Skip to main content

คนทำเรือแห่งแม่น้ำมูน

หากเปรียบ ปู ปลาคือผลผลิตจากนาน้ำของคนไม่มีนาโคก เรือก็คงไม่ต่างอะไรจากรถไถนา ‘เรือ’ คำสั้นๆ แต่ดูเปี่ยมด้วยความหมายยิ่งใหญ่สำหรับผู้คนริมฝั่งน้ำ นอกจากจะใช้เป็นพาหนะในการเดินทางแล้ว ยังใช้ในการหาปลาอีกด้วย เรือในแม่น้ำย่อมมีขนาดแตกต่างกันออกไป แม่น้ำใหญ่เรือก็ใหญ่ แม่น้ำเล็กเรือก็ลำเล็ก นอกจากขนาดของเรือในแต่ละแม่น้ำจะแตกต่างกันออกไปแล้ว ท้องเรือที่จมอยู่ในแม่น้ำยังแตกต่างกันออกไปด้วย เรือในแม่น้ำสาละวินท้องเรือมีลักษณะแบน แต่เรือในแม่น้ำโขงท้องเรือมีลักษณะเรียวแหลมคล้ายสิ่วเจาะไม้


การออกแบบเรือล้วนยึดถือความสะดวกของเรือแต่ละลำในแม่น้ำแต่ละสายเป็นหลักใหญ่ ขนาดของเรือที่คนทำเรือแต่ละคนทำออกมาจึงขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก เช่น เรือขนาดสั้น ๓-๔ วาก็จะใช้ในแม่น้ำไม่ใหญ่ เรือกระแซงถึงแม้จะใช้ในแม่น้ำไม่ใหญ่ คนทำทำเรือก็นิยมทำเรือชนิดนี้ออกมาให้มีขนาดใหญ่ เพราะเรือกระแซงเอาไว้ใช้บรรทุกสินค้า นอกจากนั้นแล้วชื่อของเรือแต่ละชนิดยังบ่งบอกถึงสถานะของเรืออีกด้วย เช่น เรือพาย เรือแจว เรือกลไฟ เรือยนต์ เรือเมล์ เรือโดยสาร


นอกจากลักษณะของแม่น้ำในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันออกไปแล้ว เรือที่ถูกนำมาใช้ก็ย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย ในยุคสมัยก่อนคนทำเรือที่ทำเรือเก่งๆ ทั้งทำไว้ใช้เอง และทำขาย แต่ละคนล้วนพิถีพิถันในการขัดเกลาท่อนไม้ท่อนซุงให้ค่อยๆ กลายเป็นเรือ ว่ากันว่าหากทำเรือขุดลำใหญ่ๆ ต้องใช้เวลาร่วมเดือน เรือจึงจะออกไปเผชิญสายน้ำได้


ในขณะที่ลักษณะของแม่น้ำแตกต่างกันออกไป ผู้คนริมฝั่งน้ำก็มีวิถีชีวิตเกี่ยวเนื่องกับเรือแตกต่างกันออกไปด้วย เช่น คนในชุมชนริมฝั่งแม่น้ำมูนหลายหมู่บ้าน พวกเขามีวิถีชีวิตผูกผันอยู่กับเรือตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน เพราะบางคนประกอบอาชีพหาปลา


ยุคสมัยก่อนกว่าจะได้เรือมาสักลำนั้นลำบากกว่าปัจจุบันเยอะมาก เพราะการทำเรือมีวิธีการสลับสับซ้อน ไหนจะต้องดูวันดี ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นวันอังคารกับวันพฤหัสบดี เพื่อเดินทางออกไปแสวงหาไม้ในป่ามาทำเรือ พอได้ไม้มาแล้วไหนจะต้องนำไม้มาถางมาขึ้นรูปจนเป็นเรือ กระบวนการทำเรือหนึ่งลำ คนทำเรือบางคนบอกว่าต้องใช้เวลาไม่ตำกว่า ๗
-๘ วันเป็นอย่างน้อย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือ


