Skip to main content

        ต้องบอกว่า นี่คือ อนิเมะที่มาแรงแซงทางโค้งที่สุดในซีซั่นที่ผ่านมาเลยทีเดียว ท่ามกลางกระแสอนิเมะฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมามากมายและหลายคนคาดว่า อนิเมะที่ถูกดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลชื่อเดียวกันของ ยู คามิยะ นักเขียนการ์ตูนที่อยู่ในวงการนี้มานานแล้วก่อนจะหันมาเขียนไลท์โนเวลของตัวเอง ก่อนจะสร้างกระแสโด่งดังไปทั่วทั้งเรตติ้งการฉายในทีวีที่สูงมาก ๆ แถมยังทำให้ยอดขายหนังสือนิยายของต้นฉบับนั้นขายดีเทน้ำเทท่ามากกว่าก่อนที่จะมีอนิเมะซะอีก (ฉบับแปลไทยขายดีมาก ๆ จนมีการพิมพ์ครั้งที่ 2 อย่างรวดเร็ว แถมยังขายหมดในงานหนังสืออย่างรวดเร็วด้วย) บวกกับคำวิจารณ์ที่ดี ซึ่งบ่งบอกว่า อนิเมะประสบความสำเร็จค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอนิเมะเรื่องดังอื่น ๆ ที่ออกฉายด้วยกัน (ซึ่งโนเวลชื่อดังบางเรื่องที่ออกฉายพร้อมกันยังไม่สามารถสร้างความประทับใจได้ด้วยซ้ำไป) 

          แน่ล่ะว่า หลายคนต่างสนใจว่า ไลท์โนเวลหรืออนิเมะเรื่องนี้มีดีอย่างไร ทำไมมันถึงได้รับความสนใจจากบรรดาคนดูหรือกระทั่งนักวิจารณ์ที่ต่างจับตามองว่า ทำไมไลท์โนเวลเรื่องนี้ถึงได้รับความนิยมขนาดนี้ ผมจะพาท่านกระโจนไปสำรวจโลกของอนิเมะเรื่องนี้กันอย่างถึงพริกถึงขิงว่า ทำไมไลท์โนเวลเรื่องนี้จึงได้รับการจับตามองและได้รับความนิยมได้มากขนาดนี้

          มาลองอ่านไปด้วยกันครับ

          เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสองพี่น้องฮิคิโคโมริและเป็นนีทได้แก่ โซระ และ ชิโระ ผู้อาศัยใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังในบ้านเพียงสองคนและใช้ชีวิตไปวัน ๆ ด้วยการเล่นเกมจนกลายเป็นสุดยอดตำนานนักเล่นเกมที่เก่งกาจที่สุดในโลกในนาม คูฮะคุ ท่ามกลางความขัดแย้งในใจที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่โลกใบนี้ก็โหดร้ายเกินไปสำหรับพวกเขา มันโหดร้ายจนพวกเขาเลือกจะเก็บตัวอยู่ในบ้านทำสิ่งตัวเองถนัดนั่นคือ การเล่นเกม จนหมดสิ้นคู่แข่งและความท้าทายไปแล้ว กระทั่งวันหนึ่งมีเมล์ปริศนาส่งมาจากบุคคลลึกลับที่ท้าทายให้สองพี่น้องเล่นเกมกับเขานั่นคือ เกมหมากรุก ที่ทำเอาโซระถึงกับไปไม่เป็น แต่ชิโระ น้องสาวก็เอาชนะได้ ก่อนจะพบว่า เมล์นั้นคือ บททดสอบจากพระเจ้าของต่างโลก นามว่า เทโตะ ที่ทำให้ทั้งสองคนถูกส่งไปยังโลกแฟนตาซีต่างมิติที่ไม่มีสงครามไม่มีการฆ่าฟัน เพราะ ทุกอย่างนั้นตัดสินด้วยการเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นอะไร กระทั่งการแย่งชิงแผ่นดินเลยก็ตาม และในโลกแห่งนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ถูกเรียกว่า อิมานิตี้ นั้นกำลังอยู่ในสภาพย่ำแย่หลังจากพ่ายแพ้ในเกมต่าง ๆ ต่อบรรดาเผ่าพันธุ์อื่นที่แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า การมาของโซระและชิโระจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้และอนาคตของอิมานิตี้ได้อย่างไร

