Skip to main content

ขนิษฐา คันธะวิชัย
สมาชิกชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพ

รื่นเริงบันเทิงใจและปลาบปลื้มชื่นชม...

เคยมีคนบอกกับฉันว่า ฉันไม่ควรไปร่วมงานวันชาติมอญในเมืองมอญเพราะฉันต้องเคารพความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีกรรมและความเป็นชนชาติของชาวมอญ จึงทำให้ฉันไม่แน่ใจว่าการใช้คำ “รื่นเริงบันเทิงใจ” หรือ “ปลาบปลื้มชื่นชม” จะเป็นการสมควรหรือไม่ แต่นั่นก็คือความรู้สึกที่ฉันได้รับจากการไปงานวันชาติมอญครั้งที่ 61 ที่จัดขึ้น ณ หมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น (ปะลางเจปาน) ด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านมอญที่อยู่นอกพรมแดนประเทศไทย

งานวันชาติมอญนี้จัดกันหลายที่ทั่วโลกที่มีชุมชนมอญอยู่ ทั้งในไทย มาเลเซีย เกาหลีใต้ อังกฤษ แคนาดา สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา สวีเดน ฝรั่งเศส เนเธอแลนด์ ฯลฯ แม้แต่ในเมืองมอญเองก็ไม่ได้มีงานวันชาติเพียงแค่ในหมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น ทุกหมู่บ้านต่างก็จัดขึ้นพร้อมๆ กัน โดยมอญทั่วโลกยึดเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันชาติมอญ  เนื่องจากเชื่อว่าเป็นวันก่อตั้งเมืองหงสาวดี เมืองหลวงของชาวมอญนั่นเอง ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 22 กุมภาพันธ์

สำหรับในประเทศไทยปีนี้ถือฤกษ์สะดวก จัดงาน“รำลึกบรรพชนมอญ” ในวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ ณ วัดบ้านไร่เจริญผล และก็เป็นเพียงการทำบุญให้บรรพชนและมีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมเพื่อการอนุรักษ์และธำรงค์วัฒนธรรม ไม่ได้มีการเปิดไฮด์ปาร์คด่าประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีจุดมุ่งหมายแฝงทางการเมืองแต่อย่างใด เพียงแค่นี้ก็ยังทำให้หน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดสมุทรสาครก็แทบจะนั่งไม่ติดเลยทีเดียว  

ฉันได้รับคำเชิญให้ไปร่วมงานวันชาติจากผู้ใหญ่ชาวมอญที่เคยติดต่องานกับฉัน ในเมื่อผู้ใหญ่บอกว่าจะส่งบัตร “เชิญ” มาให้ ฉันเป็นเด็กจะไม่ไปได้อย่างไร ในที่สุดฉันก็เข้าไปในหมู่บ้านบ่อญี่ปุ่นตั้งแต่คืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ โดยการดูแลของทหารหน่วยประสานมอญ และน้องๆ เยาวชนมอญที่มาจากเมืองมอญ พวกเราต้องเบียดกันไปบนรถปิ๊กอัพคันเดียวถึง 24 คน  แต่น้องๆ ทุกคนก็ไม่บ่นถึงความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าหน้าปะทะลมและฝุ่นแดง ในทางตรงกันข้าม กลับร้องเพลงภาษามอญกันอย่างสนุกสนาน แม้ฉันจะไม่เข้าใจเนื้อเพลง แต่สีหน้าและแววตาของคนร้องก็ทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงความเบิกบานใจและความมุ่งมั่นของน้องๆ ฉันจึงรู้สึกเบิกบานใจและสนุกสนานไปด้วย สมาชิกคนหนึ่งบอกฉันว่าเพลงนี้เป็นเพลงปลุกใจ เนื้อหาเกี่ยวกับการไม่ลืมถึงเป้าหมายสูงสุดคือ การได้ปกครองตนเอง และการได้ชาติมอญกลับคืนมา

