Skip to main content

นายน้ำ’ เป็นคำเรียกคนขับเรือที่คนลาวใช้เรียกกัน

กี่ชั่วอายุคนมาแล้วก่อนที่เราจะมีถนนใช้ แม่น้ำคือถนนชนิดหนึ่งในระหว่างทางที่เรือล่องขึ้น-ลงในแม่น้ำ ยากจะคาดเดาได้ว่า บรรพบุรุษของนายน้ำคนแรกเป็นใคร บนนาวาชีวิตที่ล่องไปบนสายน้ำกว้างใหญ่ และไหลเชี่ยว ชีวิตของพวกเขาล้วนฝากไว้กับบางสิ่งบางอยางที่บางคนเรียกมันว่าชะตากรรม


บ่อยครั้งที่ล่องเรือไปบนสายน้ำ เราล้วนแต่ต้องค้อมคารวะหัวใจอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา เมื่อเดินทางสู่ฝั่ง หากมองทะลุลงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ อะไรคือหมุดหมายที่ฉุดรั้งพวกเขาให้มุ่งหน้าสู่เส้นทางที่มองทางไม่เห็นทางเช่นนี้


ในบรรดานายน้ำที่มีอยู่มากมาย พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นนายของน้ำ เพราะแม่น้ำในบางช่วงของบางวันมีสิ่งที่ไมคาดคิดเกิดขึ้นเสมอ แต่เพราะสิ่งที่เป็นอยู่บวกกับประสบการณ์ที่สั่งสมมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้พวกเขาได้รับการเรียกขานเช่นนั้น

 

 

17_6_01


ไม่มีใครเป็นนายของน้ำได้หรอก นอกจากเทวดาบนฟ้า” อ้ายเทียม คนขับเรือเมืองห้วยทรายพูดขึ้นมาหลังจากขนของลงจากเรือเสร็จ


ใช่! เทวดาบนฟ้าเป็นนายของน้ำ และเป็นผู้ให้กำเนิดน้ำอย่างไม่ต้องมีข้อกังขา หากเราเชื่อเช่นนั้น ในเมื่อเทวดาเป็นผู้ให้กำเนิดน้ำ มนุษย์ผู้ได้ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโดยเฉพาะกับนายน้ำที่มีอยู่หลายร้อยคนบนหลายร้อยแม่น้ำ พวกเขาจึงต้องค้มคารวะแม่น้ำด้วยความรักทุกครั้งเมื่อเอาเรืออกจากฝั่ง


ในยามเช้าของชีวิตของนายน้ำแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป แต่ทว่าลึกลงไปในหัวใจดวงเท่ากำปั้นของพวกเขาหาได้แตกต่างกัน นายน้ำบางคนใช้เรือเป็นบ้าน เพราะต้องเดินทางรอนแรมไปสู่ปลายทางข้ามวันข้ามคืน บางครั้งก็เป็นเดือน มุก คนเรือจากบ้านผาเลียบ เมืองปากลายก็เช่นเดียวกัน เขามีเรือที่เพิ่งต่อขึ้นมาใหม่เป็นบ้าน เพราะมุก และแววคู่ชีวิตจะใช้ชีวิตในเรือเป็นส่วนมาก


ทุกครั้งที่มีโอกาสได้พูดคุยกับนายน้ำแต่ละคน พวกเขามักจะบอกเป็นอย่างเดียวกันว่า กว่าจะพาเรือออกสู่แม่น้ำต้องเรียนรู้ทางน้ำมาไม่น้อย ความรู้ที่พวกเขาได้มาถูกส่งผ่านมาทางคนใกล้ชิดแทบทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นพ่อ พี่ หรือญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากจะบอกว่าอาชีพของพวกเขาคือการเสี่ยงบนสนามชีวิตที่เต็มไปด้วยคำสาปคงไม่ผิดบาปนัก เพราะนายน้ำแต่ละคนจะได้รับการถ่ายทอดอาชีพนี้มาจากคนใกล้ชิดของตัวเองแทบทั้งสิ้น มันจึงดูเหมือนว่าพวกเขาเป็นบุคคลที่ถูกสาป บางคนเคยเลิกขังเรือไปแล้ว แต่ก็ต้องกลับมาขับอีก ซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะถามหาเหตุผลในเรื่องนี้กับพวกเขา