          ต้องบอกว่า ถ้ามองกันอย่างผิวเผินแล้ว โนเวลเรื่องนี้นั้นมีองค์ประกอบที่แทบจะเรียกว่า เป็นการทำซ้ำของบรรดาไลท์โนเวลกระแสหลักทั้งหลาย เพราะองค์ประกอบของมันนั้นเต็มไปด้วยสิ่งไลท์โนเวลกระแสหลักทั้งหลายทำมาแล้ว ตั้งแต่ ตัวเอกของเรื่องที่เจอเรื่องราวเลวร้ายจนหลีกหนีความจริงจนหลุดไปยังโลกแฟนตาซีที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา จากบุคคลไร้ค่าในโลกเดิมที่มีความสามารถที่ไร้ประโยชน์ กลับกลายเป็นผู้กล้า ผู้กอบกู้ที่จะช่วยเหลืออีกโลกหนึ่งไป นั่นคือสิ่งที่เป็นเสมือนต้นแบบให้กับไลท์โนเวลหลายเรื่องมานานแล้ว แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ การที่ไลท์โนเวลเรื่องนี้นั้นเลือกจะกำหนดให้โลกใบนี้นั้นเป็นโลกที่ถูกตัดสินด้วยเกมนั่นเอง

          แน่ล่ะว่า การที่โลกใบนี้นั้นถูกกำหนดไว้แบบนี้ หลายคนคงแสยะยิ้มว่า แบบนี้ตัวละครเอกในเรื่องที่มีความถนัดทางนี้คงจะผ่านอะไรไปง่าย ๆ เป็นแน่แท้ ทว่า ตัวไลท์โนเวลกลับให้เราเห็นว่า ถึงจะเป็นโลกที่เหมือนถูกสร้างมาให้เข้าทางพี่น้องคู่นี้นั้นก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะเอาชนะเกมต่าง ๆ ได้ง่ายเสียเมื่อไหร่

          เพราะ ทุกเกมนั้นมีเดิมพันที่สูงมากจนฝ่ายตรงข้ามนั้นพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะ ไม่เว้นกระทั่งการโกงเองก็ตาม (จึงมีกฎออกมาว่า คนที่โกงจะถูกปรับแพ้ ถ้าสามารถจับทริคของการโกงได้)

          นั่นเองที่ส่งผลให้เผ่าพันธุ์มนุษย์หรืออิมานิตี้อยู่ในสภาพหมาจนตรอก เพราะ ความพ่ายแพ้แก่เผ่าพันธุ์ทั้งที่ 15 มาโดยตลอด จนกระทั่งเหลือเพียงเมืองหลวงสุดท้ายที่แสนคับแคบและไร้ซึ่งประโยชน์เท่านั้นเอง

          แน่นอนว่าทั้งโซระนั้นวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นกับอิมานิตี้ผ่านคำบอกเล่าของ สเตฟานี่ ดอร่า หลานสาวของราชาคนสุดท้ายอิมานิตี้ ที่ต้องการจะฟื้นฟูประเทศนี้อีกครั้งจนเขามั่นใจว่า สาเหตุที่อิมานิตี้พ่ายแพ้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากความอ่อนแอของมนุษย์ แต่เกิดขึ้นเพราะพวกเขาเล่นเกมเหล่านั้นโดยไม่มีกลยุทธเลยตั้งหาก

          อย่างที่บอกไป โลกใบนี้นั้นใช้เกมเป็นการต่อสู้ดังนั้น จำเป็นต้องใช้ทุกวิถีทางในการเอาชนะแม้แต่การเล่นโกงเองก็ตาม ดังนั้นหากจะสู้ให้ชนะพวกเผ่าอื่นแล้วก็จำเป็นต้องเข้าใจกฎของโลกนี้และที่สำคัญก็คือ การวางกลศึกนั่นเอง

          เพราะโลกใบนี้ไม่มีการฆ่าฟัน หรือสงครามใด ๆ แล้วก็จริง แต่ความขัดแย้งและทะเยอของเหล่าเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้จบสิ้น

