อไป ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนคือคนซึ่งเมื่อเรียนจบแล้ว จะมาทำประโยชน์ต่ออำเภอ หรือประโยชน์ต่อประเทศ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจน
ผมไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งโอกาสและถ้าหากว่าคนที่ไม่ระมัดระวังตัวก็อาจจะเสียหายได้ ใครที่เคยเข้มแข็งอย่างไรก็ขอให้เข้มแข็งอย่างนั้น คิดถึงพ่อแม่ของเราให้มากๆ โดยเฉพาะคนที่ไปอยู่ต่างประเทศ ขอให้หลับตานึกถึงสภาพที่พ่อแม่ต้องต่อสู้กับชีวิต วันนี้แม้พ่อแม่อาจจะไม่ต้องส่งเสียเรา ซึ่งเป็นการลดภาระไป แต่พ่อแม่ก็ขาดเราซึ่งเป็นแรงงานสำคัญของครอบครัว เราต้องคิดเสมอว่าพ่อแม่อยู่ทางนี้ต้องทำงานหนักเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นถ้าลูกๆ ไปเรียหนังสืออยู่เมืองนอก หรือเรียนในเมืองไทยที่ห่างไกลบ้าน ก็ขอให้ตั้งใจเรียนให้ดี ทำตัวให้ดี แล้วถ้ามีโอกาสได้ทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัย ทำงานห้องสมุด หรือทำงานอะไรที่ส่งเสริมความรู้โดยไม่เสียการเรียน ขอให้ทำเพราะไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ผมก็เคยทำมา ไม่ว่าจะส่งหนังสือพิมพ์ ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ไปมัดหนังสือพิมพ์ ใช้เชือกมัดแล้วขับรถส่งหนังสือโดยใช้วิธีโยนไปในรั้วบ้าน ตอนทำงานใหม่ๆ โยนไม่แม่น ก็วิ่งลงไปเก็บใหม่ โดนหมาไล่บางครั้งไปส่งตามอพาร์เมนท์ที่มีหลายชั้น ความที่ผมขี้เกียจเดินทีละชั้น ก็ขึ้นไปอยู่ชั้นบนแล้วโยนลงมาชั้นล่าง บางทีโยนไม่แม่นก็ลงไปเก็บใหม่ ซึ่งทำให้ต้องเดินหนักกว่าเดิม แต่ก็เป็นชีวิต บางทีก็ไปทอดไก่ ไปเป็นบ๋อยโรงแรม ทำให้เรามีประสบการณ์ ทำให้เรารู้จักสังคมของเขา ซึ่งถือว่าไม่เสียหาย และมีเงินที่ทำให้เราสามารถซื้อสิ่งของอะไรก็ได้ เพราะลำพังเงินทุนที่ได้รับไม่เพียงพอที่จะทำให้เราสามารถซื้อะไรที่เราอยากได้ และยังสามารถส่งเงินมาให้พ่อแม่ได้บ้าง ซึ่งพ่อแม่ก็คงจะภูมิใจ ผมอยากให้ทุกคนรู้จักประหยัด ไปเรียนรู้ทั้งวิชาเรียน และประสบการณ์ที่ดี ขอให้ทุกคนตั้งใจอย่างเต็มที่ และเรียนให้จบ เลือกเรียนในสิ่งที่เราชอบเรารัก
ผู้ที่ไปเรียนในต่างประเทศ ที่ผมไม่ได้ให้ไปเรียนใน English Speeding country ก็เพราะว่า คนมีเงินไปเรียนกันมาก แต่โลกในวันนี้ อยากรู้ ก็ต้องรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น ทุกประเทศมีดี เราไปเรียนเพื่อจะได้ทราบว่า ประเทศนี้เขาดีและเก่งอย่างไร เราจะได้นำมาประยุกต์ใช้ เมื่อจบมาแล้วพวกเราก็จะต้องเป็นประชาคมรุ่นนี้ เพื่อที่จะคิดร่วมกันนำประสบการณ์ต่างๆ มาดูและคิดร่วมกันว่า เมื่อไปเห็นมาแล้วทั้งโลก เราจะนำสิ่งที่ดีๆ อย่างไรมาสู่ประเทศไทย นำมาสู่การปรับปรุงหรือแนะนำให้ประเทศไทยที่รักของเราให้ได้รับการพัฒนาที่ถูกต้อง การเรียนและมีประสบการณ์จะทำให้การพัฒนาประเทศรวดเร็วขึ้น แต่ว่าไม่มีอะไรที่ถ่ายทอดออกมาตรงๆ ต้องใช้คำว่าประยุกต์ ใช้คำว่า Apply ไม่ใช้คำว่า Copy เพราะ Copy ไม่เวิร์ก ถ้า Apply ถึงจะเวิร์ก
