ใครเป็นผู้สร้างมนุษย์
คำถามนี้เป็นคำถามที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเคยพยายามหาคำตอบมาแล้วหลายสิบปีบ้างก็ว่า พระเจ้า เป็นผู้สร้างตามพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและหลายคนก็เชื่อในเรื่องนี้มานานหลายพันปี จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์อย่าง ชาร์ล ดาวินส์ได้อธิบายการกำเนิดของมนุษย์ว่า เกิดจากวิวัฒนาการจากลิงมาเป็นคน แน่นอนว่าทฤษฏีนี้ได้รับการยอมรับอย่างมากมายจนกระทั่งในยุค 60 มีชายที่ชื่อว่า อีริช ฟอน แดนิแคนได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า Chariots of the Gods ? ที่เสนอทฤษฏีที่หลายคนพากันหัวเราะเยาะใส่ว่า
พระเจ้าที่ทุกคนนับถือคือมนุษย์ต่างดาว
หลายคนหัวเราะครับ เพราะไม่เชื่อสิ่งที่ทฤษฏีนี้ได้บอกมา ยกเว้นเพียงผู้กำกับอย่าง ริดลีย์ สก๊อตที่นำแนวคิดนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์เพื่อถามว่า ใครเป็นผู้สร้างมนุษย์และพวกเขาสร้างเราออกมาทำไม ซึ่งโครงการของมันคือ Prometheus แน่นอนว่าหลายคนจับตามองหนังเรื่องนี้ในฐานะของภาคต้นกำเนิดของหนังสยองขวัญในตำนานอย่าง Alien เสียมากกว่า ซึ่งสก๊อตนั้นได้พูดถึงการทำหนังเรื่องนี้ว่า
“ยิ่งศึกษามากขึ้นเพียงใด จักรวาลนี้ก็ไม่น่าจะมีแค่เรา มีโอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกในทางช้างเผือกนี้ สตีเฟ่น ฮอวกิ้งก็บอกว่า พวกมันมีจริง และเขาหวังว่ามันจะไม่มาเยือนเรา เพราะถ้ามันมา มันจะเหนือกว่าเราแน่ ๆ”
แต่กระนั้นหนังเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงแต่การสำรวจว่า ใครสร้างมนุษย์ แต่เป็นการตั้งคำถามเกี่ยวกับมนุษย์และพระเจ้าว่า พวกเขาต่างหรือเหมือนกันกับเราหรือไม่ในเชิงปรัชญาวิทยาศาสตร์ที่ทะเยอทะยานเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องราวของหนังเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2085 บริษัทเวย์แลนด์ ได้ส่งยานอวกาศ Prometheus ขึ้นสู่อวกาศเนื่องจากนักวิทยาศาสตร์สองสามีภรรยาอย่าง ด๊อกเตอร์ อลิซาเบธ ชอว์ กับ ด๊อกเตอร์ฮอลโลเวย์ได้ค้นพบสัญลักษณ์บางอย่างในถ้ำในสก๊อตแลนด์ที่บอกนำทางพวกเขาให้เดินทางไปยังดาว LV-223 ซึ่งที่นั้นพวกเขาได้พบกับบางสิ่งที่คล้ายกับสิ่งก่อสร้างโบราณที่ภายในมีซากของสิ่งที่ถูกเรียกว่า ผู้สร้างอยู่ ทว่าการเดินทางสำรวจในคราวนี้กลับกลายเป็นฝันร้ายที่หลายคนไม่อาจจะลืมได้
สิ่งที่เราได้รู้จากหนังก็คือ มนุษย์เกิดจากผู้สร้างที่กินน้ำดำเข้าไปแล้วตายกลายเป็นเซลที่พัฒนากลายเป็นมนุษย์ในภายหลัง หลายคนสงสัยว่า ผู้สร้างคืออะไร ผมตอบได้เพียงว่า พวกเขาอาจจะเป็นเผ่าพันธุ์นักประดิษฐ์ที่ออกเดินทางไปทั่วจักรวาลเพื่อหว่านเมล็ดพันธุ์สิ่งมีชีวิตไปเรื่อย ๆ ก็เป็นได้ แต่คำถามที่น่าสนใจก็คือ
พวกเขาสร้างมนุษย์ขึ้นมาทำไม
คำตอบคือ ไม่มีคำตอบครับ (เพราะอาจจะยกไปตอบในภาคสอง) แต่บางทีคำตอบอาจจะคล้ายกับคำตอบที่ เดวิด หุ่นแอนดรอย์ของเวย์แลนด์ได้ยินจากปากของด๊อกเตอร์ฮอลโลเวย์ตอนถามว่า พวกคุณสร้างผมขึ้นมาทำไม
และคำตอบก็คือ
“เราสร้างเพราะ เราทำได้”
