Skip to main content

 

นพพร ชูเกียรติศิริชัย

 

 

 

ผมเป็นผู้หนึ่งที่รู้สึกอิดหนาระอาใจกับสถานการณ์บ้านเมืองของเรา (หรือเปล่า?) ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะผมไม่เคยคาดคิดว่า ภาพการไล่กระทืบกันอย่างเมามันด้วยความมุ่งหวังที่จะพิชิตฝ่ายตรงข้าม (ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน) จะเกิดขึ้นในสังคมที่เที่ยวประกาศกับใครต่อใครว่าเป็นสังคมที่ยึดมั่นอยู่ในพระพุทธศาสนาอย่างเข้มข้น

ฉากชีวิตจริงนั้นดุเด็ดเผ็ดมันกว่าหนังบู๊ที่ดูผ่านหน้าจอหลายเท่านัก และดูจะสยดสยองกว่าคลิปวีดีโอเด็กนักเรียนตบกันเป็นไหนๆ  ส่วน ความรุนแรงแบบเด็กช่างกลหรือจะเทียบเท่าลีลาการวาดแม่ไม้มวยไทยสไตล์ที่มีผู้หลักผู้ใหญ่เป็นผู้นำทัพ

โอ้พระเจ้า! ประชาธิปไตยอยู่ในกำมือของพวกเราแล้ว

ฉากเตะต่อยที่ถูกฉายผ่านรายการข่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เล่นเอาผมนึกย้อนถึงฉากบางฉากในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง POM POKO ของ สตูดิโอจิบลิขึ้นมากระทันหัน

ผมประทับใจฉากที่ ทานูกิ(สัตว์ป่าหน้าตาคล้ายๆ แร็คคูน) กลุ่มหนึ่ง คิดจะปกป้องผืนป่าของพวกเขาด้วยการใช้กำลังเข้าต่อสู้กับศัตรูซึ่งเป็นมนุษย์ โดยเหล่า ทานูกิตัดสินใจดึง ลูกกระแป๋ง(ส่วนล่างของอวัยวะเพศชาย) ที่ทั้งใหญ่ทั้งยาน เข้าฟาดฟันกับศัตรู แต่สุดท้ายความรุนแรงก็จบด้วยความรุนแรง ทานุกิกลุ่มนั้นต้องตายไปพร้อมกับ ลูกกระแป๋งและป่าของพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสทุนนิยม

ผมจำไม่ได้ว่าผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ชื่ออะไร แต่ ลูกแป๋งของ ทานูกิแท้จริงแล้วก็คือสัญลักษณ์ของ เพศชายที่เมื่อจวนตัวก็มักจะหมกหมุ่นกับการแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรงอยู่เสมอ

ปัจจุบันผมไม่มั่นใจ และไม่แน่ใจว่า สังคมไทยจะสามารถข้ามพ้นความเกลียดชังไปได้อย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อมั่นก็คือ การหมกหมุ่นอยู่กับ ลูกกระแป๋งย่อมไม่ใช่ทางออกของทุกๆ ปัญหาอย่างแน่นอน และที่สำคัญสถานการณ์ต่างๆ จะยิ่งเลวร้ายไปกว่าเดิม หากความหมายของ ประชาธิปไตยสำหรับใครบางคนนั่นอ้างอิงอยู่กับ จำนวนและ ความเข้มแข็งของ ลูกกระแป๋งอย่างที่กำลังเป็นกันอยู่

Crows : ภาพสะท้อนของเพศชาย ที่ไปไม่ไกลกว่าลูกกระแป๋ง (เช่นเคย)

Crows Episode Zero เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากหนังสือการ์ตูน ‘Crows’ หรือในชื่อภาษาไทยว่า เรียกเขาว่าอีกาซึ่งได้รับความนิยมทั้งในญี่ปุ่นและเมืองไทย

เรื่องราวในภาพยนตร์เริ่มต้นขึ้น เมื่อ เก็นจิลูกชายของหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่าชื่อดัง ปรารถนาที่จะสืบทอดกิจการต่อจากพ่อ แต่พ่อของเขากลับตั้งข้อแม้ว่า เก็นจิจะต้องแสดงฝีมือด้วยการรวบรวมแก๊งอันธพาลวัยรุ่นมากฝีมือ (ในเรื่องชกต่อย) ในโรงเรียน ซูซูรันให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้เสียก่อน

ด้วยความปรารถนาที่จะเอาชนะพ่อ เก็นจิจึงเริ่มปฏิบัติการ ท้าดวล(ชกต่อย) กับ เหล่านักเรียนที่ประกาศตนเป็นหัวหน้ากลุ่มต่างๆ เพื่อรวบรวมสมาชิกแก๊งค์ไปโค่นล้ม ทามาโอะ ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดฝีมือของ ซูซูรัน

หลายคนที่พ่ายแพ้ยอมเข้ามาเป็น พวกของ เก็นจิแต่สำหรับ มาคาอีซะหัวหน้ากลุ่มเด็กนักเรียนชั้นปีที่ 3 (ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่กลุ่มหนึ่งของซูซูรัน) เก็นจิกลับไม่สามารถที่จะเอาชนะเขาได้ด้วยการใช้กำลัง เพราะถึงแม้ว่า มาคาอีซะจะเคยพ่ายแพ้ให้แก่ ทามาโอะมาหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยที่จะยอมเข้าเป็นพวกของ ทามาโอะและการตัดสินใจเช่นนั้นกลับทำให้สมาชิกแก๊งค์เชื่อมั่นในความเป็นหัวหน้าของ มาคาอีซะ

แต่จุดอ่อนของ มาคาอีซะในเรื่องความต้องการทางเพศสูงกลับกลายเป็นข้อมูลที่ทำให้ เก็นจิสามารถเอาชนะใจของ มาคาอีซะได้ด้วยการพาเขาไปพบปะกับสาวๆ จนสุดท้าย มาคาอีซะก็ยอมที่จะนำสมาชิกแก๊งค์เข้ามาเป็นพวกของ เก็นจิเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ (ไปไม่ไกลกว่าลูกกระแป๋งอีกเช่นเคย)

 จนเมื่อวันประลองกำลังระหว่างสมาชิกแก๊งค์ของ เก็นจิและ ทามาโอะมาถึง ทั้งสองฝ่ายต่างทุ่มเทกำลังเข้าห้ำหั่นกันจนเละเทะ และเลอะเทอะ เพื่อรวบรวมซูซูรันให้เป็นหนึ่งเดียว และแม้ว่าในที่สุด เก็นจิจะสามารถเอาชนะ ทามาโอะได้ แต่เขาก็ยังไม่ใช่ผู้นำของ ซูซูรันอยู่ดี เพราะสุดท้ายเขาก็ยังต้องต่อสู่กับยอดฝีมือไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันสิ้นสุด

สำหรับมนุษย์ผู้หลงใหลในความเท่ห์ (แฟชั่นการแต่งกายสไตล์ญี่ปุ่น) และความมันสะใจ (ฉากบู๊ดุเดือดเลือดพล่าน) คุณอาจจะหลงรักภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก แต่สำหรับมนุษย์ซึ่งปฏิเสธ ความรุนแรง และ ความเป็นชาย คุณอาจต้องส่ายหน้ากับสารสาระที่คุณจะได้รับ เพราะ มิตรภาพที่หนังเรื่องนี้พยายามจะสื่อ มันต้องแลกมาด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกาย (คุณต้องชกต่อยเก่ง) และความเข้มแข็งทางจิตใจ (คุณต้องพร้อมจะยอมแลกหูของคุณเพื่อเพื่อนได้ตลอดเวลา) ตลอดจนต้องรู้จักประนีประนอม (คุณต้องยอมพาเพื่อนๆ ไปอึ๊บ สาว) ในบางโอกาส

แต่สุดท้ายหนังเรื่องนี้ก็คือภาพสะท้อนที่ทำให้เรารับทราบว่า ไม่มีวันที่ ผู้ชายจะยอมละทิ้ง ความรุนแรงดุจเดียวกับ ความหวงแหนและ ความภาคภูมิใจใน ลูกกระแป๋งอันใหญ่โตของพวกเขานั่นแหละ  

แล้ววันนี้เราพร้อมจะไปให้ไกลกว่า ลูกกระแป๋งแล้วหรือยัง?