          เพียงแต่เปลี่ยนรูปมาเป็นการแข่งขันด้วยเกมก็เท่านั้น

          ดังนั้นการต่อสู้ของพวกโซระกับชิโระจึงไม่ใช่การแข่งเกมเท่านั้นแต่ต้องใช้ทุกวิถีทางทั้งการวางแผน วางกลยุทธในการต่อสู้ รวมทั้งการเจรจา และจิตวิทยาทั้งหมดไปด้วย เรียกว่า เป็นการต่อสู้ที่ต้องใช้ความสามารถรอบด้านจริง ๆ และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ความสามารถที่เก่งกาจที่แตกต่างกันของโซระกับชิโระที่เสมือนเป็นส่วนเติมเต็มให้กันและ โซระนั้นเชี่ยวชาญการอ่านใจ ลูกบลั้ฟ หรือ การเล่นงานเชิงจิตวิทยา วางแผนรบ ลักษณะของเขานั้นเป็นเหมือนพวกที่มองคนได้อย่างทะลุปุโปร่งมากเกินไป และการที่เขาเป็นแบบนี้ส่งผลให้ โซระไม่อาจจะอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยมนุษย์ใส่หน้ากากอันแสนไม่จริงใจนี้ได้เลย แน่ล่ะว่า เกมที่โซระถนัดนั้นมักจะเป็นเกมที่ใช้จิตวิทยาหรือการวางแผนเสียส่วนมาก ต่างจากชิโระ น้องสาวของเขาที่เรียกว่า เป็นอัจฉริยะของจริง เพราะ เธอสามารถจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งคำนวณทฤษฏียาก ๆ การอ่านหนังสืออย่างรวดเร็วและจดจำมันรวมทั้งนำไปประยุกต์เพื่อใช้จริงได้อย่างรวดเร็ว ความสามารถของชิโระนั้นทำให้เธอเก่งเกินไปจนไม่มีใครคบหาด้วย แถมยังถูกแกล้งจนไม่ไปโรงเรียนอีกเลย

          ทั้งสองคนจึงมีสภาพเป็นเสมือนตัวแทนของวัยรุ่นญี่ปุ่นที่ต้องประสบปัญหาในชีวิตตัวเองที่ไม่สามารถอยู่ในสังคมที่แตกต่างกับตัวเองได้ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่นั้นอยู่ไม่ได้นั้นเกิดขึ้นจากความสามารถระดับเทพเจ้าของพวกเขานั้นเป็นที่รังเกียจและอิจฉาของคนรอบข้าง จนทำให้พวกเขาถูกรังแก เกลียดชัง ส่งผลให้พวกเขาเลือกที่จะหลบอยู่ในห้องที่ที่พวกเขาสามารถอยู่ได้อย่างสบายใจที่สุด

          มันคือ ภาพของวัยรุ่นที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับโลกแห่งความจริงได้นั่นเอง

          จากที่เราทราบนั้น ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่เป็นทุนนิยมเข้มข้นที่เต็มไปด้วยการแข่งขันสูงส่งผลให้สภาพสังคมอยู่ในสภาพตรึงเครียดทางสังคม ระบบสังคมทุนนิยมนี้เป็นภาพจำลองมาจากสังคมอเมริกันในยุค อเมริกันดรีม ที่มีสภาพเป็นเหมือนสังคมจำลองของญี่ปุ่นที่พ่อจะทำหน้าที่ในการหาเงินเข้าบ้าน แม่จะเป็นแม่บ้านที่คอยดูแลบ้านและรอการกลับมาของสามี ส่วนลูก ๆ จะมีหน้าที่ไปเรียนหนังสือและกลับมากินข้าวเย็นอย่างสุขสันต์ ราวกับภาพความฝัน โดยหารู้ไม่ว่า สังคมอเมริกันดรีมได้ล่มสลายลงพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับสังคมญี่ปุ่นเองที่มีข่าวการฆ่าตัวตายและการกลั่นแกล้งในโรงเรียนที่สูงมาก ยิ่งบวกกับความเคร่งเครียดทางเศรษฐกิจยิ่งทำให้เกิดโรคทางจิตต่าง ๆ ขึ้นอันเป็นภาพสะท้อนของถึงความล้มเหลวของสถาบันต่าง ๆ ในประเทศแห่งนี้

          โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาและครอบครัวที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เลย