พวกเราไปถึงบ้านบ่อญี่ปุ่นเวลาเกือบสองทุ่ม งานมหรสพเริ่มแล้ว จริงๆ แล้วคืนก่อนนั้นก็มีงานเช่นกันแต่เป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรม ส่วนคืนวันที่ 21 ที่ฉันไปถึงนั้นนี้มีการออกร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ เหมือนตลาดนัดทั่วไปที่ฉันเคยเห็นในเมืองไทย ฉันแวะร้านขายหมาก ซึ่งมีทั้งหมากป้ายปูนที่ชายชาวมอญชอบเคี้ยว และหมากที่ใส่มะพร้าวย้อมสีที่เพื่อนฉันบอกว่าผู้หญิงจะเลือกเคี้ยวหมากชนิดนี้มากกว่า และก็มีหมากฝรั่ง ลูกอม นับว่าเป็นร้านขายของแก้เหงาปากจริงๆ ฉันอยากจะลองซื้อหมากป้ายปูนมาเคี้ยวสักคำจะได้เป็นประสบการณ์ชีวิต แต่ก็กลัว “ยันหมาก” เลยได้แต่หยิบหมากฝรั่งที่ฉันนำติดตัวมาขึ้นมาเคี้ยวเล่นแทน แต่ฉันก็ได้อุดหนุนแม่ค้าไปนิดหนึ่ง ในตอนแรกฉันไม่รู้ว่าจะใช้เงินสกุลไหนซื้อของในหมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น แต่ในเมื่อเขาบอกราคามาเป็นบาท ฉันจึงจ่ายเงินบาทไปปกติ ซึ่งก็เหมือนกับเมืองที่อยู่ติดชายแดนไทยทั่วไปที่เราใช้เงินบาทซื้อของได้เลย  

เดินไปอีกนิดก็เห็นซุ้มรณรงค์เรื่องป้องกันโรคเอดส์และการสอนวิธีคุมกำเนิด จัดโดยองค์กรเอกชนที่มาจากฝั่งไทย มีคำอธิบายทั้งภาษามอญและภาษาไทย น้องๆไปตอบคำถามได้ของรางวัลเป็นผงซักฟอก สมุด ดินสอ (และถุงยางอนามัย?) มากันหลายคน นอกจากนี้ยังมีหนังกลางแปลงและมีนักร้องนักดนตรีที่ไปจากฝั่งไทย เล่นเพลงไทย  เล่นเพลงไทยจริงๆ ไม่ได้พิมพ์ผิด

20080305 เยาวชนมอญในมือแม่ และธงชาติมอญในมือเยาวชน
เยาวชนมอญในมือแม่ และธงชาติมอญในมือเยาวชน

ฉันไม่นึกว่าจะได้ฟังเพลง “รักจางที่บางปะกง” หรือเพลงของ “พลพล” ในเมืองมอญ แล้วก็ไม่นึกด้วยว่าจะได้ยินเพลง “Slow Motion” ของโจอี้บอย ดังกระหึ่มออกมาจากบ้านคนมอญในเมืองมอญ แต่ว่าก็ว่าเถิด โลกาภิวัตน์เข้าไปถึงทุกหนทุกแห่ง แม้หมู่บ้านชนบทอย่างบ่อญี่ปุ่นก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้น หรืออาจเป็นเพราะบ้านบ่อญี่ปุ่นเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดชายแดนไทย และมีคนมาทำงานในเมืองไทย จึงรับวัฒนธรรมและกระแสต่างๆ จากไทยไปมากก็เป็นได้ วัยรุ่นบางคนก็พูดภาษาไทยชัดมากและด่ากันเป็นภาษาไทยอย่างคล่องแคล่ว ภาษาอังกฤษก็พอพูดกันได้ เวลาที่ฉันสื่อสารภาษามอญอย่างกระท่อนกระแท่นออกไปแล้วเขาไม่รู้เรื่อง ฉันก็จะพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งเขาก็ตอบฉันมาเป็นภาษาอังกฤษกันได้ทุกคน มากบ้างน้อยบ้าง เพราะมีอาสาสมัครที่เป็นฝรั่งมาสอนภาษาอังกฤษ อย่างในวันงานฉันก็เห็นอาสาสมัครที่เป็นฝรั่งประมาณ 3-4 คนมาร่วมงาน