ผมอยากจะฝากคนที่ไปเรียนต่างประเทศว่า ต้องอย่าทิ้งภาษาอังกฤษ เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล และเรื่องของอินเตอร์เน็ตต้องใช้และต้องใช้ให้เก่ง เพราะปัจจุบันนี้ทุกประเทศและโรงเรียนทุกแห่งได้ใช้อินเตอร์เน็ตหมด เพื่อเราจะได้เข้าหาความรู้ ซึ่งเปรียบเสมือนมีห้องสมุดของโลกทั้งโลกให้เข้าไปค้นหาได้ อย่าทิ้งภาษาอังกฤษ เราไปก็ต้องเรียนภาษาเขาก่อน วัยช่วงนี้เรียนภาษาอะไรก็เรียนได้หมด ไม่เหมือนคนในวัยผู้ใหญ่เรียนอะไรก็ไม่ค่อยจำเพราะอายุมากแล้ว ใช้เวลาเรียนปีเดียวก็พูดและเขียนได้ ขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนให้ดีสำหรับผู้ที่ศึกษาในประเทศไทยนั้น อย่าลืมว่า ต้องไปอยู่หอพักห่างไกลพ่อแม่ เพราะฉะนั้นต้องทำตัวให้ดี ให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ อย่าให้ภาคภูมิใจเฉพาะวันที่เราได้รับทุนการศึกษาเท่านั้น ต้องให้ภูมิใจตลอดไปจนกระทั่งเรียนจบออกมาเป็นลูกที่ดี และช่วยเลี้ยงดูพ่อแม่ อย่าให้ภูมิใจแค่วันรับทุน แล้วไม่ตั้งใจเรียน ไปคบเพื่อนไม่ดี นำความเสียหายมาสู่ชีวิต ขอให้หนักแน่นอดทน และเชื่อว่าทุกคนมีความอดทนเพราะเป็นลูกของคนที่ลำบากและช่วยพ่อแม่มา แต่ความอดทนนั้น ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งด้วย
ขอให้กำลังใจทุกคน ขอให้คิดว่า คนที่ยืนอยู่ที่นี่ คือคนบ้านนอกคนหนึ่ง ที่เป็นนักเรียนทุนรัฐบาล และสร้างตัวเองได้เพราะฉะนั้น พวกเราทุกคน มีโอกาสเป็นเหมือนผมได้ทุกคน ขอให้ทุ่มเท ตั้งใจ ที่สำคัญคือต้องมีความกตัญญู ไม่มีใครรักเราและปรารถนาดีกับเราเท่าพ่อแม่ของเรา รักเชื่อฟังพ่อแม่ แน่นอนพ่อแม่อาจจะมีการศึกษาน้อยกว่า มีประสบการณ์น้อยกว่า แต่มีหัวใจรักที่ยิ่งใหญ่ ที่เราจะต้องเชื่อฟัง อย่าดูถูก เรียนหนังสือให้มากๆ ยิ่งได้ไปเรียนที่เมืองนอก อย่าดูถูกที่พ่อแม่เรียนหนังสือน้อย พ่อแม่พูดอะไรที่อาจจะไม่ถูกต้อง ก็ขอให้รับฟังด้วยความเคารพ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว บางคนอาจมีปัญหาเพราะว่าตนเองเรียนหนังสือมาก อาจจะมองว่าพ่อแม่ไม่รู้เรื่องอะไร ถึงพ่อแม่จะรู้หรือไม่รู้อะไรแต่หัวใจที่พ่อแม่รักเราประเสริฐสุด เพราะฉะนั้นต้องเชื่อฟังด้วยความเคารพ และตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ด้วยการไปเรียนหนังสือให้จบ เรียนให้ดี แล้วกลับมาตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตอบแทนคนจนหาทางช่วยกันแก้ปัญหาความยากจนให้กับประเทศ พวกเราทุกคนย่อมรู้ดีว่า ชีวิตคนจนต้องเผชิญอย่างไร ด้อยโอกาสอย่างไร เมื่อเราไปแสวงหาทางสว่างจากทั่วโลกแล้วกลับมาปรึกษากันว่าเราจะทำอย่างไร เพื่อจะให้คนของเราหายจากความยากจน ผมจะทำไปก่อนเพื่อรอพวกเรากลับมา และจะทำให้ดีที่สุดใน 4-5 ปีนี้ และขอให้พวกเราตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เราต่างคนต่างทำหน้าที่ ผมจะทำหน้าที่แก้ปัญหาให้บ้านเมือง ให้โอกาสพ่อแม่ของพวกเราทุกคนได้หลุดพ้นจากความยากจน พวกเราทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรียนให้ดีที่สุด ตั้งใจ ทุ่มเทให้ดีที่สุด และวันนั้นผมแก่แล้ว ผมทำต่อไม่ได้ ต้องมอบให้พวกเราทุกคนที่กลับมามีพลัง มาทำหน้าที่ต่อ หน้าที่อะไรก็ได้ที่ได้รับมอบหมาย แต่ขอให้ทำให้ดีที่สุด ชีวิตเป็นเพียงละคร บทบาทที่เขาให้เราเล่น ต้องเล่นให้ดีที่สุด แต่อย่าไปยึดติด ทำให้ดีที่สุด ในหน้าที่นั้น ขอให้โชคดีทุกคน ผมจะส่งให้ทุกคนเรียนให้จบ ไม่ต้องห่วง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการบอกว่า จะใช้เงินสำหรับส่งทุกคนเฉพาะในรุ่นนี้ประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท จนจบชั้นปริญญาตรี ส่วนปริญญาโท และเอก อาจจะเป็นหน้าที่ของสำนักงาน ก.พ. หรือกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จะให้ความช่วยเหลือได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนเรียนให้เต็มความสามารถ เรียนให้ดี มีปัญญาเรียนเท่าไรก็เรียนไป เรียนให้สุดๆ ไป ไม่จำเป็นต้องเรียนให้เก่งเลิศเลอ แต่ขอให้เรียนให้ได้ความรู้ ถ้าเรียนได้อย่างนี้แน่นอนคะแนนต้องอยู่ให้ลำดับที่ดี อย่างน้อยๆ ก็ B +
ขอให้ทุกคนโชคดี และขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับลูกๆ หลานๆ รวมทั้งผู้ปกครองของทุกคน และขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ. กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ได้ให้การช่วยเหลือ ซึ่งถือว่าวันนี้ได้ทำหน้าที่เป็นอย่างดี ได้คัดบุคคลซึ่งกำลังจะมารับหน้าที่เพื่อช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติต่อไป
ขอขอบคุณ"
____________________________________________
ข้อมูลจาก http://www.thaigov.go.th/webold/news/speech/thaksin/sp11jun47-10.htm
สืบค้นและเข้าถึงข้อมูลเมื่อ 17 กันยายน 2554
ปัจจุบัน (3 ตุลาคม 2561) ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้แล้ว