 

 

บล็อกของ Cinemania

Cinemania
  ธวัชชัย ชำนาญหนังรักโรแมนติกเป็นอะไรที่คนไทยให้ความสนใจโดยเฉพาะกลุ่มวัยทีนทั้งหลาย อย่างที่เพิ่งเข้าโรงไปอีกเรื่องก็คือ Happy Birthday เป็นความรักแบบโศกซึ้งน้ำตาซึมแห่งปีไปเลยก็ว่าได้ สาวๆหลายคนออกมาคงรำพันกับตัวเองไม่น้อย "ผู้ชายแบบนี้ยังมีอีกไหมหนอ"แต่สัปดาห์นี้ กระผมขอนำความรักในอีกแบบหนึ่งมาเสนอ เป็นหนังรักแห่งแดนอิเหนา หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นหนังรักแนวของประเทศมุสลิม คือเป็นหนังรักที่มีศาสนา จารีต ประเพณี และกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตรักของตัวละคร อย่างน้อยๆ หนังเรื่องนี้เป็นการสร้างสรรค์ให้วงการหนังแนวโรแมนติกในอีกมุมมองหนึ่งของความรักหนังเรื่องนี้ชื่อ ‘Ayat Ayat Cinta'…
Cinemania
 พิชญ์ รัฐแฉล้ม   " องค์บาก 2 " ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปี 2551 นำแสดงโดย ‘จา' พนม ยีรัมย์ หรือ ‘โทนี่จา' ในวงการภาพยนต์โลก ถือฤกษ์มงคล 5 ธันวาคม เข้าฉาย ทีมผู้สร้างวางเป้าหมายไว้ ‘องค์บาก 2' จะต้องประสบความสำเร็จอย่างงดงามสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน บัดนี้..ผ่านมาแล้วสองสัปดาห์เต็มที่ภาพยนตร์ได้ออกฉายให้แฟนๆ จา พนม ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวแอ็กชั่นได้สัมผัสอย่างเต็มตา และได้รับการตอบรับจากแฟน จา พนม เป็นอย่างดีจนสามารถฉลองความสำเร็จของรายได้ที่ทะลุเป้าหมายร้อยล้านในสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้ๆกัน ‘องค์บาก 2'…
Cinemania
  หมายเหตุ: “บันทึกอิสรา” แสดงที่มะขามป้อมสตูดิโอ ในวันที่ 9-15 ธันวาคม เวลา 19.30น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 14.00น.  รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูไปที่ www.makhampomstudio.net        “เรื่องราว... ถ้าไม่เล่าสู่กันฟัง คนข้างหลังก็จะลืม... เลือนราง” เนื้อร้องท่อนหนึ่งจากละครร้องเรื่อง “บันทึกอิสรา” ว่าเอาไว้ ชวนให้นึกเห็นด้วยไม่น้อย ทุกวันนี้ถ้าจะย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ที่ผ่านพ้นมา ก็พบว่า ประวัติศาสตร์ของหลายๆ อย่างในประเทศนี้ไม่เคยจะสมบูรณ์เสียที ประวัติศาสตร์บางแบบแม้จะเรียนแล้วก็ต้องเรียนอีก…
Cinemania
ไก่ย้อย หมายเหตุ: จดหมายฉบับนี้สร้างขึ้นจากเรื่องจริงแต่แอบอิงวิธีการนำเสนอจากภาพยนตร์เรื่อง ‘เพื่อนสนิท’ โดยสมมติเหตุการณ์ว่าเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ต้นฉบับ หากใครยังไม่มีโอกาสได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ บางทีก็อาจจะไม่เข้าใจมุกเห่ยๆ ของผู้เขียน  ส่วนใครที่ไม่อยากอ่านจดหมายฉบับนี้ ผู้เขียนก็ขอร้องว่าอย่าอ่านเลยนะพวกคุณ   ถึงเพื่อนๆ หากพวกแกได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ฉันขอร้องพวกแกอย่างหนึ่งนะว่า “อย่าคิดมาก” เพราะที่ผ่านมาเหตุการณ์บ้านเมือง และวงการวิชาการของไทยมันก็มีเรื่องซีเรียสมากมายกันพออยู่แล้ว ฉะนั้นพวกแกอย่าเสียเวลาเปลืองมันสมองเพื่อขบคิดกับจดหมายบ้าๆ บอๆ ของฉันอยู่เลย…