วันที่ 22 กุมภาพันธ์อันเป็นวันงาน พวกเราตื่นมาแต่งตัวกันแต่เช้า ฉันสู้อุตส่าห์จำคำของศิษย์พี่ฉันซึ่งเป็นมอญเมืองไทยได้ว่า
“สไบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงมอญ สมัยที่รุ่นพี่เด็ก ยังเคยได้ยินคนแก่ดุสาวๆ ถึงขั้นร้องไห้ เพราะว่าไม่ได้ห่มสไบมาวัด เพราะมีคำพยากรณ์ทำนายไว้ทำนองว่าเมื่อโลกจะถึงกาลวิบัตินั้นจะเกิดเหตุวิปริตให้เห็นหลายประการ เช่นน้ำจะท่วมโลก กาจะออกไข่เป็นหงส์ รวมทั้งผู้หญิงมอญจะพากันทิ้งสไบ”

จะเห็นได้ว่าสไบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงมอญ ฉันจึงนำสไบสีแดงติดตัวมาด้วย เพราะรู้ว่าต้องใส่ชุดมอญ แต่ปรากฎว่าในกลุ่มที่ฉันไปด้วยนั้นมีเพียงฉันคนเดียวที่คล้องสไบ ส่วนคนอื่นใส่แต่เพียงเสื้อขาว หรือเสื้อยืดสีขาวพิมพ์ข้อความภาษามอญ มีน้อยคนนักที่ห่มสไบ เห็นแต่เพียงนางรำเท่านั้น

อ้าว ผู้หญิงมอญที่บ่อญี่ปุ่นไม่ห่มสไบกันแล้ว เอ...หรือว่าเขาใส่เฉพาะเวลาไปวัด นี่เป็น Culture shock อันหนึ่งที่ฉันพบตั้งแต่มาเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวมอญ สิ่งที่ฉันฟัง “บรรยาย” มา กับสิ่งที่ฉันเรียนรู้ในสถานการณ์จริงนั้นไม่เหมือนกัน แต่ก็เข้าใจว่าเพราะสังคมมอญเองก็มีความหลากหลายอยู่ในตัวและต้องปรับตัวไปตามสภาพภูมิสังคมที่ต่างกัน จะให้มีความเชื่อ รายละเอียดประเพณีรวมทั้งความนึกคิดแบบเป็นพิมพ์เดียวกันคงเป็นไปไม่ได้ ฉันก็ต้องเรียนรู้ต่อไป

20080305 ขบวนธงสวนสนามของทหารมอญ
ขบวนธงสวนสนามของทหารมอญ

คนในหมู่บ้านเริ่มเดินทางมาบริเวณสนามที่จัดงานตั้งแต่เช้าตรู่ เช้านี้ฉันจึงได้เห็นว่ามีการประดับธงชาติมอญไว้หน้าบ้านทุกๆ บ้าน ทุกๆคนพร้อมใจกันแต่งโสร่งแดง ผ้าถุงแดง เสื้อขาว ส่วนชายก็ใส่เสื้อขาวตารางแดง ซึ่งถือกันว่าเป็นชุดประจำชาติมอญ นอกจากคนในหมู่บ้านแล้ว ยังมีชาวมอญในหมู่บ้านอื่นที่อยู่ใกล้เคียง เช่นชาวมอญจากสังขละมาร่วมงานด้วยจึงมีคนเต็มสนาม

20080305 แถวเยาวชนมอญจากหมู่บ้านต่างๆ ที่มาร่วมในพิธี
แถวเยาวชนมอญจากหมู่บ้านต่างๆ ที่มาร่วมในพิธี

ส่วนงานนั้นเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 7.00 น. มีการสวนสนามของทหารมอญที่ประจำการณ์อยู่แถบเจดีย์สามองค์ หัวแถวเป็นขบวนกลองสวนสนาม ตามด้วยขบวนธงชาติมอญ ขบวนทหารชายและทหารหญิง จากนั้นเป็นการกล่าวสุนทรพจน์โดยนายชานตอย รองเลขาธิการพรรคมอญใหม่ (Nai Chan Toik – Joint Secretary of New Mon State Party) นายทหารมอญระดับสูง ประธานจัดงาน และตัวแทนมอญเมืองไทย แม้ฉันจะฟังภาษามอญไม่ออกแต่ก็พอจับใจความได้ว่าหลายๆ ท่านได้พูดย้อนไปตั้งแต่พระเจ้าสมละ และวิมละ กษัตริย์สองพี่น้องที่เกี่ยวข้องกับตำนานการสร้างเมืองหงสาวดี