พ่อสมเกียรติ พ้นภัย คนหาปลาผู้อยู่กับเรือมาแต่เด็กจนโตได้เล่าถึงกระบวนการอันสลับซับซ้อนในการทำเรือให้ฟังว่า สมัยก่อนนี่คนในหมู่บ้านถ้าอยากได้เรือนี่ก็จะชวนกัน เดินถามกันทั่วหมู่บ้านว่า มีใครอยากจะไปฟันเรือ พอได้ทีมแล้วก็หาวันดี พอได้วันก็แต่งเครื่องกันห่อข้าวสาร ห่อของกิน จัดแจงเครื่องมือแล้วก็เดินทางเข้าไปในป่า สมัยก่อนนี่คนแถบน้ำมูนตอนปลายจะเข้าไปเอาไม้จากป่าดงใหญ่ พอไปถึงก็จะเล็งหาไม้แคน (ตะเคียน) ไม้กะยอม (พยอม) ไม้ชาด ไม้กุงเป็นอันดับต้นๆ พอได้แล้วก็จัดการล้มไม้ลง คนทำเรือนี่จะไม่เอาไม้ต้นเล็กจะเลือกเอาต้นที่หน้ากว้างประมาณ ๓ กำมือขึ้นไป เพราะจะขุดง่ายกว่า ส่วนความยาวนั้นก็แล้วแต่เจ้าของเรือจะพอใจ สำคัญเลยนี่ไม้ต้นหนึ่งจะเอาทำเรือเพียงลำเดียว แม้ไม้จะยาวขนาดไหนก็ตามที พอได้มาแล้วก็เริ่มลงมือขุด ตอนขุดนี้ต้องเอาคนทำเรือที่ชำนาญการใช้ขวาน เพราะมันต้องค่อยๆ ถาก ค่อยๆ ขุดจากไม้ทั้งต้นที่เห็นเป็นท่อนก็จะกลายร่างเป็นเรือ


ถ้าเรือลำไหนที่ขุดแล้วมันมีตาเยอะ และส่วนมากจะเป็นตาไม่ดีกับเจ้าของเรือ คนทำเรือก็ไม่เอาต้องไปหาไม้กันใหม่ กว่าไม้ท่อนหนึ่งจะมาเป็นเรือให้เราเห็นผ่านกระบวนการเยอะจนจำแทบไม่หมด


สมัยก่อนกับเดี๋ยวนี้มันต่างกัน สมัยนี้ไปสั่งเขาทำไม่เกิน ๓ วันเรือมาส่งแล้ว เรือขุดแทบไม่มีคนขุด ต้องใช้เรือแป้นหรือเรือกาบที่เราเห็นอยู่เป็นหลัก ตอนนี้ถ้าไปสั่งเขาทำลำหนึ่งก็ประมาณ ๔,๐๐๐ บาทขึ้น ซึ่งก็แล้วแต่ขนาดของเรือ


คนสมัยก่อนนี่ได้เรือมาแล้วเขามีพิธีกรรมเยอะตอนจะเอาเรือลงน้ำนี่เขาก็จะผูกตรงหวัเรือด้วยด้ายขาวด้ายแดงมีสรวยดอกไม้ ตอนจะเลี้ยงเรือแล้วผูกด้วยให้เรือนี่คนเป็นเจ้าของก็จะพูดไปด้วยว่า พอมาอยู่ก็ขอให้ได้โชค หาอยู่หากินง่ายอย่าได้มีอันตราย การพูดนี่ก็แล้วแต่คนเป็นเจ้าของเรือจะพูด เดี๋ยวนี้หาคนทำแบบนี้ยากแล้ว

 

คนหาปลาสมัยใหม่พอได้เรือมาแล้วก็เลี้ยงอยู่บ้าง แต่เลี้ยงไม่ค่อยดี บางคนเวลาขึ้นเรือก็ขึ้นแรงๆ จนเรือจะล่มก็มี คนสมัยนี้ความเชื่อมันค่อยๆ หายไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่หมด พอๆ กับการทำเรือนั้นแหละ คนทำเรือแถบแม่น้ำมูนนี่นับวันก็ค่อยๆ หายไป เพราะมันไม่ค่อยมีคนมาสืบสานภูมิปัญญาเหล่านี้ไว้ อีกไม่นานหรอกเรือไม้นี้จะหายหมด  ในแม่น้ำจะมีแต่เรือเหล็ก คนทำเรือก็จะกลายเป็นช่างเชื่อมเหล็กแทน...