Cinemania
  จันทร์ ในบ่อ 20th Century Boys หรือเด็กในศตวรรษที่ 20 เป็นภาพยนตร์ที่นำเรื่องราวจากการ์ตูนชื่อเดียวกันมาสร้าง (การ์ตูนชื่อไทยว่า แกงค์นี้มีป่วน) เป็นผลงานเรื่องเด่นจากค่าย Shogakukan แต่งโดย Naoki Urasawa คนเดียวกับผู้เขียน Monster (คนปีศาจ)  20th Century Boys ยังคว้ารางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยมครั้งที่ 48 จาก Shogakukan  รางวัลชนะเลิศในงาน Media Art ครั้งที่ 6 ของทบวงวัฒนธรรมญี่ปุ่น และรางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยม ครั้งที่ 25 จาก Kodansha คอการ์ตูนเองคงรู้ดีถึงความยอดเยี่ยม ส่วนฉบับภาพยนตร์ดูแล้วก็คิดว่าว่าไม่เสียรสชาติครับ ด้วยข้อจำกัดของหนังด้านเวลาเมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อหา…
Cinemania
จันทร์  ในบ่อ หายหน้ากันไประยะหนึ่งสำหรับคอลัมภ์หนังรายสัปดาห์ของประชาไท ‘Blogazine' เลยขออนุญาตทำหน้าที่คั่นเวลาแทน ‘นพพร ชูเกียรติศิริชัย' ที่ช่วงนี้กำลังยุ่งกับการอพยพย้ายถิ่นฐาน ถ้าทุกอย่างลงตัวแล้วจะกลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิมครับ ส่วนช่วงคั่นเวลาสัปดาห์นี้ผมขอชวนคุยเรื่อง ‘ปืนใหญ่จอมสลัด' ที่กำลังลงโรงฉายเลยแล้วกัน   คงไม่ต้องการันตีคุณภาพให้มากขึ้นเมื่อปืนใหญ่จอมสลัดเป็นฝีมือกำกับเรื่องล่าสุดโดย ‘นนทรีย์ นิมิบุตร' และเขียนบทโดย ‘วินทร์ เลียววารินทร์' นักเขียนรางวัลซีไรต์ ใช้ทุนสร้างร่วม 200 ล้านบาท ภาพยนตร์ออกฉายปฐมทัศน์ครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2008…
Cinemania
  จันทร์  ในบ่อ หายหน้ากันไประยะหนึ่งสำหรับคอลัมภ์หนังรายสัปดาห์ของประชาไท ‘Blogazine' เลยขออนุญาตทำหน้าที่คั่นเวลาแทน ‘นพพร ชูเกียรติศิริชัย' ที่ช่วงนี้กำลังยุ่งกับการอพยพย้ายถิ่นฐาน ถ้าทุกอย่างลงตัวแล้วจะกลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิมครับ ส่วนช่วงคั่นเวลาสัปดาห์นี้ผมขอชวนคุยเรื่อง ‘ปืนใหญ่จอมสลัด' ที่กำลังลงโรงฉายเลยแล้วกัน   คงไม่ต้องการันตีคุณภาพให้มากขึ้นเมื่อปืนใหญ่จอมสลัดเป็นฝีมือกำกับเรื่องล่าสุดโดย ‘นนทรีย์ นิมิตรบุตร' และเขียนบทโดย ‘วินทร์ เลียววารินทร์' นักเขียนรางวัลซีไรต์ ใช้ทุนสร้างร่วม 200 ล้านบาท ภาพยนตร์ออกฉายปฐมทัศน์ครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2008…
Cinemania
  นพพร ชูเกียรติศิริชัยImagine : John LennonImagine there's no heavenIt's easy if you tryNo hell below usAbove us only skyImagine all the people  Living for todayImagine there's no countriesIt isn't hard to doNo greed or hungerAnd no religion tooImagine all the people  Living life in peaceYou may say I'm a dreamerBut I'm not the only oneI hope someday you'll join usAnd the world will live as oneImagine no possessionsI wonder if you canNothing to kill or die forA brotherhood of manImagine all the peopleSharing all the worldผมเคยได้ยินและได้ฟังเพลง Imagine…
