Skip to main content

บันทึกในค่ำคืนที่เปลี่ยนผ่านกับนิทรรศการที่ไม่ได้จัด

 

สายฝนของเดือนกันยายนโปรยสายลงมาทั้งวัน เราออกเดินทางจากเชียงของมาแต่ตอนเช้าด้วยรถคันเล็ก บนกระบะทางตอนท้ายบรรทุกเอกสารต่างๆ รวมทั้งนิทรรศการมาเต็ม รถต้องจดหลายครั้ง เพื่อห่มผ้ายางกันฝนให้ของบนกระบะรถ เราผ่านมากว่าครึ่งทาง ฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ซ้ำร้ายยังตกลงมาหนักกว่าเดิม รถวิ่งทำความเร็วได้ไม่มากนัก ทั้งที่ความเป็นจริงแม้ฝนจะไม่ตก มันก็ไม่เคยวิ่งได้เร็วกว่าที่วิ่งอยู่เท่าใดนัก

\\/--break--\>
เมื่อใกล้เมืองเชียงรายเข้าไปทุกที สายฝนก็โปรยสายลงมาบางเบา ฟ้าเบื้องบนยังอึมครึม เราเริ่มหวั่นใจว่า งานที่เราคาดหัวงว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของมันในวันพรุ่งนี้ไม่รู้จะเป็นไปได้มากแค่ไหน


บนถนนในเมืองรถยังวิ่งตามกันไปเรื่อยๆ ความเป็นเมืองดูไม่วุ่นวายมากมายนัก หลังแวะกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหาร ฝนก็เริ่มหายจากฟ้า แสงแรกของวันโผล่ออกมาทักทาย หลังฝนขาดฟ้า รอยยิ้มบางรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเพื่อนร่วมเดินทาง


เรามาถึงสถานที่จัดงานล่วงบ่ายเข้าไปแล้ว สถานที่จัดงานผู้คนขวักไข่ว หลายคนกุลีกุจอเตรียมจัดนิทรรศการ บางคนก็กำลังขนโต๊ะ เก้าอี้เข้ามาในสถานที่จัดงาน ซุ้มจัดนิทรรศการของเราอยู่จนเกือบซุ้มสุดท้าย หลังเดินเข้าไปในซุ้มแผนงานคร่าวๆ ก็ถูกวางออกมา นิทรรศการถูกขนลงจากท้ายรถมากองไว้ในซุ้ม เชือกเส้นใหญ่ถูกดึงขึ้นไปผูกกับเหล็กขาเต๊นท์ทั้งสองข้าง เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับนิทรรศการที่ต้องถูกนำขึ้นไปติดตั้ง


ภาพคนหาปลาบนลำเรือเป็นภาพแรกที่ถูกนำขึ้นไปแขวนไว้กับเชือก และตามมาด้วยภาพวิถีชีวิตของคนริมฝั่งแม่น้ำรูปอื่นๆ เมื่อภาพวิถีชีวิตถูกนำขึ้นไปแขวนจนหมด ภาพชนเผ่าต่างๆ ที่อยู่ตามชายแดนของประเทศไทย ในเขตอำเภอเชียงของ-เวียงแก่นก็ถูกนำขึ้นไปแขวน


ตะวันคล้อยค่ำลงไปแล้ว ฟ้าเริ่มกลับมามืดครึ้มอีกครั้ง...


เมื่อนิทรรศการทั้งหมดถูกจัดเรียบร้อย คณะทำงานทั้งหมดก็อ่อนล้าโรยแรงไปตามๆ กัน ขณะนั่งพักผ่อนก่อนเดินทางกลับไปพัก ถัดจากตรงที่พวกเรานั่งไปไม่ไกลนัก เสียงเพลงก็ดังขึ้นมา ผู้คนจำนวนนับสิบต่างทยอยเข้าไปยังสถานที่ที่มีเสียงเพลง ผู้หญิงบนเวทีด้านหน้าของผู้คนนับสิบเริ่มทำงานด้วยการประกาศให้ผู้คนอบอุ่นร่างกายก่อนจะได้ร่วมกันออกกำลังกาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐที่ส่งเสริมให้ผู้คนในประเทศมีสุขภาพแข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย


ฝนเริ่มโปรยสายลงมาอีกครั้ง...