 

บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
จากประวัติศาสาตร์ที่มีการบันทึกทั้งเป็นอักษร และไม่มีอักษร การสร้างเขื่อนเพื่อกักเก็บน้ำ และทำกิจกรรมอย่างอื่นมีมาหลายร้อยปีแล้ว หากนึกถึงเขื่อนหลายคนอาจนึกถึงสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ขวางกั้นลำน้ำ และเมื่อนึกถึงเขื่อน เรานึกถึงอะไรเกี่ยวกับเขื่อนบ้าง แน่ละบางคนอาจตอบว่าไฟฟ้า บางคนอาจตอบว่าสถานที่ท่องเที่ยวรวมไปถึงน้ำเพื่อการเกษตร แต่สิ่งหนึ่งที่เราลืมนึกถึงไปเมื่อพูดถึงเขื่อน คือเรื่องราวเล็กๆ ในบริเวณสร้างเขื่อน ทั้งเรื่องของป่าไม้ ที่ดิน สัตว์ป่า และรวมไปถึงเรื่องราวของผู้คนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่ก่อการสร้างเขื่อน “ทองปาน”…
สุมาตร ภูลายยาว
เราต่างรู้ชัดแจ้งเห็นจริงว่า บนดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าโลก อันมีสันฐานเป็นทรงกลมคล้ายผลส้มใบนี้มีน้ำมากกว่าพื้นดิน แต่สิ่งหนึ่งที่เราหลายคนอาจไม่รู้คือ เรื่องการแบ่งพรมแดนแผ่นดินโดยใช้แม่น้ำเป็นเส้นแบ่ง คนในยุคสมัยก่อนคิดได้ยังไงว่า แม่น้ำส่วนไหนเป็นของประเทศใด เพราะธรรมชาติแม่น้ำมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา    ในเอเชียของเรามีแม่น้ำหลายสายที่ถูกขีดแบ่งเป็นเส้นพรมแดน ไม่ว่าจะเป็นเส้นแบ่งหมู่บ้านกับหมู่บ้าน ตำบลกับตำบล จังหวัดกับจังหวัด และประเทศกับประเทศ และบ่อยครั้งที่การแบ่งแม่น้ำออกเป็นพรมแดน คนที่อยู่ริมน้ำไม่เคยได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง…
สุมาตร ภูลายยาว
“มื้ออื่นไปแต่เช้าเด้อ เดี๋ยวพ่อสิไปเอิ้นดอก” ถ้อยคำสุดท้ายของชายวัย ๖๐ กว่าที่นั่งอยู่ในบ้านดังแว่วออกมา ขณะเรากำลังเดินจากกระท่อมของพ่อเฒ่ามา หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปไม่นาน หมู่บ้านจมอยู่ในความมืด ถ้าเป็นเมื่อ ๑๐ กว่าปีก่อนในตอนเย็นเช่นนี้หมู่บ้านจะเงียบกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนในหมู่บ้านยังไม่ได้เดินทางกลับมาจากไร่
สุมาตร ภูลายยาว
หลังมุ่งแก้ปัญหาการขาดน้ำใช้ในฤดูแล้งมาตลอดระยะเวลา ๒ ปี ชาวบ้านหลวงบางส่วนจึงมุ่งหน้าเดินทางขึ้นสู่ภูเขา เพื่อไปสู่ขุนห้วย ผู้ชายบางคนถือมีด บางคนถือจอบ ผู้หญิงหาบเครื่องครัวทั้งพริก ถ้วย ชาม เดินตามทางเดินเล็กๆ มุ่งหน้าสู่จุดหมายเดียวกัน เสียงดังมาจากเบื้องหน้าให้เร่งฝีเท้าในการเดินทางขึ้นอีก เพราะเป้าหมายใกล้ถึงแล้วชาวบ้านเหล่านี้เดินทางเพื่อไปสู่เป้าหมายใดกัน เมื่อขบวนเดินทางพ้นจากที่ราบอันเป็นไร่ข้าวโพดไปแล้วก็มุ่งหน้าขึ้นสู่ขุนห้วยอันเป็นต้นกำเนิดของห้วยหลวง ที่ขุนห้วยมีชาวบ้านบางส่วนเดินล่วงหน้าไปรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อขบวนใหญ่เดินมาสมทบในภายหลัง พิธีการบูชาเทพแถนผีป่าผีน้ำก็เริ่มขึ้น…
สุมาตร ภูลายยาว