Cinemania
  นพพร ชูเกียรติศิริชัย  อังกฤษ ปี ค.ศ. 1983 ยุคที่รองเท้า ‘บู้ท' สไตล์ Dr.Matins ทรงผม ‘สกรีนเฮด' เสื้อเชิ้ต ‘ลายสก๊อต' และกางเกงยีนส์ คือสัญลักษณ์แห่ง ‘อำนาจ' ที่เหนือกว่าชนชาติอื่นในหมู่เยาวชนชาวอังกฤษ ‘ชอน' เด็กชายวัย 12 ผู้ฝังใจอยู่กับการสูญเสียพ่อไปในสมรภูมิเกาะฟอร์คแลนด์ (สงครามแย่งชิงเกาะฟอร์แลนด์ระหว่างประเทศอังกฤษและ อาเจนติน่า) กำลังเริ่มต้นค้นหาชีวิตในวัยหนุ่มกับกลุ่มเยาวชนรุ่นพี่  เขาถูกสอนให้รู้จักกับความเป็นกลุ่มก้อน หรือความเป็นสถาบันผ่านเครื่องแต่งกายสไตล์ขาโจ๋เมืองผู้ดีในช่วงต้นคริสตศตวรรษที่ 20 เขาถูกสอนให้รู้จักกับความเป็น ‘ชาย' ผ่าน ‘เกมส์'…
Cinemania
ชญานุช เล็กตระกูลชัย    ภาพจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Mona_Lisa_Smile   “ศิลปะคืออะไร อะไรที่ทำให้มันดีหรือแย่ แล้วใครเป็นคนกำหนด” “ศิลปะไม่ใช่ศิลปะ จนกว่าจะมีคนบอกว่าใช่… มันมีมาตรฐาน เทคนิค องค์ประกอบ สี และหัวข้อ” (บางส่วนของบทสนทนาระหว่างตัวละคร ‘แคเธอรีน วัตสัน’ (จูเลีย โรเบิร์ตส์) อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ และ ‘เบ็ตตี้ วอร์เร็น’ (เคิร์สเตน ดันสต์) นักศึกษาสาวจากวิทยาลัยเวสลี่ย์คอลเลจ) ปรัชญา ศิลปะ และกระบวนการทำให้ ‘หญิง’ เป็น ‘หญิง’ ภาพยนตร์เรื่อง Mona Lisa smile นำเสนอภาพสะท้อนของสังคมตะวันตก (ทั้งยุโรป และอเมริกา) ในช่วงต้น…
Cinemania
  นพพร ชูเกียรติศิริชัย  ภาพจาก http://www.japclub.com/dvd_box/j-bics/2008_may/Crows-Zero.htm    ผมเป็นผู้หนึ่งที่รู้สึกอิดหนาระอาใจกับสถานการณ์บ้านเมืองของเรา (หรือเปล่า?) ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะผมไม่เคยคาดคิดว่า ภาพการไล่กระทืบกันอย่างเมามันด้วยความมุ่งหวังที่จะพิชิตฝ่ายตรงข้าม (ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน) จะเกิดขึ้นในสังคมที่เที่ยวประกาศกับใครต่อใครว่าเป็นสังคมที่ยึดมั่นอยู่ในพระพุทธศาสนาอย่างเข้มข้น ‘ฉากชีวิตจริง’ นั้นดุเด็ดเผ็ดมันกว่า ‘หนังบู๊’ ที่ดูผ่านหน้าจอหลายเท่านัก และดูจะสยดสยองกว่า ‘คลิปวีดีโอเด็กนักเรียนตบกัน’ เป็นไหนๆ  ส่วน ‘…
Cinemania
  นพพร ชูเกียรติศิริชัย   "to prove the Faustian dream to be a nightmare" ผมมีโอกาสประสบพบกับประโยคภาษาอังกฤษข้างต้นเป็นครั้งแรกในหนังสือ ‘POST MODERN : ชะตากรรมโพสต์โมเดิร์นในอุ้งมือนักปรัชญาการเมืองโบราณ' ของ อาจารย์ไชยันต์ ไชยพร และตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่เคยคิดว่าผมจะต้องนึกถึงมันอีกเลยไม่ว่าจะในกรณีใดๆ แต่แล้ววันดีคืนดี ในขณะที่ผมกำลังนั่งเพลิดเพลินเจริญอารมณ์อยู่กับภาพยนตร์เรื่อง Hellboy 2 : The Golden Army หลายๆ ฉาก หลายๆ ตอนในภาพยนตร์กลับทำให้มันสมองของผมเกิดระลึกถึงคำอธิบายเกี่ยวกับ ‘the Faustian dream' ของอาจารย์ไชยันต์ (ไชยพร) ขึ้นมาอย่างกระทันหัน …