 

20080305 การกล่าวสุนทรพจน์ของตัวแทนพรรคมอญใหม่
การกล่าวสุนทรพจน์ของตัวแทนพรรคมอญใหม่


ในตอนหนึ่งของการกล่าวสุนทรพจน์ ผู้ใหญ่ในงานท่านหนึ่งกล่าวว่า เราชาวมอญควรก้าวตามกระแสโลกาภิวัฒน์ให้ทัน และควรเพิ่มพูนความรู้เพื่อก้าวไปข้างหน้า อย่าคิดแต่เรื่องหนหลังอย่างเดียว ผู้ใหญ่อีกท่านได้กล่าวถึงสถานการณ์ “สมองไหล” ว่า ปัญหาปัจจุบันของชาวมอญนี้คือคนมอญที่มีความรู้นั้นได้ไปเรียน ไปทำงานหรือทำธุรกิจในประเทศอื่นแล้วไม่ได้กลับมา ซึ่งคนมอญควรอยู่ในประเทศของเรา จริงๆ แล้วผู้ที่กล่าวสุนทรพจน์มีมากกว่านี้ แต่นี่เป็นข้อความที่เพื่อนมอญของฉันแปลให้ฟัง ในขณะที่ข้อความอื่นเธอไม่ได้แปล ฉันเข้าใจว่านี่คงเป็นข้อความที่โดนใจเธอ และเธอเห็นด้วย ถึงแปลให้ฉันฟังอย่างกระตือรือร้นโดยที่ฉันไม่ต้องถาม

20080305 กองทหารเกียรติยศหน้าปะรำพิธีและผู้มาร่วมงาน
กองทหารเกียรติยศหน้าปะรำพิธีและผู้มาร่วมงาน

สิ่งที่ฉันชอบในงานนี้คือการร้องเพลงของเยาวชนมอญนี่เอง หลังจากประธานในพิธีเดินทางกลับ ก็มีการแสดงบนเวที หนึ่งในนั้นคือการร้องเพลงของเยาวชนมอญ ซึ่งมีเนื้อหาในทำนองว่า ชาวมอญควรเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อประเทศของเรา เราหวังว่าวันหนึ่งเราจะได้เลือกผู้นำที่ดีมาปกครองประเทศของเรา หงส์จะบินคืนสู่แผ่นดินมอญ การที่มอญไม่มีประเทศเพราะถูก “เขา” รังแก อย่างไรก็ตาม เหตุที่ฉันชอบนั้นไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาในเพลง แต่เป็นเพราะว่าในขณะที่ฉันถ่ายรูปเหล่านักร้องบนเวทีนั้น คนข้างล่างเวทีที่อยู่ใกล้ๆฉันก็พากันร่วมร้องเพลงนี้ด้วย เมื่อมองเข้าไปในสายตาของแต่ละคน ก็เห็นประกายแบบเดียวกับที่ฉันเห็นจากน้องเยาวชนมอญกลุ่มที่ฉันเดินทางมาด้วย เป็นประกายของความมีจุดมุ่งหมาย สิ่งนี้ทำให้ฉันอดชื่นชมไม่ได้ แม้ฉันจะไม่ใช่ชาวมอญ แต่เมื่อได้มาอยู่ในสถานที่ที่มีรัศมีแห่งความหวัง ความเบิกบานใจและความมุ่งมั่นเปล่งประกายเช่นนี้ ก็ย่อมทำให้ฉันมีความสุขและปลาบปลื้มไปด้วย

เยาวชนมอญ...แม้จะเปิดเพลงโจอี้บอยดังลั่น แต่หน้าบ้านก็ยังประดับธงมอญ
เยาวชนมอญ...แม้จะด่ากันเป็นภาษาไทยบ้าง แต่ก็นุ่งโสร่งแดงมางานวันชาติมอญ

แม้ว่ากำลังทหารและอาวุธอาจจะสู้เขาไม่ได้ แต่ก็มี “สำนึกรักชาติของเยาวชนมอญ” ที่ฉันเห็นว่าเป็น “ยุทธปัจจัย” ที่สำคัญกว่ากระสุนปืนหรืออาวุธทรงอานุภาพใดๆ

นี่คือความประทับใจของฉันที่มีต่อเยาวชนมอญและงานวันชาติมอญ ณ หมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น
   