ลำเซียงทาล่องไหลมาเนิ่นนาน.....ทานทน ฝน-ร้อน-หนาวปล่อยไอหมอกขาวลอยล่องสู่ท้องฟ้าเมฆมหึมาก่อฝน....เหนือโป่งขุนเพชรในหุบห้วยล้วนร่องธารที่ผ่านมาเวลานาฑีไม่มีใครรู้เพียงกระพริบไหวของสายตาแห่งหมู่เมฆลมโยกเยกฝนใหญ่โปรยปรายลำเซียงทามาจากหุบห้วยใหญ่ไหลล่องผ่านปี-เดือนไผ่ไหวเหนือสายน้ำลำเซียงทายามลมผ่านผิวปลิดปลิวเคว้งคว้างพลิ้วไหวอ่อนโยนลำเซียงทาโอบอุ้ม-อุ่นเอื้อโป่งขุนเพชร,เทพสถิตย์, ชัยภูมิ ,๒๕๔๗
สุมาตร ภูลายยาว
แม่น้ำเกิดมาจากสายฝน-สายฝนเกิดจากแม่น้ำ นานมาแล้วต้นกำเนิดของแม่น้ำ และสายฝนมาจากที่เดียวกัน ทุกสิ่งล้วนสัมพันธ์เชื่อมโยง เช่นเดียวกับแม่น้ำสายใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในแถบอีสานใต้ แม่น้ำสายนี้ชื่อว่า ‘แม่น้ำมูน’ มีต้นกำเนิดจากสายน้ำเล็กๆ บริเวณเขาแผงม้า จังหวัดนครราชสีมา หลังจากนั้นก็ไหลเรื่อยผ่านสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ก่อนไหลลงบรรจบกับแม่น้ำโขงที่บริเวณแม่น้ำสองสีในอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ลำน้ำสายยาวได้หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนมาหลายชั่วอายุคน ตั้งแต่หลายปีตลอดการไหลของแม่น้ำมีเรื่องราวหลายเรื่องเกิดขึ้น…
สุมาตร ภูลายยาว
ฉันเคยสงสัยอยู่ว่า คนเราเมื่อเดินทางไกลข้ามคืนข้ามวัน เราล้วนได้รับความเหนื่อยล้า แต่เมื่อไปถึงปลายทาง เราจะสลัดทิ้งความเหนื่อยล้าได้ยังไง คำถามเช่นนี้ไม่เคยเป็นคำตอบเลยสำหรับฉัน เพราะบ่อยครั้งที่เริ่มต้นเดินทางไกล–อันหมายถึงระยะทาง ทุกครั้งเมื่อถึงจุดหมาย ฉันหวังเพียงได้เอนตัวลงพักพอหายเหนื่อยแล้วค่อยคลี่คลายชีวิตไปสู่ทิศทางอย่างอื่น แต่นั้นก็เป็นเพียงความคิดที่วูบเข้ามา ความจริงการจะทำเช่นนั้นไม่เคยเกิดขึ้นเลย โดยเฉพาะกับการเดินทางครั้งนี้ หลังรถโดยสารปรับอากาศสายเชียงใหม่-อุบลราชธานี พาผู้โดยสารออกเดินทางยาวนานถึง ๑๗ ชั่วโมงจอดสงบนิ่งลงที่ท่ารถห่างออกมาจากตัวเมือง…
สุมาตร ภูลายยาว
พ่อเฒ่าฟาน ดิน กัน แห่งหมู่บ้านทรีอาน (หมู่บ้านแห่งสันติ) หมู่บ้านริมแม่น้ำซมฮอง (แม่น้ำแดง) เส้นเลือดใหญ่ของชาวฮานอยยืนตระหง่านบนหัวเรือ หากไม่มีการถามไถ่คงยากที่จะคาดเดาอายุของพ่อเฒ่าได้ ปีนี้พ่อเฒ่าอายุ ๖๔ แล้ว ขณะพ่อเฒ่ายืนตระหง่านตรงหัวเรือ สายลมหนาวของเดือนมกราคมยังคงพัดมาเย็นเยือก ในสายลมหนาวนั้นมีฝนปนมาเล็กน้อย พ่อเฒ่าบอกว่า ฝนตกช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคมที่ฮานอยเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือความหนาว เพราะปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปี ๕๑ ความหนาวเย็นที่พัดมาขนาดหนักเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว ๓ ครั้ง ว่ากันว่าอากาศที่เปลี่ยนแปลง คงเป็นเพราะโลกเรามันร้อนขึ้นในเรือมีผม และเพื่อนร่วมทางอีก ๒ คน…
สุมาตร ภูลายยาว