ลึกลงไปก็ยิ่งยากกว่าที่จะบอกได้ว่า ทำไมบรรพบุรุษของพวกเขาถึงเลือกที่จะส่งผ่านอาชีพนี้มาสู่คนใกล้ชิด แต่เมื่อมองลึกลงไปกว่านั้นอีกก็จะพบว่า คนที่จะมาเป็นนายน้ำได้ต้องมีบรรพบุรุษเป็นนายน้ำมาก่อน มันจึงไม่แปลกนักที่เขาจะส่งผ่านอาชีพนี้มาสู่คนที่พวกเขารู้จัก เพราะ พวกเขาควคิดแล้วว่า เส้นทางที่พวกเขาเลือกนั้นดีที่สุดแล้ว

 

17_06_2

ในจำนวนนายน้ำที่มีอยู่มากมาย พวกเขาจะค้อมคารวะให้กับนายน้ำเพียงบางคนเท่านั้น แต่คนนั้นต้องเป็นคนจริง และเก่งจริง เรียกว่าจดจำทุกโค้งน้ำ ทุกแก่งหิน ทุกร่องน้ำ ในแม่น้ำได้เป็นอย่างดี แม้ว่าแม่น้ำจะเปลี่ยนผ่านไปกี่ฤดูกาลก็ตามที


ทว่าสิ่งใดคือแรงกระตุ้นให้พวกเขาจดจำเส้นทางเดินเรือบนแม่น้ำได้ แน่ละหากจะบอกว่าความคุ้นชินเท่านั้นคือคำตอบคงไม่ผิดนัก เพราะยิ่งนายน้ำเอาเรืออกสู่แม่น้ำบ่อยเพียงใด เขาก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำได้มากเท่านั้น ในที่สุดจุดหมายปลายทางที่เรียกกันว่าความเป็นคนเก่ง และเป็นที่ยอมรับจึงเดินทางมาสู่เขาอย่างยากที่จะแยกออกจากกันได้

 

17_06_3

เซลล์สมองของคนเรามีพื้นที่ความจำมากมายเพียงใดนั้นเป็นสิ่งที่อาจจะรู้ได้ง่ายหากมีการตรวจสอบกันทางวิทยาศาสตร์ แต่ทว่าเซลล์สมองของเราทำไมจึงเลือกที่จะจดจำบางเรื่องราวได้ดีกว่าเรื่องอื่น บางทีเรืองนี้คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และศึกษากันอย่างยาวนาน โดยเฉพาะกับเซลล์สมองของนายน้ำ เหตุผลอย่างใดที่ฉุดให้เซลล์สมองของพวกเขาจดจำเส้นทางเดินเรือบนแม่น้ำเอาไว้ได้ตลอด แม้ว่าแม่น้ำจะเปลี่ยนไปเช่นไรก็ตามที หรือว่าบางทีคำตอบมันอาจซ่อนอยู่ในคำถาม หากมันเป็นเช่นนั้นจริง เราก็ไม่ต้องการคำตอบกันอีกต่อไป แต่หากว่าเราต้องการคำถามมากกว่า เราต้องเดินทางไปหาพวกเขา และค้อมคารวะพวกเขาด้วยหัวใจอันเปี่ยมด้วยความกว้างใหญ่ที่กว้างใหญ่ดุจเดียวกับสายน้ำที่พวกเขาจะพาเราเดินทางไปสู่ปลายทาง

บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
    ...เสียงปืนดังลั่นเปรี้ยง-คล้ายเสียงชะนีหวน
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมเริ่มพัดเปลี่ยนทิศจากเหนือลงใต้ ฤดูฝนใกล้พ้นผ่านแล้ว ฤดูหนาวกำลังเดินทางมาแทน ขณะอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าถัดจากกระท่อมหลังสุดท้ายตรงหาดทรายไปไม่ไกล คนจำนวนมากกำลังวุ่นวายอยู่กับการเก็บเครื่องมือทำงาน หากนับตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ก็ล่วงเข้าไป ๔ วันแล้วที่ช่างในหมู่บ้านถูกไหว้วานให้มาช่วยกันทำเรือไฟ เพื่อให้ทันใช้ในวันออกพรรษา หลังจมอยู่กับงานมาทั้งวัน เมื่อโรงงานต่อเรือไฟปิดประตูลงในตอนเย็น โรงมหรสพริมฝั่งน้ำก็เข้ามาแทน
สุมาตร ภูลายยาว
แม่น้ำนิ่งงันลงชั่วการกระพริบตาของพญามังกร ชาวบ้านริมฝั่งน้ำไม่มีใครรู้ว่า พญามังกรกระพริบตากี่ครั้ง หรือด้วยอำนาจใดของพญามังกร แม่น้ำจึงหยุดไหล ทั้งที่แม่น้ำเคยไหลมาชั่วนาตาปี วันที่แม่น้ำหยุดไหล คนหาปลาร้องไห้ปานจะขาดใจ เพราะปลาจำนวนมากได้หนีหายไปจากแม่น้ำ
สุมาตร ภูลายยาว
แดดร้อนของเดือนมีนาคมแผดเผาหญ้าแห้งกรัง หน้าร้อนปีนี้ร้อนกว่าทุกปี เพราะฝนไม่ตก ยอดมะม่วงอ่อนจึงไม่ยอมแตกช่อ มะม่วงป่าเริ่มออกดอกรอฝนพรำ เพื่อให้ผลได้เติบโต ความร้อนมาพร้อมกับความแห้งแล้ง ในความแห้งแล้ง ดอกไม้ป่าหลากสีกำลังผลิบาน มีทั้งดอกสีส้ม แดง ม่วง ความแห้งแล้งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
สุมาตร ภูลายยาว
‘ย่างเข้าเดือนห้า น้ำท่าก็เริ่มขอดแล้ง’ คนแก่บางคนว่าอย่างนั้น (ถ้าผมจำไม่ผิด) คำพูดนี้ได้สะท้อนบางอย่างออกมาด้วย นั่นคือสิ่งที่ผู้คนในยุคสมัยก่อนเห็น พอถึงเดือนห้า น้ำที่เคยมีอยู่ก็แห้งขอดลงเป็นลำดับ ผู้คนในสมัยก่อนที่จะก้าวเข้าสู่สังคมเกษตรอุตสาหกรรมเช่นทุกวันนี้ทำอะไรบ้าง ในสังคมภาคกลางยุคที่ทำการเกษตรไม่ใช่อุตสาหกรรม หน้าแล้งไม่มีใครทำนา เพราะทุกคนต่างรู้ว่า หน้าแล้งแล้วนะ น้ำท่าจะมาจากไหน แต่พอยุคอุตสาหกรรมเกษตรเรืองอำนาจ หน้าแล้งผู้คนก็ยังคงทำนา เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมการเกษตรกันอยู่
สุมาตร ภูลายยาว
ผู้ดีตีนแดง-ขอ โทษ เท้าแดง ตะแคงเท้าเดิน เวลาเหยียบปุ่มปมของพรมผืนนุ่มนิ่มราวกับปุยเมฆ นั่นแหละเท้าของผู้ดี และโลกของผู้ดีมีแต่น้ำครำ –น้ำคำ แห่งการหลอกลวง ทั้งผู้ดีจริง และผู้ดีกลวง ขณะเดินย่ำไปบนเส้นทางสู่ร้านอาหารเลิศหรู เมนูไข่คาเวียกับบรั่นดีแก้วทรงสูงดัดจริตวางรอ ผู้ดีน้ำครำละเลียดเมรัยรสคมผ่านลำคอ และละเลียดไข่คาเวียที่มีอยู่นับจำนวนได้บนจานราคาแพงกว่าการขึ้นห้องกับปอง ของโฉน ไพรำ ผู้ดี น้ำครำมองออกไปนอกหน้าต่างสูงลิบของห้องอาหารโรงแรมเสียดฟ้า เบื้องล่างแม่น้ำไหลเอื่อยเหนื่อยปานจะขาดใจตาย ผู้ดีน้ำครำละเลียดไข่คาเวียราคาแพง เพื่อเลิศหรูมีหน้ามีตา…