“รู้ไหมว่า ถ้าคุณได้ยินผู้สร้างบอกพวกคุณแบบนั้นบ้าง คุณคงผิดหวังที่ได้ยินแบบนี้”
ตัวละครที่น่าสนใจในเรื่องนี้หากจะหยิบยกขึ้นมาคงไม่พ้นตัวละครอย่าง เดวิด หุ่นแอนดรอย์ที่ทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับการเดินทางครั้งนี้ ด้วยความที่เขาเป็นหุ่นยนต์ เขาจึงเป็นตัวละครที่แทบไม่แสดงอารมณ์อันใดนอกจากการทำหน้านิ่ง ๆ หรือยิ้มแบบแหยะ ๆ ที่น่าขนลุก เขาจึงเป็นตัวละครที่เรียกว่า ไม่น่าไว้ใจที่สุดของเรื่องนี้ เพราะการกระทำของเขานั้นเกิดจากคำสั่งล้วน ๆ ว่า ให้ทดลองใช้น้ำดำเพื่อทดสอบบางอย่าง ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับด๊อกเตอร์ฮอลโลเวย์ที่กินน้ำดำเข้าไปแล้วกลายเป็นซอมบี้ หรือการที่ด๊อกเตอร์ชอว์ที่มีเซ็กซ์กับฮอลโลเวย์แล้วมีลูกเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายปลาหมึก ก็เกิดจากผลการกระทำของเดวิดทั้งสิ้น
จะว่าไปแล้วการกระทำของเดวิดนั้นก่ำกึงอยู่ระหว่างคำว่า คำสั่งกับความอยากรู้อยากเห็นอยู่ไม่ใช่น้อย ด้วยความที่ไม่สามารถฟันธงพฤติกรรมใด ๆ ได้ทำให้ทุกฉากการปรากฏตัวของเดวิดนั่นดูน่าสะพรึงเสียยิ่งกว่าเอเลี่ยนซะอีก
นอกจากนี้ยังมีคำถามว่า เขาแอบสนใจตัวด๊อกเตอร์อลิซาเบธ ชอว์อยู่หรือไม่ ในเชิงความรัก
มีคำถามว่า หุ่นยนต์นั้นสามารถรักใครได้หรือเป็นเพียงแค่โปรแกรมเท่านั้น
จริง ๆ แล้วเดวิดเป็นเสมือนการลอกเลียนแบบการสร้างของพระเจ้า คือ มนุษย์เริ่มสร้างสิ่งที่คล้ายพวกสัตว์ก่อนอย่าง หุ่นยนต์ก็เป็นรูปสัตว์จากนั้นก็ค่อย ๆ สร้างเป็นหุ่นที่เหมือนคนมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนในที่สุดหุ่นยนต์ก็มีรูปลักษณ์เป็นคน
จะว่าไปชื่อยานว่า โพธีเมอุส เป็นชื่อของยักษ์ไททันชื่อเดียวกันในตำนานของกรีกผู้ขโมยไฟมาให้แกมวลมนุษย์ ดั่งคำพูดในคลิปของเวย์แลนด์ที่ว่า ไฟคือ สิ่งประดิษฐ์แรกของมนุษย์
และการสร้างเดวิด คือการเริ่มต้นของการเล่นเป็นพระเจ้าของมนุษย์
ตัวละครที่อีกตัวที่น่าสนใจคือ ด๊อกเตอร์อลิซาเบธ ชอว์ ผู้มีศรัทธาต่อพระเจ้าที่ตนเคารพอย่างยิ่ง เธอเชื่อว่า พระเจ้าสร้างพวกเธอมาเพื่อกระทำบางอย่าง เธอต้องการพิสูจน์เรื่องนี้จึงออกเดินทางมายังโลกใบนี้และได้รับรู้ว่า พระเจ้าที่เธอวาดฝันเอาไว้กลับคิดพยายามจะทำลายล้างทุกอย่างให้หมดสิ้น
“เราทำอะไรผิด ทำไมคุณถึงเกลียดเรา”
เสียงของเธอที่ถามผู้สร้างที่เธอได้พบด้วยความใคร่รู้ถึงเหตุผลที่สร้างพวกเธอมาทำไม และจะทำลายพวกเขาทำไม แน่นอนว่าไม่มีคำตอบใดจากปากของผู้สร้างนอกจากคำพูดของเดวิดว่า
“บางครั้งจะสร้างสิ่งใดก็ต้องทำลายซะก่อน”
นั้นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผู้สร้างจึงจะนำน้ำดำที่พวกเขาสร้างไปที่โลก ก็เพื่อทำลายโลกและสร้างใหม่ขึ้นมานั้นเอง ดังนั้นหากจะแทนภาพของน้ำดำและผู้สร้างมันก็คือ ความคิดประเภทว่า ทำลายก่อนแล้วค่อยสร้างที่หลัง หรือ ความคิดแบบว่า ปิดประเทศห้าหกปีแล้วค่อยเปิดหรือแช่แข็งประเทศ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความคิดของเผน็จการที่ลุแก่อำนาจจนมีความคิดจะทำลายทุกสิ่งโดยไม่สนใจกระทั่งคำทักทานของใคร