หลังการเดินทางอันเหนื่อยล้าด้วยการล่องเรือข้ามวันข้ามคืนในแม่น้ำโขงสิ้นสุดลง ผมพบว่าตัวเองกลายเป็นคนติดการฟังเป็นชีวิตจิตใจ บางครั้งในยามเย็นที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ (ขออภัยที่ไม่ใช้จักรยาน เพื่อการประหยัดพลังงาน) ไปซื้อกับข้าว ผมพบว่า รถเข็นขายอาหารสำเร็จรูปจำพวกแกงถุงของลุงรัญเจ้าเก่าในซอยวัดโป่งน้อยมีเรื่องเล่าหลายเรื่องให้ผมต้องนิ่งฟังเรื่องเล่าหลายเรื่องที่ผู้ซื้อนำมาเล่าให้พ่อค้าฟัง และหลายเรื่องเช่นกันที่พ่อค้าได้นำมาเล่าให้ลูกค้าฟัง บางเรื่องที่ผมได้ยิน ผมก็เลยผ่านเลยไป แบบว่าฟังพอผ่านๆ แต่บางเรื่องต้องนำกลับมาคิดต่อ…
สุมาตร ภูลายยาว
แม่น้ำโขงถือว่าเป็นแม่น้ำแห่งพรมแดนสายสำคัญที่ไหลเป็นเส้นแบ่งของหลายประเทศมีผู้คนจำนวนไม่น้อยได้ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำสายนี้  ในจำนวนของคนริมสองฝั่งแม่น้ำโขงมีคนจำนวนไม่น้อยรับรู้ได้ว่า วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่น้ำสายที่พวกเขาคุ้นเคย ฤดูหนาวแม่น้ำสีคล้ายน้ำโอวันติลไหลเอื่อยๆ เหมือนคนหายใจรวยรินใกล้สิ้นลมหายใจเต็มที แม่น้ำไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อนที่เคยเป็นมา เมื่อรับรู้ความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ชาวบ้านห้วยลึก หมู่ ๔ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายที่ได้อาศัยประโยชน์จากแม่น้ำมาหลายชั่วอายุคนจึงได้รวมตัวกันทำพิธีสืบชะตาให้กับแม่น้ำ…
สุมาตร ภูลายยาว
“สาละวินไม่มีคน” คือคำพูดของบรรดานักพัฒนาผู้แสวงหากำไรบนหนทางของการพัฒนาลุ่มน้ำแห่งนี้ได้ยกขึ้นมาบอกกล่าวจนชินหู แต่หากได้ลงมาล่องเรือเลียบเลาะสายน้ำชายแดนแห่งนี้ จะพบว่าแม่น้ำนานาชาติสายที่ยาวที่สุดในภูมิภาคอุษาคเนย์ที่ยังคงไหลอย่างอิสระแห่งนี้เป็นบ้าน เป็นชีวิตของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในผืนป่าตลอดสองฝั่งน้ำงานวิจัยปกากญอ “วิถีแม่น้ำและผืนป่าของปกากญอสาละวิน” ได้จัดทำโดยนักวิจัยชาวบ้าน ปกากญอ หรือชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงจาก ๕๐ หย่อมบ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวินบนพรมแดนไทย-พม่า เขต อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน…
สุมาตร ภูลายยาว
ลมหนาวพัดข้ามมาจากขุนเขา บางคนบอกว่าลมหนาวพัดมาจากไซบีเรีย ซึ่งสังเกตได้จากการดูนกอพยพหนีหนาวมา บางคนก็บอกว่าลมหนาวพัดมาจากเทือกเขาสูงของประเทศจีน เมื่อลมหนาวมาเยือน เพียงต้นฤดูหนาวเช่นนี้ก็สามารถสัมผัสได้ทางผิวกายที่เริ่มแห้งลงเรื่อยๆ และป่าเริ่มเปลี่ยนสีพร้อมผลัดใบไปกับลมแล้งในความหนาวเย็นนั้น เขาเดินทางรอนแรมฝ่าสายน้ำอันเชี่ยวกรากของหน้าแล้งไปตามลำน้ำสายหนึ่งที่อยู่สุดเขตแดนประเทศไทยด้านตะวันตก เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมเขาต้องมายังที่แห่งนี้ เพราะในส่วนลึกของหัวใจของเขามันไม่ได้เรียกร้องให้เขาเดินทางมายังที่แห่งนี้เลย ในห้วงแห่งกาลเวลาอย่างนี้ไม่มีใครรับรองได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น‘สบเมย’…