          แน่นอนว่า โรคทางจิตอย่าง ฮิคิโคโมริ สตอคเกอร์ หรือกระทั่ง นีท เองล้วนแล้วแต่เป็นโรคทางจิตเภทที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นเท่านั้น

          จึงไม่แปลกที่โซระและชิโระคือ ภาพสะท้อนของกลุ่มคนเหล่านี้ที่ไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้ในสังคมได้และต้องหลีกหนีหายไปในโลกส่วนตัวของตัวเองไป

          จะบอกว่า โลกแฟนตาซีในไลท์โนเวลส่วนมากนั้นมีขึ้นเพื่อสะท้อนภาพของวัยรุ่นที่พยายามตามหาโลกที่ตัวเองจะสามารถใช้ความสามารถของตัวเองได้อย่างเต็มที่ในโลกใบนั้น อาจจะมองว่า มันคือการจินตนาการมองหาที่อยู่ของตัวเอง และ แสวงหาคนยอมรับตัวตนของพวกเขาให้ได้ด้วย

          ประดุจดั่ง โซระกับชิโระที่เก่งกาจเกินไปในโลกใบนี้ และ แน่นอนว่า ความเก่งกาจจนไม่สามารถเข้ากับใครได้นั้นก็เหมือนการบอกเหล่าโอตาคุหรือบุคคลเหล่านั้นให้แสวงหาที่อยู่และสถานที่จะแสดงความสามารถของตัวเองออกมาให้ได้นั่นเอง

          กระนั้นเองในโลกใบใหม่นี้ โซระและชิโระได้พบว่า มันไม่มีอะไรง่ายเลยในการต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่า พวกเขาต้องใช้ทริคและวางแผนอย่างเข้มข้นที่สุดและใช้จุดเด่นด้อยของการเป็นมนุษย์ในการสู้กับเผ่าพันธุ์เหล่านี้

          ในฐานะเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุด

          และการที่เป็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุดก็ทำให้ทั้งสองคนสามารถใช้ความอ่อนแอนี่ล่ะตอบโต้เผ่าพันธุ์เหล่านั้น

          ดั่งที่เห็นพวกโซระเอาชนะเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งได้มาตลอด แม้จะชนะแบบเฉียดฉิวบ้าง หรือเกือบแพ้บ้าง แต่สุดท้ายพวกเขาก็พิสูจน์ให้บรรดาเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งนั้นได้รับรู้ว่า

          มนุษย์ที่พวกเขาดูถูกว่า อ่อนแอนั้นไม่ใช่หมูให้พวกเขาเคี้ยวเล่นอย่างที่คิด

          ทัศนคติของการถูกเหยียดหยามของอิมานิตี้หรือมนุษย์ปรากฏชัดขึ้นในเล่มที่ 2 เมื่อโซระและชิโระที่ต้องเผชิญหน้ากับ จิบริล หญิงสาวจากเผ่าพันธุ์ฟูลเกล (เผ่าพันธุ์มีปีก) ที่ยึดครองห้องสมุดของมนุษย์เอาไว้เพราะต้องการความรู้ให้มากขึ้นไปอีก โซระและชิโระได้เผชิญหน้ากับเธอคนนี้ที่กระสันอยากจะใฝ่หาความรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดด้วยเหตุผลด้านอายุที่ยืนยาวกว่าทำให้พวกเขาเบื่อหน่ายการอยู่ไปวัน ๆ ดังนั้น จิบริลจึงเดินทางมาที่นี่เพื่ออ่านความรู้ทั้งหมดที่มีนั่นเอง

          แน่นอนว่า ด้วยความเป็นถึงเผ่าพันธุ์มีปีก ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 6 ของการจัดระดับชั้นนับว่า เป็นเผ่าพันธุ์ระดับสูงเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่า จิบริลที่มีศักดิ์ศรีในฐานะเผ่าพันธุ์ลำดับหกนั้นได้กล่าวพูดจาเชิงสบประมาทโซระและชิโระทันที เพราะเธอไม่เชื่อว่าทั้งสองคนมาจากต่างโลกจริง แถมยังมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับอิมานิตี้ หรือ มนุษย์ของโลกนี้อีกด้วยก็ทำให้ท่าทีของเธอนั้นเต็มไปด้วยการดูแคลนแทบจะตลอดด้วยซ้ำ อาทิ บทสนทนาประมาณว่า