บล็อกของ องค์ บรรจุน

องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุนเราต่างเกิดมาพร้อมข้อมูลส่วนบุคคล สามารถสืบย้อนโคตรวงศ์กลับไปได้ไม่รู้จบ ผิวพรรณ ฐานะ และเชื้อชาติของผู้ให้กำเนิดย่อมเป็นข้อมูลที่เกิดรอล่วงหน้า เป็นมรดกสืบสันดานมาต่อไป ส่วนศาสนาและการศึกษาถูกป้อนขณะอยู่ในวัยที่ยังไม่อาจเลือกเองเป็น หลังจากนั้นหากต้องการแก้ไขก็ทำได้เองตามชอบ ศัลยกรรมทำสีผิว ผ่าตัดแปลงเพศ หรือแม้แต่เปลี่ยนศาสนา กระทั่งสัญชาติก็เปลี่ยนกันได้ ยกเว้น “เชื้อชาติ” ที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยน ในงานเสวนา “มอญในสยามประเทศ (ไทย) ชนชาติ บทบาท และบทเรียน” เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร อาจารย์สุจิตต์ วงษ์เทศ กล่าวถึงความล้าหลังคลั่ง “เชื้อชาติ” ว่า…
องค์ บรรจุน
ภาสกร อินทุมาร ๑ จำได้ว่าเมื่อตอนที่ผมริเป็นนักดนตรีไทยใหม่ๆ ในวัยเด็ก และได้ฟังเพลง “ราตรีประดับดาว” เป็นครั้งแรกนั้น ผมรู้สึกว่าเพลงนี้ช่างเพราะเหลือเกิน เพราะทั้งทำนองและเนื้อร้อง โดยที่เนื้อร้องมีอยู่ว่า… วันนี้                                 แสนสุดยินดี พระจันทร์วันเพ็ญ ขอเชิญสายใจ                       …
องค์ บรรจุน
ขนิษฐา คันธะวิชัย ข้าพเจ้าทราบข่าวว่าในวันที่ 2 พฤษภาคม 2551 ได้เกิดพายุไซโคลนนาร์กีส จากอ่าวเบ็งกอร์  อันที่ได้สร้างความเสียหายทางด้านชีวิต และทรัพย์สินแก่ประชาชนชาวพม่า ที่อาศัยอยู่ในเขตตอนล่างของประเทศจีน จนถึงกลุ่มชนมอญ กระเหรี่ยง เป็นจำนวนมากโดยเป็นตัวแทนรัฐบาล ประชาชน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจ และเห็นใจมายังท่าน และประชาชนชาวพม่า จะสามารถฟื้นฟูเขตที่เกิดความเสียหายจากภัยพิบัติในครั้งนี้ด้วยความเคารพและนับถืออย่างสูงนครหลวงเวียงจันทน์ วันที่ 5 พฤษภาคม 2551  ข้างต้นนี้เป็นสาส์นแสดงความเสียใจที่ฯพณฯท่านบัวสอน บุบผานุวง นายกรัฐมนตรีแห่ง…
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน“มอญอะไร นุ่งผ้าถุงลายนี้ มีผ่าหลังด้วย มอญเค้าไม่มีกันหรอก” นักวิชาการมหาวิทยาลัยเปิดแถวเมืองนนท์ชี้ให้ดู“มอญของแท้ต้องโสร่งแดง นุ่งลอยชายแบบพระประแดงนั่นน่ะมอญแปลง เอาแบบกรมศิลป์มาใส่...” พิธีกรสุดเริ่ดดอกเตอร์หมาดๆ รายการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ข้างตำราพูดเสียงยาวแล้วยังจะอีกพะเรอเกวียน ตำหนิ ติ บ่น ก่น ด่า ถากถาง ตั้งความฝัน คาดหวังให้เป็น ขีดเส้นให้ตาม- - - - - - - - - - -จิตรกรรมฝาผนังวัดบางแคใหญ่ สมุทรสงคราม สมัย ร. 2 เป็นภาพสาวมอญนุ่งผ้าแหวกผ่านกลุ่มชายหนุ่ม และถูกเกี้ยวพาราสี
องค์ บรรจุน