เราออกเดินทางจากสถานที่จัดงานหลังท้องเริ่มร้องโหยหวนหลายต่อหลายครั้ง ภายในร้านอาหารตามสั่ง บนจอโทรทัศน์มีรายงานข่างการเคลื่อนไหวของประชาชนเรือนแสนบนท้องถนนหน้าทำเนียบรัฐบาล โฆษกบนเวทีได้กล่าวโจมตีความผิดพลาดของการบริหารงานของรัฐบาลหลายต่อหลายอย่าง ทั้งการออกนโยบายเอื้อผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องของตัวเอง ทั้งการโอนหุ้นให้กับคนใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงความผิด โดยมีเจตนาในการปกปิดทรัพย์สินที่ตัวเองมี เมื่อประมวลเหตุการณ์หลายต่อหลายอย่างเข้าด้วยกัน รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลที่คนบนเวทีนำมาเปิดเผย ประชาชนเรือนแสนจึงตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับไล่รัฐบาล


พูดถึงการชุมนุนของประชาชนแล้ว มันได้เกิดขึ้นหลายเดือนมาแล้ว ในช่วงแรกๆ เราเองก็เคยไปร่วมในบ้างครั้งที่เดินทางลงไปบางกอก แต่พอการชุมนุมมีมาได้ระดับหนึ่ง เราก็ไม่ได้ไปร่วมอีกเลย เพราะรู้สึกขัดแย้งกับตัวเองในบางเรื่อง เช่น เรื่องเสื้อที่ใส่ และเพื่อนบางคนยังฝากบอกมาอีกว่า นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาของเรา หลังได้ฟังถ้อยคำต่างๆ และลองตรงอดู เราจึงได้แต่ติดตามข่าวการชุมนุนอยู่ห่างๆ


เพื่อนบางคนเล่าให้ฟังว่า หลายคนที่มาร่วมชุมนุนบางคนเป็นคนที่ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในสังคม บางคนก็เป็นอดีตนักการเมือง หากไม่กล่าวเกินเลยไปนักก็พอจะบอกได้ว่า คนที่มาชุมนุนเรือนแสนนั้นมีคนทุกระดับในสังคม


การชุมนุนยิ่งยืดเยื้อจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็น ๒ เดือน ความตรึงเครียดในสังคมก็ทวีความเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ คอการเมืองหลายคนต่างนับวันรอจุดแตกหักที่พวกเขาคิดว่ามันคงจะเดินทางมาถึงในไม่ช้า


หลังเดินทางออกมาจากร้าน พวกเราก็มุ่งหน้ากลับสู่ที่พัก ขณะรถวิ่งมาถึงสถานีขนส่ง หลายคนก็บอกให้หยุดรถ เพื่อลงไปเดินเที่ยวไนซ์บาซ่า สถานีขนส่งในค่ำคืนนี้ผู้คนวุ่นวายเดินกันขวักไขว่ ต่างคนต่างมุ่งไปสู่จุดหมายปลายทางของตัวเอง


นาฬิกาบนผนังของสถานีขนส่งบอกเวลา ๒๐นาฬิกา...


เสียงโทรศัพท์ของเราดังขึ้นต้นสายอยู่ที่เชียงใหม่ เรากดรับสายเสียงที่คุ้นเคยดังมา หลังพูดคุยได้ไม่นาน เมื่อกดวางสาย เราก็ทำอะไรไม่ถูก หัวใจอ่อนล้าลงเป็นลำดับ แล้วเราก็เริ่มเล่าให้ทุกคนในคณะทำงานฟัง


"ที่กรุงเทพฯ ทหารเอารถถังออกมาทำรัฐประหารแล้ว การชุมนุนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจบลงแล้ว"


เมื่อหลายคนได้ฟังก็อยู่ในอาการตะลึงงัน เราเริ่มเช็คข้อมูลได้รับมากับหลายคน หลังได้รับการยืนยันที่ชัดเจน คณะทำงานทั้งหมดก็เดินทางกลับที่พัก เพื่อติดตามข่าวสาร บนหน้าจอโทรทัศน์บัดนี้มีแต่เสียงเพลงปลุกใจให้ทุกคนรักชาติ


หลังอดรนทนไม่ไหวกับการดูอะไรก็ไม่รู้บนจอโทรทัศน์ เราตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาเพื่อนมิตรบางคน เพื่อฟังวิเคราะห์สถานการณ์ และติดตามความคืบหน้าที่จะเกิดขึ้นในลำดับต่อไปหลังจากนี้


ความสงสัยภายในใจหายไปจนสิ้น หลังรู้ความเป็นมาเป็นไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราได้แต่ครุ่นคิดว่า หลังจากนี้อะไรจะเกิดขึ้นกับสังคม จะเอารถถังออกมาทำไมหากคุณเชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตยของประชาชน เอารถถังกลับเข้ากรมกอง เอาการรัฐประหารกลับคืนไป เอาประชาธิปไตยกลับคืนมาเริ่มต้นกันใหม่ และให้โอกาสเราได้จัดนิทรรศการเรื่องสิ่งแวดล้อมของเราเถอะ อย่าให้เราต้องเก็บกลับบ้านที่ริมฝั่งโขงเลย


โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง...