          สำหรับเผ่ามนุษย์ที่อ่อนแอก็ทำให้ถือว่า สนุกพอควรแล้วนะคะ จิบริลกล่าวกับโซระที่กำลังเล่นเกมต่อคำกันอยู่

          เอาเถอะ ถ้ามองจากท่านอันดับที่หกแล้วก็เนอะ มนุษย์อย่างพวกเราก็ไม่ต่างไปจากลูกมดเลยสิเนอะ แค่คิดว่า ดูถูกลูกมดไปหน่อยก็เท่านั้นเอง โซระกล่าวตอบโต้

          และแน่นอนว่า การต่อสู้จบลงด้วยชัยชนะของมนุษย์ที่แสนอ่อนแอและตัวของจิบริลดูถูกมาตลอดทาง และการที่เธอดูถูกมนุษย์นั้นเอง

          ที่ทำให้เธอพ่ายแพ้

          อย่างที่เรารู้ มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่แสนจะอ่อนแอ พวกเราไม่ได้เป็นอมตะ เราบินไม่ได้ เราใช้เวทย์มนต์ไม่ได้ เราไม่มีพละกำลังแข็งแรงจนยกภูพาได้ เราไม่ได้วิ่งรวดเร็วราวกับจรวด เราไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งแบบพวกฟูเกลหรือเทวดาทั้งหลาย

          จึงไม่แปลกที่เหล่าเผ่าพันธุ์เหล่านี้จะดูแคลนมนุษย์อย่างมากมายโดยหลงลืมไปว่า ความอ่อนแอนั้นไม่ใช่จุดอ่อนของมนุษย์แต่อย่างใด

          มันกลับกลายเป็นจุดที่ทำให้มนุษย์นั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตใดบนโลกใบนี้

          เพราะเราบินไม่ได้ เราจึงสร้างเครื่องบินทะยานไปบนท้องฟ้า

          เพราะเราใช้เวทย์มนต์ไม่ได้ เราจึงมีวิทยาศาสตร์ที่ทำให้สร้างสิ่งต่างออกมาอย่างมากมาย

          เพราะ เราวิ่งไม่เร็วแบบสัตว์ป่า แต่เราก็สร้างรถยนต์ขึ้นมาใช้แทนได้

          เพราะ เราไม่สามารถออกไปนอกโลกได้ด้วยตัวเอง เราจึงมียานอวกาศที่ทำให้เราทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่าง การเหยียบดวงจันทร์มาแล้ว

          เพราะมนุษย์นั้นอ่อนแอ เราจึงพัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง พยายามชดเชยทักษะที่ขาดหายไปด้วยสิ่งอื่น นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมมนุษย์จึงสามารถเอาชนะเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งในเกมได้

          แน่ล่ะว่า อาจจะเพราะ โซระกับชิโระ เป็นคนต่างโลกทำให้พวกเขามองโลกได้แตกต่างจากคนในโลกใบนี้อยู่แล้ว กระนั้นเองถ้าไม่มีตัวละครตัวหนึ่งแล้วล่ะก็พวกเขาอาจจะทำไม่สำเร็จก็เป็นได้

          ครับ ผมกำลังพูดถึงตัวละครที่หลายคนบอกว่า ไร้ประโยชน์ อ่อนแอและน่ารำคาญที่สุดในเรื่องนี้อย่าง สเตฟานี่ ดอล่า ครับ

          สเตฟานี่ ดอล่า หรือ สเตฟ เป็นหลานสาวของราชาของอาณาจักรอิมานิตี้นี้ ที่พยายามอย่างยิ่งจะฟื้นฟูอาณาจักรที่ใกล้ตายนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ทว่า ในการแข่งขันหาผู้เป็นราชานั้น เธอได้พ่ายแพ้ไปด้วยกลโกงที่ตัวเธอไม่รู้ แถมตัวเธอยังแพ้ให้โซระเสียอีกจนต้องทำตามเงื่อนไขที่ว่า จะต้องหลงรักโซระนั้นเอง นับจากนั้นมา สเตฟก็อยู่ในฐานะลูกไล่ที่ให้พวกโซระและชิโระกลั่นแกล้งอยู่เสมอ ๆ บวกกับนิสัยของเจ้าตัวที่ซื่อบื้อ บวกกับการขี้วีนจนน่ารำคาญทำให้หลายคนไม่ค่อยชอบตัวละครตัวนี้ ทว่า เหมือนฟ้าเล่นตลกที่อาจารย์คนเขียนอย่าง คามิยะ ยู กลับชอบเธอมากกว่าที่คิดซะอีก ส่งผลให้หลายคนต้องมานั่งวิเคราะห์หญิงสาวคนนี้มีอะไรที่น่าสนใจจนอาจารย์คนเขียนนั้นชอบจนออกนอกหน้าเลยด้วยซ้ำ ท่ามกลางความสงสัยของใครหลายคนที่มีต่อเธอคนนี้