สุมาตร ภูลายยาว
สายลมหนาวพัดมาพร้อมกับสายฝนที่โปรยสายลงมา ว่ากันว่านี่คือฝนหลงฤดู! กาแฟแก้วของวันเป็นคาปูชิโน่ร้อนสองแก้ว แต่ไม่ใช่ของผมเป็นของลูกค้าต่างชาติ รสชาติของกาแฟเป็นอย่างไรในเช้านี้ ผมไม่อาจรู้ เพราะไม่ได้ชิม หลังสตรีมนมสดจนร้อนได้ที่ กลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่นโชยออกมา และพร้อมแล้วสำหรับการดื่ม-กิน
สุมาตร ภูลายยาว
เนิ่นนานหลายปีแล้วที่ผมพเนจรจากบ้านเกิด แต่หลายๆ ความรู้สึกเกี่ยวกับบ้าน ผมไม่มีทางลืมได้เด็ดขาด บางค่ำคืนที่มีโอกาสอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง ด้วยความสงบเงียบ ภาพบ้านเกิดจะย้อนกลับมาสู่ความทรงจำ-ความทรงจำในวัยเยาว์เกี่ยวกับบ้านเกิด
สุมาตร ภูลายยาว
เวลาผ่านไปเร็ว ยามที่เราโตขึ้น เราเชื่อเช่นนั้น เพราะเราโหยหาเวลาของวัยเยาว์ เมื่อเราเติบโตขึ้นเป็นลำดับมีหลายความรู้สึกของวัยเยาว์ที่หล่นหายไปอย่างไม่อาจเรียกคืนกลับมา ราวกับสายน้ำที่ไหลไกลออกไปทุกทีๆ มิอาจหวนกลับมาเป็นสายน้ำได้เช่นเดิม แต่กลายเป็นสายฝนพรำลงมาแทน หากพูดถึงอดีตแล้ว บางด้านที่เลวร้าย เราอยากผ่านเลย แต่กลับจำได้ฝังใจ...
สุมาตร ภูลายยาว
บุนทะนอง ซมไซผล แปลโดย สุมาตร ภูลายยาว    ๑.ผลน้ำเต้าบุ่ง และวรรณคดีพื้นเมือง ถ้าจะให้พูดถึงความสัมพันธ์ไทย-ลาว ความเชื่อมโยงด้านวรรณคดีของชนชาติเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำของ สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าคิดถึงคือ น้ำเต้าบุ่ง
สุมาตร ภูลายยาว
ดอกเกดเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ลำต้นมีลักษณะเหมือนต้นปาล์ม เวลาออกดอก ดอกจะส่งกลิ่นหอม คนเฒ่าคนแก่จะนิยมนำไปบูชาพระและนำมาทัดหู ผมไม่รู้เหมือนกันว่าดอกไม้ชนิดนี้จะมีอยู่ทั่วไปในประเทศไทยหรือมีเฉพาะที่ภาคอีสานและประเทศลาว
สุมาตร ภูลายยาว
จากใบไม้ใบสุดท้ายถึงซิ่นไหมผืนเก่าๆ: ๒ เรื่องสั้นซีไรต์บนแผ่นดินเบื้องซ้ายแม่น้ำของ (โขง) เมื่อพูดถึงวรรณกรรมบนแผ่นดินฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงแล้ว หลายคนคงอดที่จะพูดถึงวรรณกรรมชิ้นคลาสสิกเช่น ‘สังสินไซ’ ไม่ได้ เพราะสังสินไซเป็นวรรณกรรมพื้นบ้านที่คนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงรู้จักมากที่สุดชิ้นหนึ่ง นอกจากสังสินไซแล้ว ผลงานของนักเขียนลาวหลายคนในความรับรู้ของคนไทยคงหนีไม่พ้นผลงานเขียนของท่านมหาสีลา วีระวงค์ ผู้รจนางานมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ในนาม ‘ท้าวฮุ่งและขุนเจือง’