 

เชียงราย, ฤดูฝน,

๑๙ กันยา ๒๕๔๙

 

 

 

 

 

บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
    ...เสียงปืนดังลั่นเปรี้ยง-คล้ายเสียงชะนีหวน
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมเริ่มพัดเปลี่ยนทิศจากเหนือลงใต้ ฤดูฝนใกล้พ้นผ่านแล้ว ฤดูหนาวกำลังเดินทางมาแทน ขณะอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าถัดจากกระท่อมหลังสุดท้ายตรงหาดทรายไปไม่ไกล คนจำนวนมากกำลังวุ่นวายอยู่กับการเก็บเครื่องมือทำงาน หากนับตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ก็ล่วงเข้าไป ๔ วันแล้วที่ช่างในหมู่บ้านถูกไหว้วานให้มาช่วยกันทำเรือไฟ เพื่อให้ทันใช้ในวันออกพรรษา หลังจมอยู่กับงานมาทั้งวัน เมื่อโรงงานต่อเรือไฟปิดประตูลงในตอนเย็น โรงมหรสพริมฝั่งน้ำก็เข้ามาแทน
สุมาตร ภูลายยาว
แม่น้ำนิ่งงันลงชั่วการกระพริบตาของพญามังกร ชาวบ้านริมฝั่งน้ำไม่มีใครรู้ว่า พญามังกรกระพริบตากี่ครั้ง หรือด้วยอำนาจใดของพญามังกร แม่น้ำจึงหยุดไหล ทั้งที่แม่น้ำเคยไหลมาชั่วนาตาปี วันที่แม่น้ำหยุดไหล คนหาปลาร้องไห้ปานจะขาดใจ เพราะปลาจำนวนมากได้หนีหายไปจากแม่น้ำ
สุมาตร ภูลายยาว
แดดร้อนของเดือนมีนาคมแผดเผาหญ้าแห้งกรัง หน้าร้อนปีนี้ร้อนกว่าทุกปี เพราะฝนไม่ตก ยอดมะม่วงอ่อนจึงไม่ยอมแตกช่อ มะม่วงป่าเริ่มออกดอกรอฝนพรำ เพื่อให้ผลได้เติบโต ความร้อนมาพร้อมกับความแห้งแล้ง ในความแห้งแล้ง ดอกไม้ป่าหลากสีกำลังผลิบาน มีทั้งดอกสีส้ม แดง ม่วง ความแห้งแล้งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
สุมาตร ภูลายยาว
‘ย่างเข้าเดือนห้า น้ำท่าก็เริ่มขอดแล้ง’ คนแก่บางคนว่าอย่างนั้น (ถ้าผมจำไม่ผิด) คำพูดนี้ได้สะท้อนบางอย่างออกมาด้วย นั่นคือสิ่งที่ผู้คนในยุคสมัยก่อนเห็น พอถึงเดือนห้า น้ำที่เคยมีอยู่ก็แห้งขอดลงเป็นลำดับ ผู้คนในสมัยก่อนที่จะก้าวเข้าสู่สังคมเกษตรอุตสาหกรรมเช่นทุกวันนี้ทำอะไรบ้าง ในสังคมภาคกลางยุคที่ทำการเกษตรไม่ใช่อุตสาหกรรม หน้าแล้งไม่มีใครทำนา เพราะทุกคนต่างรู้ว่า หน้าแล้งแล้วนะ น้ำท่าจะมาจากไหน แต่พอยุคอุตสาหกรรมเกษตรเรืองอำนาจ หน้าแล้งผู้คนก็ยังคงทำนา เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมการเกษตรกันอยู่
สุมาตร ภูลายยาว
ผู้ดีตีนแดง-ขอ โทษ เท้าแดง ตะแคงเท้าเดิน เวลาเหยียบปุ่มปมของพรมผืนนุ่มนิ่มราวกับปุยเมฆ นั่นแหละเท้าของผู้ดี และโลกของผู้ดีมีแต่น้ำครำ –น้ำคำ แห่งการหลอกลวง ทั้งผู้ดีจริง และผู้ดีกลวง ขณะเดินย่ำไปบนเส้นทางสู่ร้านอาหารเลิศหรู เมนูไข่คาเวียกับบรั่นดีแก้วทรงสูงดัดจริตวางรอ ผู้ดีน้ำครำละเลียดเมรัยรสคมผ่านลำคอ และละเลียดไข่คาเวียที่มีอยู่นับจำนวนได้บนจานราคาแพงกว่าการขึ้นห้องกับปอง ของโฉน ไพรำ ผู้ดี น้ำครำมองออกไปนอกหน้าต่างสูงลิบของห้องอาหารโรงแรมเสียดฟ้า เบื้องล่างแม่น้ำไหลเอื่อยเหนื่อยปานจะขาดใจตาย ผู้ดีน้ำครำละเลียดไข่คาเวียราคาแพง เพื่อเลิศหรูมีหน้ามีตา…