          แน่ล่ะว่า สำหรับผมแล้วมองว่า ถ้าโซระมีสถานะเหมือนกับกุนซือที่คอยกำหนดแผนการต่าง ๆ ทั้งเรื่องเกม หรือการบริหารเมืองแล้วนั้น ชิโระก็เหมือนราชาไพ่ตายที่ใช้ในการต่อสู้ จิบริลเป็นเหมือนปุโรหิตที่ทำหน้าให้ความรู้แก่ทั้งสองคน และ สเตฟล่ะคืออะไร

          คำตอบคือ แม่บ้านหรือ เลขาธิการนั่นเอง

          เราจะเห็นได้ว่า ถึงโซระหรือชิโระจะเก่งแค่ไหน พวกเขาก็ไม่ใช่คนที่จะคุมประเทศหรือปกครองคนอื่นได้ ดังนั้นพวกเขาจึงมอบหมายงานพวกนี้ให้กับสเตฟในการดูแลงานราชการและสารทุกข์สุขดิบของประชาชนอีกทาง แน่นอนว่า แม้จะไม่เข้าใจในความต้องการของทั้งสองคนเท่าใดนัก แต่สเตฟก็ยอมทำตามแต่โดยดี ผลก็คือ เมืองที่น่าจะมีการจลาจลบ่อย ๆ และมีการพัฒนาช้านั้นแทบจะไม่มีเลย แถมยังทำให้เมืองอยู่ได้อย่างปกติสุขด้วย

          บทบาทของสเตฟจึงคล้ายกับบุคคลในประวัติศาสตร์ของจีนอย่าง โลซก ในสามก๊ก ที่ทำหน้าที่คอยประสานและคอยดูแลความร่วมมือของทั้งสองก๊กทั้งง่อและจ๊กในการต่อสู้ร่วมกันกับก๊กวุยที่กำลังแผ่ขยายอิทธิพลลงมายังทางใต้ แน่ล่ะว่า ทั้งสองก๊กนั้นต้องมองหาผลประโยชน์ของตัวเองและจ้องกัดกันโดยตลอด ทว่า ความจริงใจและเข้ากับคนง่ายของ โลซก ทำให้ทั้งสองสามารถดำเนินงานกันไปได้ด้วยดีจนในที่สุดก็เอาชนะโจโฉได้สำเร็จ

          กระนั้นการตายของโลซกก็กลายเป็นจุดสิ้นสุดของมิตรภาพของง่อก๊กและจ๊กไปในตัว ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์การตายของกวนอูในกาลต่อมา

          ดังนั้นต้องบอกว่า สถานะของสเตฟจึงเป็นแบบนี้

          และช่วยยืนยันว่า สำหรับโซระและชิโระแล้วไม่มีใครที่ไร้ค่าและว่างเปล่าเหมือนชื่อทีมของเขาอย่าง คูฮะคุ เลย เพราะ พวกเขารู้ดีว่า คนเรานั้นมีสิ่งทำได้และไม่ได้เหมือนกัน ยกเว้นเพียงแค่จะได้อยู่ในสถานการณ์และสถานที่ที่ทำให้สามารถแสดงฝีมือได้ก็เท่านั้นเอง

          เหมือนเช่นที่พวกเขาสองคนได้มาที่โลกใบนี้ โลกที่เหมือนถูกสร้างขึ้นเพื่อพวกเขา ให้ใช้ความสามารถที่ตัวเองมีในการฟันฝ่าไป