เพราะตัวเองคิดไปเองว่า มันถูกต้อง
\
อีกตัวละครที่น่าสนใจคือ ปีเตอร์ เวย์แลนด์ เจ้าของบริษัทที่น่าจะตายไปแล้วเพราะอายุของเขาในตอนหนุ่มและเวลาเดินทางนี้ไม่น่าจะสัมพันธ์กัน ทว่าเขากลับแอบหลับอยู่แคปซูลนี้อยู่ตลอดและเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังคำสั่งของเดวิดให้ทำสิ่งต่าง ๆ อยู่ตลอด และเขาเดินทางมากับยานลำนี้เพื่อขอชีวิตอมตะจากผู้สร้าง
“เขาสร้างเรา ก็น่าจะช่วยเราได้”
ก่อนที่เขาจะถูกทำร้ายจากผู้สร้างผู้โกรธเกรี้ยวจากคำพูดของเดวิดที่แปลเป็นไทยว่า ชายคนนี้เดินทางมา เพราะเขาไม่อยากตาย เขาอยากให้คุณช่วย
และผลของมันทำให้ผู้สร้างโกรธจัดและเล่นงานทั้งหมดในที่สุด
ชมคลิปการพูดของเวย์แลนด์ในงานแสดงเทคโนโลยีที่เขาประกาศตัวเองว่า เป็นพระเจ้าแล้ว
http://www.youtube.com/watch?v=iNOovznuIrY
บางที่หนังเรื่องนี้อาจจะพูดปรัชญาที่สำคัญที่สุดในโลกใบนี้ก็ได้ ปรัชญาอันว่า ด้วยความตาย
ไม่มีใครหนีความตายไปได้ ต่อให้รวยล้นฟ้าหรือจนแบบยาจกก็ไม่มีใครพ้นความตาย มีอำนาจมากแค่ไหนก็ต้องตายเหมือนกัน ดังนั้นการดิ้นรนของปีเตอร์ เวย์แลนด์จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้สร้างไม่พอใจและโกรธในความมักมากของมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่เขาสร้างขึ้นมาอวดอ้างกระทั่งเป็นพระเจ้ามาขอให้เขาช่วยให้มีชีวิตอมตะ
ทั้ง ๆ ที่แม้แต่ผู้สร้างเองก็มีวันตาย
เช่นเดียวกับทุกสิ่ง ตำนานถูกลืมเลือนย่อมคือความตายของตำนาน ศาสนาไม่ได้รับนับถือเท่ากับศาสนานั้นตาย มนุษย์มีชีวิตและสิ้นสุดลงเมื่อตาย ทุกสรรพสิ่งต่างมีชีวิตอยู่พอรอวันสุดท้ายของชีวิตที่จะมาถึงในสักวันหนึ่งทั้งนั้น
ผมไม่เคยได้ยินว่า มีมนุษย์ที่เป็นอมตะ ไม่สิ ผมไม่เคยได้ยินว่า สิ่งใดบนโลกเป็นอมตะ ทุกอย่างย่อมตายเมื่อถึงเวลาของมันทั้งนั้น
เพียงแต่ความตายก็เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ เราคงจำเอเลี่ยนกันได้ว่า มันเกิดขึ้นเมื่อทะลวงร่างที่มันอาศัยอยู่ออกมานั้นก็คือ การตายเพื่อกำเนิดใหม่
การตายในเรื่องนี้ก็ได้ก่อเกิดชีวิตใหม่ขึ้นมา
ในช่วงท้ายของหนังหลังจากทุกอย่างยุติลงแล้ว ด๊อกเตอร์อลิซาเบธ ชอว์ได้ถามเดวิดว่า เขาขับยานของพวกผู้สร้างได้ไหม เดวิดบอกว่า เขาทำได้ เขาพาเธอกลับไปโลกได้ ทว่าด๊อกเตอร์ไม่ต้องเช่นนั้นแล้วบอกเดวิดว่า
“ฉันไม่ต้องการไปที่เรามา แต่อยากไปที่ที่พวกเขาจากมา”
เดวิดรับว่า เขาพอจะทำได้และทั้งสองก็ออกเดินทางด้วยยานอีกลำเดินทางไปสู่โลกของผู้สร้างเพื่อตอบคำถามที่ค้างคาใจของเธอ พวกเขาสร้างเราขึ้นมาทำไม จะทำลายด้วยเหตุผลใด น้ำดำคืออะไร และอีกนับคำถามที่ยังไม่มีการตอบ ด๊อกเตอร์อลิซาเบธเดินทางไปเพื่อหาคำตอบนั้นพร้อมกับศรัทธาในพระเจ้าต่อไป
อย่างมีความหวัง
ดังคำที่ว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่มักจะเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ
ปรัชญาสั้น ๆ และการเดินทางของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังหาคำตอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวาล ในอนาคตไม่ช้านี้