ภาสกร อินทุมาร๑เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่คนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ อย่างน้อย ๒ กลุ่ม คือ จีนและมอญ  มีกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ผูกโยงอยู่กับ “อัตลักษณ์” (identity) ของชาติพันธุ์แห่งตน นั่นก็คือ “วันตรุษจีน” หรือการเฉลิมฉลองการขึ้นปีใหม่ตามคติจีน ที่รวมถึงการรำลึกถึงบรรพชนของตน และ “วันรำลึกชนชาติมอญ” ที่คนไทยในกลุ่มชาติพันธุ์มอญจากหลายจังหวัดทั่วประเทศมารวมตัวเพื่อกันทำบุญให้แก่บรรพชนผู้ล่วงลับ และร่วมกันจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม คนจีนและคนมอญได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในอาณาบริเวณที่เรียกว่าประเทศไทยในปัจจุบันตั้งแต่ก่อนการสถาปนาความเป็น “รัฐชาติ” (nation state) มาเนิ่นนาน…
องค์ บรรจุน
ขนิษฐา คันธะวิชัยอากาศช่วงนี้ช่างร้อนระอุได้ใจยิ่งนัก แม้ว่าฝนจะตกลงมาอย่างหนักในบางที แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หายร้อนแต่ประการใด ร้อนๆ แบบนี้พาให้หงุดหงิดง่าย แต่พ่อฉันมักจะสอนว่า “นี่คือธรรมชาติที่มันต้องเกิด เราต้องเข้าใจธรรมชาติ คนที่ไม่เข้าใจและโมโห หงุดหงิดกับธรรมชาติคือคนเขลา และจะไม่มีความสุข” *******************
องค์ บรรจุน
สุกัญญา เบาเนิดในช่วงเวลาของการแสวงประสบการณ์ ผู้เขียนมีความใฝ่ฝันมานานแล้วว่าครั้งหนึ่งในชีวิตขอให้ได้มีโอกาสทำงานโบราณคดีในภาคเหนือสักครั้ง  ดังนั้น เมื่อราวกลางปีพ.ศ. ๒๕๓๙ ผู้เขียนจึงเดินทางขึ้นเหนือและ เริ่มต้นงานแรกที่จังหวัดลำปาง คืองานบูรณะซ่อมแซมวิหารจามเทวี วัดปงยางคก ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง จากนั้นอีกไม่กี่เดือนเมื่องานที่ลำปางเสร็จสิ้นลง ก็เดินทางต่อมาที่เชียงใหม่ เพื่อทำการขุดศึกษาทางโบราณคดีที่เจดีย์เหลี่ยม หรือ กู่คำ เจดีย์สำคัญของเวียงกุมกาม ตลอดเวลาที่มองเห็นซากปรักหักพังของวัดร้างในเวียงกุมกาม น่าแปลกใจที่ตอนนั้นยังไม่ได้มีความคิดเกี่ยวกับมอญเท่าไรนัก…
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุนวงดนตรีพื้นเมืองของแต่ละชาติย่อมมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง แต่กระนั้นวงดนตรีที่อยู่ในภูมิภาคใกล้เคียงกัน ไม่ว่าพม่า มอญ ไทย ลาว เขมร ย่อมมีความคล้ายคลึงกันเพราะต่างได้รับอิทธิพลซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะดนตรีมอญกับไทยมีความใกล้เคียงกันมาก ทั้งเครื่องดนตรีและทางดนตรี เหตุเพราะไทยรับเอาอิทธิพลของดนตรีมอญมาไม่น้อย ในเมืองไทยจึงมีเพลงมอญเก่าแก่หลงเหลืออยู่มากมาย เช่น แประมังพลูทะแย กชาสี่บท ดอมทอ ขะวัวตอฮ์ เมี่ยงปล่ายหะเลี่ย เป็นต้น [1] รวมทั้งครูเพลงมอญในเมืองไทยยังได้มีการแต่งเพลงไทยสำเนียงมอญขึ้นมาอีกมากมาย เช่น มอญรำดาบ มอญดูดาว (เพลงประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) มอญอ้อยอิ่ง มอญแปลง…
องค์ บรรจุน