          สเตฟเองก็มีสิ่งที่ตัวเองทำได้ จิบริลก็เช่นกัน คลามี่เองก็ด้วย ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความเก่งกาจเฉพาะด้านกันทั้งนั้นยกเว้นเพียงแค่จะได้ใช้มันในสถานการณ์ที่เหมาะสมหรือไม่ก็เท่านั้น

          ไม่แปลกที่สเตฟ จิบริล คลามี่ จะเป็นส่วนเติมเต็มที่ทั้งโซระและชิโระไม่มี และช่วยยืนยันให้เรารู้ว่า ความอ่อนแอคือ จุดแข็งที่สุดของมนุษย์

          เพราะเราอ่อนแอ เราจึงพยายามเพื่อจะพัฒนาตัวเองให้มากขึ้นเพื่อเอาชนะสิ่งที่เหนือกว่า

            นั่นคือความแข็งแกร่งที่มนุษย์มี แต่เหล่าเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ไม่มี

            ชีวิตมันก็เหมือนเกม อาจจะเป็นคำอธิบายที่น่าสนใจ เพราะ โซระและชิโระมองเรื่องราวเป็นเสมือนเกมที่จะต้องหาทางเอาชนะให้ได้

          สมคำที่เรียกว่า No Game No life

          ไม่ใช่เกม ไม่ใช่ชีวิต นั่นเอง

          ก็ไม่แปลกที่โซระกับชิโระจะล้มเผ่าพันธุ์เวอร์บีสต์ (เผ่ามนุษย์สัตว์) ที่เคยเอาชนะจิบริลมาแล้วได้ แม้จะถูกกลโกงสารพัดก็ตาม แต่เพราะแผนการที่ยอดเยี่ยมและการร่วมมือร่วมใจของพวกโซระก็ทำให้ชนะมาได้ และนั่นรวมไปถึงการเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดอย่าง เผ่าเทพเจ้า ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 1 ด้วย

          แน่นอนว่า ถึงจะไม่มีทางที่จะเอาชนะได้เลยในสายตาของใครหลายคน แต่พวกโซระก็แสยะยิ้มออกมาพลางท้าทายเทพเจ้าอย่างไม่กลัวเกรง

          เรื่องราวของเผ่าพันธุ์ที่สุดแสนอ่อนแอแต่แข็งแกร่งผู้หาญกล้าท้าทายเผ่าพันธุ์กล่าวกันว่าแข็งแกร่งที่สุดและพระเจ้านั้นยังไม่ได้ถึงจุดสิ้นสุด

          ณ จุดนี้ มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

……

            ไลท์โนเวลและหนังสือการ์ตูนเรื่อง No Gane No Life เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ A-Plus ส่วนอนิเมชั่นเป็นลิขสิทธิ์ของ โรสมีเดีย เอนเตอร์เทนเม้นท์ ครับ