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมหนาวพัดมาพร้อมกับสายฝนที่โปรยสายลงมา ว่ากันว่านี่คือฝนหลงฤดู! กาแฟแก้วของวันเป็นคาปูชิโน่ร้อนสองแก้ว แต่ไม่ใช่ของผมเป็นของลูกค้าต่างชาติ รสชาติของกาแฟเป็นอย่างไรในเช้านี้ ผมไม่อาจรู้ เพราะไม่ได้ชิม หลังสตรีมนมสดจนร้อนได้ที่ กลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่นโชยออกมา และพร้อมแล้วสำหรับการดื่ม-กิน
สุมาตร ภูลายยาว
เนิ่นนานหลายปีแล้วที่ผมพเนจรจากบ้านเกิด แต่หลายๆ ความรู้สึกเกี่ยวกับบ้าน ผมไม่มีทางลืมได้เด็ดขาด บางค่ำคืนที่มีโอกาสอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง ด้วยความสงบเงียบ ภาพบ้านเกิดจะย้อนกลับมาสู่ความทรงจำ-ความทรงจำในวัยเยาว์เกี่ยวกับบ้านเกิด
สุมาตร ภูลายยาว
เวลาผ่านไปเร็ว ยามที่เราโตขึ้น เราเชื่อเช่นนั้น เพราะเราโหยหาเวลาของวัยเยาว์ เมื่อเราเติบโตขึ้นเป็นลำดับมีหลายความรู้สึกของวัยเยาว์ที่หล่นหายไปอย่างไม่อาจเรียกคืนกลับมา ราวกับสายน้ำที่ไหลไกลออกไปทุกทีๆ มิอาจหวนกลับมาเป็นสายน้ำได้เช่นเดิม แต่กลายเป็นสายฝนพรำลงมาแทน หากพูดถึงอดีตแล้ว บางด้านที่เลวร้าย เราอยากผ่านเลย แต่กลับจำได้ฝังใจ...
สุมาตร ภูลายยาว
บุนทะนอง ซมไซผล แปลโดย สุมาตร ภูลายยาว    ๑.ผลน้ำเต้าบุ่ง และวรรณคดีพื้นเมือง ถ้าจะให้พูดถึงความสัมพันธ์ไทย-ลาว ความเชื่อมโยงด้านวรรณคดีของชนชาติเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำของ สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าคิดถึงคือ น้ำเต้าบุ่ง
สุมาตร ภูลายยาว
ดอกเกดเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ลำต้นมีลักษณะเหมือนต้นปาล์ม เวลาออกดอก ดอกจะส่งกลิ่นหอม คนเฒ่าคนแก่จะนิยมนำไปบูชาพระและนำมาทัดหู ผมไม่รู้เหมือนกันว่าดอกไม้ชนิดนี้จะมีอยู่ทั่วไปในประเทศไทยหรือมีเฉพาะที่ภาคอีสานและประเทศลาว
สุมาตร ภูลายยาว
จากใบไม้ใบสุดท้ายถึงซิ่นไหมผืนเก่าๆ: ๒ เรื่องสั้นซีไรต์บนแผ่นดินเบื้องซ้ายแม่น้ำของ (โขง) เมื่อพูดถึงวรรณกรรมบนแผ่นดินฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแล้ว หลายคนคงอดที่จะพูดถึงวรรณกรรมชิ้นคลาสสิกเช่น ‘สังสินไซ’ ไม่ได้ เพราะสังสินไซเป็นวรรณกรรมพื้นบ้านที่คนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงรู้จักมากที่สุดชิ้นหนึ่ง นอกจากสังสินไซแล้ว ผลงานของนักเขียนลาวหลายคนในความรับรู้ของคนไทยคงหนีไม่พ้นผลงานเขียนของท่านมหาสีลา วีระวงค์ ผู้รจนางานมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ในนาม ‘ท้าวฮุ่งและขุนเจือง’