ขนิษฐา คันธะวิชัยสมาชิกชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพรื่นเริงบันเทิงใจและปลาบปลื้มชื่นชม...เคยมีคนบอกกับฉันว่า ฉันไม่ควรไปร่วมงานวันชาติมอญในเมืองมอญเพราะฉันต้องเคารพความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีกรรมและความเป็นชนชาติของชาวมอญ จึงทำให้ฉันไม่แน่ใจว่าการใช้คำ “รื่นเริงบันเทิงใจ” หรือ “ปลาบปลื้มชื่นชม” จะเป็นการสมควรหรือไม่ แต่นั่นก็คือความรู้สึกที่ฉันได้รับจากการไปงานวันชาติมอญครั้งที่ 61 ที่จัดขึ้น ณ หมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น (ปะลางเจปาน) ด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านมอญที่อยู่นอกพรมแดนประเทศไทย งานวันชาติมอญนี้จัดกันหลายที่ทั่วโลกที่มีชุมชนมอญอยู่ ทั้งในไทย มาเลเซีย เกาหลีใต้ อังกฤษ แคนาดา สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา…
องค์ บรรจุน
ภาสกร อินทุมาร“วันรำลึกชนชาติมอญ” ที่จัดขึ้นทุกปีนั้น ปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒-๓ กุมภาพันธ์ ณ วัดบ้านไร่เจริญผล ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ด้วยความร่วมมือของชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพ วัดบ้านไร่เจริญผล และพี่น้องชาวมอญจากหลายๆ พื้นที่ก่อนงานจะเริ่ม พวกเรา-คณะเตรียมงาน ประมาณ ๑๐ คน ได้เดินทางไปยังสถานที่จัดงานตั้งแต่วันที่ ๑ เพื่อเตรียมความพร้อมต่างๆ ตั้งแต่การตกแต่งบริเวณงานด้วยธงราวรูปหงส์ที่พวกเราทำขึ้น, การผูกผ้าและจัดดอกไม้, การตกแต่งเวที, การติดตั้งนิทรรศการเคลื่อนที่, การเตรียมสถานที่สำหรับทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพชนมอญ ฯลฯ…
องค์ บรรจุน
สุกัญญา เบาเนิดและแล้วสิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นจนได้....เมื่อเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ วันแรกของการจัดงานวันรำลึกชนชาติมอญครั้งที่ ๖๑ ณ วัดบ้านไร่เจริญผล ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดย วัดและชุมชนมอญบ้านไร่เจริญผล ร่วมกับชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพฯ ข้าพเจ้าตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงตระหนกของเพื่อนคนหนึ่งที่วิ่งกระหืดกระหอบนำข่าวของเช้านี้มาบอก “....เร็วๆมาดู อะไรนี่ ...ยกโขยง มากันเป็นร้อยเลยว่ะ...เต็มวัดไปหมด .....”  ในทันทีนั้นข้าพเจ้าจึงชะโงกหน้ามองจากหน้าต่างชั้นบนของศาลาการเปรียญที่พวกเราอาศัยซุกหัวนอนกันตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อมาเตรียมจัดงาน…
องค์ บรรจุน
องค์ บรรจุน“ทะแยมอญ” เป็นการละเล่นพื้นบ้านของมอญอย่างหนึ่ง สำหรับท่านที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน คงหลับตานึกภาพไม่ออก แต่อธิบายให้ฟังเพิ่มเติมว่า เป็นการแสดงที่ให้อารมณ์คล้ายๆ การแสดงลำตัดของไทย เป็นการร้องโต้ตอบด้วยปฏิภาณกวี มีทั้งเรื่องธรรมและเกี้ยวพาราสีของนักแสดงชายหญิงประกอบวงมโหรีมอญ คนที่ฟังไม่ออกก็อาจเฉยๆ แต่หากเป็นคนมอญรุ่นที่หิ้วเชี่ยนหมากมานั่งฟังด้วยแล้วละก็ เป็นได้เข้าถึงอารมณ์เพลง ต้องลุกขึ้นร่ายรำตามลีลาของมโหรี หรือบางช่วงอาจเพลินคารมพ่อเพลงแม่เพลงที่โต้กลอนกันถึงพริกถึงขิง อาจต้องหัวเราะน้ำหมากกระเด็นไปหลายวาทีเดียวทะแยมอญบ้านเจ็ดริ้ว อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ถ่ายเมื่อราวปี…