บล็อกของ Mister American

Mister American
               สำหรับหลายคน หนังเรื่องแรกเป็นเสมือนความฝันอันงดงามที่อยากจะทำให้สำเร็จ แต่สำหรับผู้กำกับหลายคนนั้นหนังเรื่องแรกของพวกเขานั้นไม่ได้สวยงามหรืออกมาราบรื่นอย่างที่คิด บางคนถูกไล่ออกจากโปรเจ็ท บางคนเกือบสติแตก หรือ บางคนก็เจอการกดดันจากอิทธิพลที่
Mister American
            "วิญญาณคือ ความทรงจำที่ตกค้าง ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำที่ดีหรือเลวร้าย มันจะยังคงอยู่และปรากฏขึ้นเสมอ"
Mister American
              ระหว่างที่ผมกำลังนั่งเขียนต้นฉบับอยู่ตอนนี้ภาพยนตร์ซอมบี้ทุนต่ำเรื่องใหม่จากเกาะญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า One Cut of the dead กำลังสร้างกระแสครั้งใหญ่ให้กับวงการหนัง เมื่อ หนังซอมบี้ทุนต่ำเรื่องนี้ทำรายได้ถล่มทลายไปแล้วทั่วโลกกว่า 10 ล้า
Mister American
คิชิดะ จุน เป็นเด็กหนุ่มมัธยมปลายที่มองเห็นคนตายได้ และ ข้าง ๆ เขานั้นมี ฮายาคาวะ เคียวโกะ เพื่อนสมัยเด็กที่ถูกฆ่าตายและมาปรากฏตัวอยู่เคียงข้างเขา ท่ามกลางเรื่องราวสยองขวัญ ลึกลับที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา
Mister American
                คงไม่ต้องแปลกใจหาก KOE NO KATACHI หรือ รักไร้เสียง อนิเมชั่นเรื่องดังจากญี่ปุ่นโดยฝีมือผลงานของสตูดิโอ Kyoto Animation หรือที่เรียกติดปากนักดูอนิเมะว่า เกียวอนิเมะ ผู้ผลิตอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Clannad , Kanon , K-on  เป็นต้น จะกลายเป็นห
Mister American
              คงไม่ใช่ความน่าแปลกหรือประหลาดใจอีกแล้วกับปรากฏการณ์หนังอีสานถล่มเมืองที่นับจากผู้บ่าวไทบ้านภาคแรกเข้าฉายในปี 2014 และทำเงินไปได้อย่างมากมายในแผ่นดินอีสานนั้นจะทำให้เกิดหนังลูกอีสานหน้าใหม่ขึ้นอย่างมากมาย และแน่นอนว่า ความสำเร็จนี้ได้ต่อยอดให้หนังอ
Mister American
               ณ ช่วงเวลานี้คงไม่มีอนิเมชั่นเรื่องใดถูกกล่าวถึงและพูดมากกว่า อนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของชินไค มาโคโตะ ผู้กำกับอนิเมชั่นดราม่าชื่อดังอย่าง 5 centimeters per second หรือ The Garden of word อย่าง Your Name หรือ Kimi No Nawa (หลับตาฝันถึงชื
Mister American
คงไม่ต้องแปลกใจว่า หากจะมองหาหนังไทยสักเรื่องที่น่าหยิบมาพูดถึงหนังเรื่อง ผู้บ่าวไทบ้าน 2 ตอน แจกข้าวหาแม่ใหญ่แดง นั้นเป็นหนึ่งในหนังที่ควรหยิบมาพูดมากเรื่องหนึ่งในขณะนี้นอกจากจะเป็นหนังภาคต่อที่สานความสำเร็จมาจากภาคแรกที่สร้างปรากฏหนังท้องถิ่นนิยมให้เกิดขึ้นในวงการภาพยนตร์ไทย เมื่อหนังเล็ก ๆ นี้
Mister American
                นี่คือ การกลับมาที่ทุกคนรอคอย ภายหลังจาก ก็อตซิลล่าฮอลลีวู้ดของ กาเรธ เอ็ดเวริ์ดออกอาละวาดไปในปี 2014 และแน่นอนว่า มันทำให้ชื่อของก็อตซิลล่าลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง ทว่า สำหรับแฟน ๆ เดนตายของก็อตซิลล่านั้นคงค่อนข้างที่จะผิดหวังที่ได้เห็นก็อตซิล
Mister American
คงไม่มีอะไรต้องพูดมากนอกจากนี่คือ ภาพยนตร์ซอมบี้ที่ดีที่สุดในรอบหลายปี และที่สำคัญนี่ไม่ใช่หนังที่สร้างโดยฮอลลีวู้ดแต่เป็นเกาหลีใต้ ประเทศที่มีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเอเชียที่เรียกว่าเป็นเบอร์หนึ่งไปแล้วในด้านคุณภาพของหนังที่นอกจากฮอลลีวู้ดแล้วมีเพียงประเทศนี้ที่ทำหนังออกมาได้สากลและสนุกในแบบที่ทุก
Mister American
ยังคงเป็นช่วงเวลาเศรษฐกิจยังไม่มีวี่แววว่าจะ ฟื้นตัวเสียที ในช่วงปลายปี 2015 นี้ทุกอย่างยังคงมองไม่เห็นว่า อนาคตจะเป็นเช่นไร กระนั้นเองสำหรับงานหนังสือแห่งชาติ เดือนตุลาคมนี้ยังคงเป็นช่วงเวลาร้อนแรงของบรรดาค่ายไลท์โนเวลต่าง ๆ มากมายที่ต่างเตรียมกระสุนดินดำ หรือ ออกหนังสือมาเพื่อจูงใจนักอ่านทั้งหล